เสียงเชียร์ในห้องทำงานดังกระหึ่ม แม้แต่ห้องทำงานของธีภพก็ได้ยินอย่างชัดเจน
เขาจึงเรียกสาริศามาที่ห้องทำงานของตัวเอง
เขามองข้อศอกของเธอด้วยความเป็นห่วง แววตาเต็มไปด้วยความกังวล “บาดแผลของคุณดีขึ้นแล้วเหรอ เป็นแผลเป็นหรือเปล่า”
สาริศาส่ายหน้า กล่าว:“ดูแลอย่างดี ไม่มีแผลเป็นค่ะ”
หลังจากการทักทาย ห้องก็เงียบลงอย่างกะทันหัน
ในห้องทำงานนี้ ธีภพสร้างความขัดแย้งกับสาริศาไว้ไม่น้อย เขาเคยเกลียดเธอ โทษเธอ ทรมานเธอที่นี่ สาริศาในตอนนั้นจะต้องเสียใจอย่างมากแน่นอน
เขาผิดไปแล้ว ผิดจนไม่สามารถที่จะให้อภัยตัวเองได้
“สาริศา ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณไปตามข่าวของธนพัต นี่เป็นความต้องการของลิลลี่” เมื่อเห็นท่าทางที่ระแวดระวังของสาริศา ธนพัตจึงรีบอธิบายทันที “ครั้งนี้ผมไม่ได้วางแผนสมรู้ร่วมคิดอะไรแต่อย่างใด ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนั้นกับคุณอีกแล้ว คุณให้อภัยผมได้ใช่ไหม”
ในตอนแรก สาริศาก็รู้สึกว่าการกระทำของธีภพนั้นยากที่จะให้อภัย เขาทำร้ายเธอมากจนยากจะลืมได้ลง
แต่ว่า การถูกโจมตีเพื่อแก้แค้นในครั้งนั้น เขากระโจนเข้ามาในกองไฟมาช่วยเหลือเธอโดยไม่คิดชีวิต ทั้งหมดนี้มีอะไรที่จะไม่สามารถให้อภัยได้อีก
ว่ากันว่ายิ่งรักมาก ความเกลียดชังก็ยิ่งมากตาม สาเหตุที่ธีภพเกลียดเธอ ก็เพราะไม่รู้ความจริงของเรื่องราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเชื่อใจในตัวเธอก็ตาม
สาริศาตอบกลับ:“ธีภพ ฉันไม่อยากจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณอีก ดังนั้นฉันไม่ได้เกลียดคุณแล้ว ฉันให้อภัยคุณ”
เธอยืนอยู่ด้านหน้าของเขา แต่ธีภพกลับรู้สึกเธอนั้นอยู่ไกลแสนไกลหลายพันไมล์
ดวงตาของธีภพเลิ่กลั่ก ไม่สามารถที่จะพูดต่อไปได้ จึงได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาขึ้น “เมื่อสักครู่ที่คุณดีใจอยู่ด้านนอก หรือว่าคุณจะไม่เป็นห่วงว่าธนพัตกับจงกลจะความสัมพันธ์กัน เรื่องราวต่าง ๆ มักไม่ได้เป็นเพียงโคมลอยโดยที่ไม่มีมูล ระหว่างชายหญิงนอกจากความรักแล้ว ไม่มีทางที่จะมีความเป็นเพื่อนได้”
เหตุผลที่ธีภพพูดขึ้นมานี้ สาริศาเธอย่อมเข้าใจดี ชายหญิงเมื่ออยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนกัน แต่มิตรภาพเพื่อนนั้นจะกลายเป็นความรักในสักวันหนึ่ง
แต่ว่า ธนพัตไม่ใช่คนแบบนั้น ธนพัตเป็นผู้ชายที่มีความรักบริสุทธิ์
ความรักยาวนานที่เขามีต่อพชิรา การปกป้องตัวเองในรูปแบบทุกวิถีทาง ไม่ใช่ชายใดที่จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
สาริศาจ้องมองมาทางธีภพ “ฉันเชื่อใจเขา ธนพัตเป็นสามีของฉัน ฉันเข้าใจเขาดี จงกลก็แค่ดาราสาวคนหนึ่ง เมื่อเทียบกับพชิราในตอนนั้นแตกต่างกันไม่รู้กี่ชั้น”
ธีภพตะลึงชะงัก
เธอรู้จักคนที่ชื่อพชิรา?
เห็นทีธนพัตคงได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กับเธอแล้ว
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ช่างสนิทสนมกันจริง
เขาถามกลับ:“พชิราไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ที่พูดอยู่คือเรื่องของคุณ สาริศา พวกคุณเพิ่งรู้จักกันนานเท่าไหร่เชียว คุณถึงเข้าใจเขาได้ดีขนาดนี้”
สาริศาเบนสายตาไปยังนอกหน้าต่าง แล้วกล่าวเบา ๆ “คนบางคนแค่มองตาแวบเดียวก็เข้าใจทั้งชีวิต การอยู่ด้วยกันระหว่างคนสองคนก็คือการเชื่อใจซึ่งกันและกัน ฉันเชื่อใจธนพัต เหมือนกับที่ธนพัตเชื่อใจฉัน”
รอให้สาริศาออกจากห้องทำงานไปแล้ว ในใจของธีภพวกวนอยู่กับคำพูดประโยคสุดท้ายของเธอ
เขาได้กระทำความผิดอันใหญ่หลวงที่ไม่ควรกระทำ ก็คือการไม่เชื่อใจสาริศา
ในตอนนั้นความบริสุทธิ์ดุจดอกพุดซ้อนสีขาว เธอที่จิตใจดี แน่วแน่ ไร้เดียงสา ได้ดึงดูดให้เขาตกหลุมรักเธอ
แต่ด้วยเขามีครอบครัวที่มีชื่อเสียง มีคนไม่น้อยที่โลภในความรวยของเขา ดังนั้นเขาจึงปิดบังสาริศาเรื่องของตัวเอง
รูปถ่ายในตอนนั้น เขาไม่แม้แต่จะไตร่ตรอง ก็เชื่อว่าสาริศานั้นทรยศเขา ถ้าหากว่าเขาฟังเธออธิบายสักหน่อย ยอมที่สงบสติอารมณ์แล้วมาวิเคราะห์ วันนี้ทั้งคู่ก็คงไม่กลายเป็นคนแปลกหน้าเช่นนี้
ธีภพรู้สึกว่าตัวเองได้สูญเสียสาริศาไปแล้ว สูญเสียหัวใจของเธอไปแล้ว
ตอนกลางวันวุ่นอยู่กับการทำงานต่าง ๆ พอตกกลางคืน พวกสาริศาสองสามคนได้เตรียมพร้อมทุกอย่าง แล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารเจียงหนานด้วยกัน
พวกเขามาถึงที่นี่ตอนหกโมงครึ่ง และได้จองโต๊ะไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว
เมย์กับณฉัตรแกล้งแสดงเป็นคู่รัก
พวกเขาได้ซ่อนกล้องไว้ตรงที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย แล้วก็ทำการรอ
หนึ่งทุ่มตรง พวกเขาก็เห็นธนพัตกับจงกลเข้ามาในร้านอาหารจริง ๆ โดยคนหนึ่งนำหน้าอีกคนหนึ่งตามหลัง
คืนนี้จงกลดูมีสวยเสน่ห์มากเป็นพิเศษ เพียงเห็นก็รู้ได้เลยว่าได้ผ่านการแต่งตัวอย่างประณีตพิถีพิถัน
รูปร่างที่เพอร์เฟกต์จนทำให้สาริศารู้สึกละอายใจ
ชุดราตรีแหวกอกเต็มไปด้วยความนุ่มนวล จงกลยังแต่งหน้าแบบสโมคกี้อายส์หนา ๆ ซึ่งเข้ากับบรรยากาศราตรีที่มืดมิดนี้
เมย์แอบถอนหายใจกล่าว “สมกับเป็นเทพธิดาประจำชาติจริง ๆ"
ส่วนณฉัตรนั้นมองอย่างตะลึงตั้งนานแล้ว
“เฮ้ พวกเธอมืออาชีพกันหน่อยสิ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องถ่ายรูปมาให้ได้”
สาริศายิ้มแล้วเตือนสติทั้งสองคนให้ตั้งหน้าตั้งตา
โต๊ะนั้น จงกลได้สั่งอาหารเสร็จแล้ว และสายตาก็ไม่ได้ละไปจากตัวของธนพัตอีก
เธอก้มหน้ายิ้มเบา ๆ “จะนัดกับประธานธนพัตทั้งทีช่างยากเย็นจริง ๆ เลยนะคะ นานแค่ไหนแล้วที่พวกเราไม่ได้เจอกัน”
ธนพัตตอบกลับอย่างสุภาพ:“ขอเพียงมีการร่วมมือ พวกเราต้องได้เจอกันอย่างแน่นอน”
“ได้ยินมาว่าประธานธนพัตคุณแต่งงานแล้ว?” สายตาคมกริบของเธอมองเห็นแหวนของเขา
ธนพัตพยักหน้าแล้วยกมุมปากขึ้น
จากนั้นทั้งคู่ก็สนทนาเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ ทั่วไป
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ พร้อมกับไวน์แดงหนึ่งขวด
ณฉัตรแอบเปิดกล้องขึ้น
ธนพัตเข้ามาก็เหลือบเห็นพวกของสาริศาแล้ว
พนักงานได้รินไวน์แก้วหนึ่งให้กับจงกล
ทั้งคู่ชนแก้วกันจากนั้นก็ดื่มกันจนหมดแก้ว
กล้องของณฉัตรเริ่มทำการถ่าย
สเต๊กร้อน ๆ หอม ๆ ได้มาเสิร์ฟแล้ว
จงกลได้ห้ามการบริการของพนักงานไว้
เธอกล่าวอย่างออดอ้อนออเซาะ:“คุณพัทคะ สเต๊กนี้คุณหั่นให้เค้าหน่อยสิคะ ไม่อย่างนั้นฉันคงทานไม่ลง”
ธนพัตครุ่นคิด แล้วพยักหน้า
ธนพัตหั่นสเต๊กอย่างละเอียดแล้วยื่นไปให้จงกล
เมย์กับณฉัตรเห็นฉากนี้แล้วก็ฟินสุด ๆ
ในที่สุดก็ได้ข้อมูลแล้ว!
แต่สีหน้าของสาริศากลับดูแย่ขึ้น
ต้องรู้ว่าธนพัตยังไม่เคยหั่นสเต๊กให้เธอเลย แต่กลับหั่นให้กับจงกล
เมย์กล่าวอย่างมีตาหามีแววไม่ :“ฉากนี้มอง ๆ แล้ว ทั้งคู่ดูเหมือนมีความสัมพันธ์กันจริง ๆ เห็นทีตำแหน่งของคุณนายตระกูลกีรติเมธานนท์คงจะสั่นคลอนเสียแล้ว ผู้ชายล้วนเจ้าชู้กันทั้งนั้น”
เมย์คิดไม่ถึง คำพูดที่บอกว่าคุณนายตระกูลกีรติเมธานนท์ ความจริงก็ได้นั่งอยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง แถมยังเป็นผู้บงการการถ่ายรูปในครั้งนี้อีกด้วย
ฝั่งนั้น จงกลถือแก้วไวน์ขึ้น แล้วเขย่า จากนั้นเดินทีละก้าวมาที่ด้านหน้าของธนพัต
“คุณพัทคะ โฆษณาถ่ายทำราบรื่นขนาดนี้ พวกเราควรจะฉลองกันสักหน่อยนะคะ”
ยังไม่ทันรอให้ธนพัตได้ตอบสนอง จงกลก็สะดุดล้มไปซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา เหล้าไวน์สาดโดนตัวของพวกเขาทั้งคู่
ลูกตาของสาริศาเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา!
มารยาผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
ธนพัตเดิมทีอยากจะระเบิดความโกรธ แต่ทันใดที่เห็นสีหน้าอันขมขื่นของสาริศา จึงได้เปลี่ยนใจทันที
เขาประคองจงกลไว้ แล้วหยิบทิชชูมาเช็ดช่วยไวน์ที่กระโปรงและทรวงอกให้กับเธอ
เมย์กับณฉัตรสบตากันแวบหนึ่ง แล้วอ้าปากค้าง
ข่าวใหญ่!
พาดหัวข่าวใหญ่!
【ดาราสาวเมาแล้วสะดุด ประธานธนพัตได้ดูแลอย่างทะนุถนอม!】
พาดหัวข่าวเช่นนี้ช่างช็อกตะลึงมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ