“มีอะไร!” มายด์เห็นสีหน้าของสามีเปลี่ยนไป ก็รีบถามออกมาด้วยความกังวลทันที
ใจของสาริศาก็ได้บีบรัดแน่นขึ้นมาเหมือนกัน รู้สึกกังวลไปหมด
“คุณ...” สามีของมายด์ได้เงยหน้าขึ้นมามองสาริศาไปแวบนึง ลังเลไม่กล้าพูดออกมา “ดูจากบนสัญญาณชีพจรของคุณนั้น...ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้ท้องเลย”
“จะเป็นไปได้ยังไงกัน!” มายด์กับสาริศาประหลาดใจกันออกมาไม่หยุด
“ฉันได้ตรวจที่โรงพยาบาลของตระกูลกีรติเมธานนท์มาตลอดเลยนะ...”
สาริศาได้พูดพึมพำกับตัวเองออกมา
แต่ดูเหมือนว่าสามีของมายด์เองก็ไม่มีทางจะโกหกเธอเลยเหมือนกัน ดังนั้นแล้ว...
สาริศาได้มีการตอบสนองออกมาทันที
เป็นโรงพยาบาลที่มันเกิดปัญหา!
เกิดเรื่องจำพวกนี้ขึ้น สาริศาเองก็ไม่มีกะจิตกะใจอยู่กินข้าวต่อแล้วเหมือนกัน รีบลามายด์กับสามีของมายด์ แล้วโบกรถที่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้านมาคันนึง แล้วรีบเข้าไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลในเขตเมืองข้างเคียง
ตรวจสอบดูแล้ว ผลปรากฏว่า...
สาริศาเดินออกมาจากโรงพยาบาล ได้ถือใบรายงานผลของโรงพยาบาลไปด้วยสภาพที่จิตใจไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว คิดถึงคำพูดของคุณหมอ
อันที่จริงแล้วสาริศาไม่ได้ตั้งครรภ์เลย เพียงแค่ไปกินยาชนิดหนึ่งเข้าไปอย่างไม่ระวัง ส่งผลให้ประจำเดือนล่าช้าไป และยังทำร้ายกระเพาะไปด้วยจึงได้อาเจียนออกมา
ดังนั้นแล้วทั้งหมดมันก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นภาพลวงที่มีคนจงใจสร้างมันขึ้นมาทั้งนั้น เพื่อให้คนอื่นคิดว่าสาริศาท้อง แล้วก็มีคนซื้อคนจากโรงพยาบาลของตระกูลกีรติเมธานนท์แล้วทำรายงานการตรวจครรภ์ปลอมให้เธออีกด้วย
นึกถึงความเป็นห่วงเป็นใยของคุณปู่ การชื่นชมยินดีของธนพัต การดีใจของทุกคนขึ้นมาแล้ว จู่ ๆ สาริศารู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากขึ้นมา รู้สึกผิดกับพวกเขาเป็นอย่างมาก
สาริศานั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เปิดสมุดรายชื่อเพื่อนจากคนแรกไปจนถึงคนสุดท้าย จากคนสุดท้ายไปจนถึงคนแรกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ได้ต่อสายไปยังเบอร์ของธนพัต
ธนพัตกำลังทำงานอยู่ที่ห้องทำงาน จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น เห็นว่าเป็นสายของสาริศา ธนพัตรับสายไปโดยไม่มีลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ฮัลโหล?”
“ธนพัต...”
เสียงที่ประดับไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้นของสาริศาได้ดังออกมาจากทางปลายสาย ธนพัตตื่นตระหนกขึ้นมา
“เป็นอะไรไป?” เขารีบถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษ ขอโทษ...” สาริศาพูดสะอึกสะอื้นออกมา “ฉันไม่ได้ท้องลูกของคุณ ฉันทำให้ทุกคนต้องผิดหวังแล้ว”
ธนพัตนิ่งอึ้งไป
ไม่มีลูก?
ภายในใจของเขาก็ได้ดำดิ่งลงไปแวบนึงเหมือนกัน แต่เพียงไม่นานเขาก็ไม่ไปสนใจจิตใจที่ได้ดำดิ่งลงไปนี้แล้ว
เพราะเสียงร้องไห้ของสาริศา ได้ยินแล้วมันทำให้เขาเจ็บปวดใจขึ้นมา
“คุณอยู่ที่ไหน?” เขาได้เอ่ยปากพูดออกไปอย่างรวดเร็ว “ผมจะไปหาคุณเอง”
หลังจากที่บอกชื่อโรงพยาบาลไปแล้ว สาริศาก็วางสายไป
ฟ้าเริ่มจะมีฝนตกลงมาปรอย ๆ หลังจากนั้นฝนก็ตกลงมาหนักขึ้นเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับน้ำตาและอารมณ์ที่ได้ดิ่งลงไปอย่างหยุดเอาไว้ไม่อยู่ของสาริศาเลยก็ไม่ปาน
สาริศาไม่ได้พกร่มมา กลับไปไม่ได้ และก็ไม่อยากจะขยับเลยด้วย เธอได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงป้ายรถเมล์ไปอย่างนั้น สภาพจิตใจซึมเศร้าไร้ความรู้สึกไปหมด น้ำฝนได้ถูกพัดเข้ามาที่บนร่าง ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดเดียว
นึกถึงอารมณ์ปีติยินดีของทุกคนในช่วงนี้ขึ้นมา สาริศารู้สึกได้แค่เพียงการเยาะเย้ยกันประหนึ่งการตบหน้ากัน ยิ่งคิดมันก็ยิ่งโทษตัวเองขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ
ในทันใดนั้นเอง สาริศาก็ได้ถูกอุ้มขึ้นมาลอยอยู่กลางอากาศ เข้าสู่อ้อมกอดที่อบอุ่นหนึ่ง ขจัดความเหน็บหนาวออกไป
สาริศาหันหน้าไปมองก็สบเข้ากับดวงตาที่ทั้งโกรธและทั้งเจ็บปวดใจของธนพัต
สาริศานึกว่าธนพัตจะกำลังโกรธที่ตนไม่ได้ตั้งท้อง จึงขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา พูดขอโทษออกไปอย่างต่อเนื่อง “ขอโทษ...ขอโทษ...”
ธนพัตรู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจของมันเจ็บขึ้นมามากกว่าเดิมเสียอีก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...