ไรยาราวกับถูกสายฟ้าฟาด อึ้งตะลึงอยู่กับที่
เมื่อคืน……เมื่อคืนคนที่อยู่ค้างคืนที่โรงแรมกับสาริศาคือธนพัต?
เพราะฉะนั้น แผนการของเธอคือล้มเหลว?
ไรยาโกรธจนแทบอยากจะกรีดร้องขึ้น แต่ต่อหน้าธนพัต เธอไม่กล้าเสียมารยาท จึงได้แต่กำหมัดแน่น กัดริมฝีปากไม่หันไปมองสาริศา หันหลังแล้วจะจากไป
“ไรยา เธอรอก่อน”
แต่สาริศาได้เรียกเธอให้หยุดลงด้วยเสียงสูง
ไรยาหันหลังกลับมา แล้วมือกอดอกทั้งสองข้าง ประสานตากับเธอโดยไม่แสดงความอ่อนแอออกมา
“ไรยา เธอจงฟังให้ดีนะ ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง” สาริศามองดูไรยาด้วยสายตาเย็นชา “แต่ถ้าเธอกล้าใช้วิธีที่ต่ำทรามมารังแกกลั่นแกล้งฉันอีก ฉันก็จะหนามยอกเอาหนามบ่ง”
ไรยาตัวสั่นเทา แต่ยังคงรักษาความเย่อหยิ่งของตัวเองไว้ หันหลังแล้วจากไป
หลังจากที่ไรยาจากไป สาริศากับธนพัตก็ได้ขึ้นรถไป
ตลอดทาง สาริศานั่งเงียบ ๆ อยู่ในรถ แต่ในหัวสมองกลับครุ่นคิดไม่หยุด
เมื่อคืนคนที่วางยาจะต้องเป็นไรยาอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน น้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง สามารถคิดเรื่องวางยามาทำลายความบริสุทธิ์ของเธอ ช่างทำให้จิตใจห่อเหี่ยวจริง ๆ!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ไรยาทำกับเธอในอดีต เธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา!
คืนนั้นเมื่อสองปีก่อน ภาพคล้ายกับครั้งนี้มาก หรือว่าจะเป็นฝีมือของเธอ
ธนพัตเห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงเขย่าไหล่ของเธอเบา ๆ “สาริศา คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า หรือ……จนเพลียเกินไป?”
สายตาชรัณที่มุ่งจดจ่ออยู่ท้ายรถด้านหน้า แต่เพียงสามคำ‘เพลียเกินไป’ได้เข้ามาในใบหู จึงทำให้คิดเลยเตลิดในบัดดล จนหน้าแดงขึ้น
เพลียเกินไป?
สาริศาชะงัก คิดถึงเมื่อคืน ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงก่ำขึ้น จึงจ้องเขม็งธนพัตแวบหนึ่ง
ธนพัตกระแอมเบา ๆ “เพลียแล้วก็ต้องเสริมบำรุงหน่อย”
“ไม่ ๆ ๆ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เพลีย” สีหน้าของสาริศายิ่งแดงก่ำขึ้น และรีบอธิบายอาการใจลอยเมื่อสักครู่นี้
“ไม่เพลีย? หรือไม่พวกเราทำ……”
สาริศารีบยื่นมือออกมาปิดปากของธนพัตที่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระนั้น
แต่มือของเธอกลับถูกเขาจับไว้
ธนพัตแสดงท่าทางที่จริงจังออกมา “พูดสิ เมื่อสักครู่คิดอะไรอยู่”
ธนพัตคนนี้รู้ทุกอย่างจริง ๆ
สาริศานั่งกลับไป แล้วหันหน้ามองไปยังนอกหน้าต่างที่รถจราจรคับคั่งไปด้วยรถยนต์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นเปล่งเสียงออกมาอย่างช้า ๆ “ฉันกำลังสงสัยเรื่องเมื่อสองปีก่อนว่ามีความเกี่ยวข้องกับไรยา”
“อยากให้ผมช่วยคุณสืบไหม”
สาริศาลังเลครู่หนึ่ง
เมื่อก่อนเธอไม่มีพลังพอที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่ก่อน แต่ว่าตอนนี้เธอมีธนพัตคอยอยู่ข้าง ๆ เหมือนเธอมีพลังมีเรี่ยวแรงที่จะทำให้เธออยากสืบให้กระจ่าง ว่าตอนนั้นเป็นใครกันที่ทำให้เธอสูญเสียของที่สำคัญที่สุดไป!
“ค่ะ” สาริศาเห็นด้วย
ธนพัตนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมา ตอนนี้เห็นทีว่าสามารถบอกเธอได้แล้ว เขาจึงลองกล่าวหยั่งเชิง:“อันที่จริงผมได้เริ่มสืบมาบ้างแล้ว”
เขายังคงถือสาเรื่องราวในครั้งนั้น ไม่อย่างนั้นจะไปสืบทำไม
สาริศาแววตาหม่นลง แต่กลับไม่พูดอะไร เพียงแต่ถามขึ้น:“คุณสืบได้อะไรมา”
ธนพัตบอกสาริศาว่า เรื่องที่เธอถูกล่วงเกินเธอไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น แต่ว่าเป็นคนอื่น สำหรับตัวตนที่แท้จริงของคนนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการสืบค้น
ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นก็ยังเป็นผู้ชายอื่นอยู่ดี
สาริศาได้ยินข้อมูลนี้แล้ว ไม่ได้มีความสนใจมากนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...