พวกบุรินทร์ก็มองสาริศาไปอย่างช็อกตกใจ นึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมปล่อยไรยาไป
“เงื่อนไขอะไร?” บุรินทร์ถามออกไปอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณโอนหุ้นในเครือตระกูลกีรติเมธานนท์ครึ่งนึงให้ธนพัตไป” สาริศาพูดเน้นออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
สาริศายังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ท่านประเสริฐได้บอกกับตนว่า ที่ธนพัตไม่มีหุ้นอยู่ที่ตระกูลกีรติเมธานนท์ทั้งหมดล้วนเป็นการขัดแข้งขัดขาของบุรินทร์ทั้งนั้น ดังนั้นแล้วเธอจึงอยากจะถือโอกาสนี้ช่วยธนพัตวางแผนเพื่อให้เขาได้ผลประโยชน์ไปด้วยเลย
“เป็นไปไม่ได้!” บุรินทร์โพล่งออกไปโดยสัญชาตญาณ
“งั้นไรยากับเด็กในท้องของเธอ พวกคุณก็อย่าหวังว่าจะสามารถรักษาเอาไว้ได้” สาริศาเองก็ไม่มีความปรานีเช่นกัน
สีหน้าของบุรินทร์ได้ย่ำแย่ขึ้นมาทันที
ขนาดธนพัตเอง เมื่อได้ยินเงื่อนไขของสาริศาแล้ว ก็ได้ประหลาดใจไปเล็กน้อย
เขานึกไม่ถึงว่าสาริศาจะรู้เรื่องพวกนี้ ยิ่งนึกไม่ถึงเลยว่าในตอนนี้เธอก็ยังคิดเผื่อเขาอีก
บุรินทร์กับธีภพลังเลไปซ้ำ ๆ ในที่สุดก็ได้กัดฟันเอ่ยออกมา “ได้ ฉันรับปากเธอ! ธนพัต แกรีบปล่อยไรยาไปสิ”
ถึงยังไงเด็กในท้องของไรยาสำหรับพวกเขาแล้วก็สำคัญมาก
แต่ธนพัตกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลย เพียงแค่ขมวดคิ้วมองสาริศาไป “สิ่งเหล่านี้ที่ไรยาได้ทำกับคุณไป มันควรจะได้รับโทษอยู่แล้ว คุณไม่ต้องทำเพื่อผม แล้วลำบากตัวคุณเอง”
สาริศายิ้มออกมาเล็กน้อย “ฉันไม่ได้ลำบาก ฉันก็แค่อยากจะช่วยคุณจริง ๆ”
ธนพัตรู้สึกซาบซึ้งใจจนต้องเผยออกมาบนใบหน้า
ไรยาช่วยเอาไว้ได้ แต่บริษัทของตระกูลธราภักดิ์กลับไม่ไม่มีทางรอด สาริศาได้รับข่าวมาอย่างรวดเร็ว สุวิทย์ได้หนีไปต่างประเทศเนื่องจากเรื่องหนี้สิน
วันต่อมา ท่านประเสริฐมาหา นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาหลังจากที่ได้ท้องปลอมไป
ท่านประเสริฐเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของสาริศา ไม่ได้พูดถึงเรื่องการตั้งครรภ์ขึ้นมาเลย
ท่านประเสริฐยิ่งเป็นแบบนี้ สาริศาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมา
สาริศานั่งอยู่ตรงข้ามกับท่านประเสริฐ และพูดขอโทษออกไปไม่หยุด
“คุณปู่คะ ขอโทษ...ทำให้คุณปู่ต้องผิดหวังแล้ว”
“เด็กโง่” ท่านประเสริฐมองสาริศาไปด้วยความสงสารและเห็นอกเห็นใจ “นี่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ ปู่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว รู้เรื่องพวกนั้นที่ไรยากับบุรินทร์พวกเขาได้ทำลงไป ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกบุรินทร์ไอ้สัตว์เดรัจฉานพวกนี้จะทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ มันช่างเป็นความอัปยศของตระกูลกีรติเมธานนท์ของฉันจริง ๆ เลย”
ท่านประเสริฐไม่อยากให้สาริศาเสียใจไป จึงเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องไปเอง คุยไปถึงเรื่องหุ้นแทน ท่านประเสริฐมองสาริศาไปด้วยความชื่นชม
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอแล้ว หินก้อนใหญ่ภายในใจของฉันมันก็ได้ตกลงพื้นไปได้เสียที”
คิดถึงเรื่องนี้สาริศาจึงได้ฝืนมีชีวิตชีวาออกมาได้สักหน่อย แล้วพูดตอบออกไป “ถึงยังไงเก็บไรยาเอาไว้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาต้องการไรยา พวกเราไม่สู้ฉวยโอกาสนี้ทำดีเพื่อหวังผลไปสักหน่อย ให้บุรินทร์และธีภพรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของธนพัตกัน แล้วถือโอกาสนี้เอาหุ้นส่วนหนึ่งกลับมา อย่างนี้แล้ว ธนพัตก็จะสามารถมีชื่อและสถานะตามสมควรขึ้นมาได้สักหน่อย”
“เด็กดี” ท่านประเสริฐมองเธอไปอย่างซาบซึ้งใจ “เธอนี่นะ จิตใจดีมากเกินไป มักจะทำดีกับคนอื่นเกินไป คิดเผื่อคนอื่นไปอย่างนี้ เธอเคยคิดถึงตัวเองบ้างหรือเปล่า?”
“ตัวเอง?” สาริศาตะลึงงันไปสองวิ แล้วยิ้มพลางพูดออกไปว่า “ฉันมีอะไรให้น่าคิดกัน”
“เธอไม่กลัวว่าไรยาจะกลับมาแก้แค้นเธออีกเหรอ?” ท่านประเสริฐส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย “ยังไงหลังจากนี้ไป เธอก็ระวังสักหน่อยจะดีกว่านะ"
เพียงไม่นานท่านประเสริฐก็กลับไป หลังจากที่เขาไปแล้ว ในหัวของสาริศาก็ยังนึกย้อนไปถึงคำพูดที่ท่านประเสริฐได้ทิ้งเอาไว้ก่อนไปอยู่
กลัวไรยา? กลัวว่าเธอจะแก้แค้นเหรอ?
แต่นั่นมันจะยังไงกัน
เธอมีธนพัต ก็เพียงพอแล้ว
เรื่องนี้ในที่สุดมันก็ดูเหมือนว่าจะผ่านไปแล้วเสียที บุรินทร์กับธีภพแล้วก็ไรยาในช่วงนี้ก็ไม่ได้มาหาเรื่องวุ่นวายอะไรกับสาริศาอีก สาริศาเองก็พักผ่อนไปอย่างสบายอารมณ์เช่นกัน
ถูกธนพัตบังคับให้พักอยู่ที่บ้านสักสองสามวัน ในฐานะที่เป็นนักข่าวคนหนึ่ง วิธีการฆ่าเวลาที่เหลืออยู่ของสาริศาก็เหลือเพียงแค่ไถทวิตเตอร์เล่นไปเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...