ชรัณเข็นธนพัตไปที่ตรงหน้าหน้าจอขนาดใหญ่ ธนพัตหยิบปากกาเลเซอร์สีแดงที่บนโต๊ะขึ้นมา หันไปใช้ปากกาวงไปที่หน้าจอใหญ่ไปหลายจุด
“ตรงนี้...ตรงนี้...แล้วก็ตรงนี้...”
“แผนงานหลายจุดนี้มองไปแล้วมันสมบูรณ์แบบมาก ทุกจุดมันล้วนแล้วแต่จะเป็นการกดขี่คู่แข่งไปได้ และก็เป็นการพยายามดึงตัวเองขึ้นไปทั้งนั้นเลย”
“แต่ว่า! ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าทำไปด้วยความรีบร้อนไป รีบคิดพิจารณาไปหรือเปล่า แผนการชุดนี้มันเลยไม่ได้คำนึงถึงการต่อต้านเข้ามาเลย ไม่ได้พิจารณาถึงการกำหนดนโยบายเฉพาะหน้าที่ว่าจะเตรียมพร้อมรับมือกับการโต้กลับของฝ่ายตรงข้ามยังไงเลยสักนิดเดียว”
“ในความคิดของผมนั้น ถ้าหากว่าแผนงานนี้มันเป็นแผนงานเร่งด่วนที่ต้องเอามาใช้ในทันที ไม่สู้บอกว่ามันเป็นการเล่นขายของแบบเด็ก ๆ ที่มันมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นจริงได้ แต่มันก็มีโอกาสแปรเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมได้ด้วยเช่นกันไปไม่ดีกว่า”
“ถ้าแผนงานของคุณเป็นแบบนี้ไปหมดแล้วล่ะก็ อย่างนั้นแล้วผมก็คิดว่า บริษัทของคุณไม่ต้องการแล้วก็ช่างมันไปเถอะ!”
ธนพัตแสดงท่าทีค่อย ๆ บีบคั้นออกไปทีละนิด ๆ บุรินทร์โกรธจนทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ก็จนปัญญาทำอะไรไม่ได้เลยอีก
แต่ธนพัตเหมือนจะยังไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก
“อ้อ ไม่ใช่สิ” ธนพัตเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา คำพูดต่อจากนั้นก็ได้ทำให้บุรินทร์แทบจะพังทลายไปอีกครั้ง
“ถ้าผมจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ บริษัทของคุณธนพัต ช่วงนี้เหมือนกับว่าจะ “ไม่ต้องการก็ช่างมันไป” แล้วจริง ๆ นี่ครับ”
“แก...”
ธนพัตไม่ได้มีความกังวลและลังเลใด ๆ เลย ได้พูดออกไปต่อว่า “ช่วงนี้ผลกำไรทั่วไปและราคาหุ้นของบริษัทของคุณธนพัตต่างก็ตกอยู่ในสภาวะตกลงไปอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่มีหลายจุดของบริษัทได้เสื่อมมูลค่าไปแล้ว ผมสามารถเข้าซื้อมันมาครองได้โดยไม่ต้องลงแรงเลยด้วยซ้ำ”
ธนพัตพูดมาอย่างนี้แล้ว หลายคนที่เดิมทีก็อยากจะคัดค้านเขาก็ได้ไร้เสียงไปโดยสมบูรณ์
แท้จริงแล้ว แต่ละคำแต่ละประโยคนี้มันล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น พวกเขาไม่อาจค้านออกไปได้เลย
ถ้าธนพัตควบคุมได้ง่าย ๆ อย่างบุรินทร์ก็ดีสิ...
เหล่าคณะกรรมการกำลังทอดถอนหายใจกันอยู่ในใจ
ถ้าเป็นแบบนี้ ด้วยสมองอันชาญฉลาดและรอบคอบอย่างนี้ของธนพัตแล้ว กีรติเมธานนท์กรุ๊ปจะต้องสามารถก้าวสูงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน
น่าเสียดาย เขาเป็นตัวแทนของTNP Group นี่ก็ได้กำหนดให้ทุกคนทำได้แค่เพียงต้องยืนฝั่งตรงข้ามกันไปเท่านั้น
ตอนที่ธนพัตไป ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกันออกมาเลย ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรกันออกมาเลยสักคำเดียว ได้รับอิทธิพลมาจากออร่าที่ทรงพลังของธนพัตกันไปหมด
และการกำหนดนี้ก็มีคนชอบและก็มีคนไม่พอใจอยู่ด้วย
หลังจากที่การประชุมคณะกรรมการบริหารได้เสร็จสิ้นลง บุรินทร์ก็ได้กลับไปที่ห้องทำงาน
เห็นกองเอกสารที่รอเซ็นกองอยู่เต็มโต๊ะ ความโกรธที่ได้สั่งสมมานานก็ได้ระเบิดออกมา
กวาดเอกสารและแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะตกลงไปกับพื้นเสียงดังเพล้งออกมา เลขาที่ได้ยินมาจากด้านนอกประตูก็ขวัญหนีดีฝ่อไปหมด
และในตอนนี้ไรยาก็มา
ไรยาที่ถูกปล่อยตัวออกมาไม่มีที่ให้กลับไป จึงได้ไปอยู่กับธีภพชั่วคราว
พอเธอได้ข่าวว่าธนพัตไปที่บริษัทของตระกูลกีรติเมธานนท์ ก็กังวลว่ามันจะมีเหตุการณ์อะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมา จึงรีบมาที่บริษัท
“เธอมาทำไม!” บุรินทร์พูดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ฉันมาดูสักหน่อยว่ามันมีเรื่องอะไร”
“มีเรื่องกับผีมันสิ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องทั้งนั้น!” บุรินทร์ด่าว่าออกไปอย่างรุนแรง “ทั้งหมดมันเป็นเพราะแผนพัง ๆ ของเธอทั้งนั้น!ทั้งหมดมันเป็นเพราะเรื่องงามหน้าที่เธอทำไปทั้งนั้น ถึงได้ทำให้ธนพัตมีโอกาสได้มาคณะกรรมการบริหาร!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กในท้องของเธอ มันคุ้มค่าที่ฉันจะต้องปล่อยหุ้นออกไปเพื่อไถ่ตัวออกมาเหรอ!”
“ผู้หญิงที่ทำให้งานไม่สำเร็จแล้วยังเสียการเสียงานไปหมดอีก! เธอยังมีหน้ามาเจอฉันอีก!”
ไรยาถูกด่าจนย่ำแย่มาก ภายในใจก็ยิ่งเกลียดชังสาริศามากขึ้นกว่าเดิม
ในทันใดนั้นเอง ภายในใจของไรยาก็มีแผนการใหม่ขึ้นมา
“คุณอย่ารีบกังวลไปก่อนเลย” ไรยาพยายามทำให้อารมณ์ของบุรินทร์ได้สงบลง “ฉันคิดวิธีใหม่ได้แล้ว ครั้งนี้จะต้องสามารถโจมตีธนพัตกับสาริศาไปอย่างจังได้แน่ ๆ”
“คุณฟังฉันพูดนะ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...