“เธอเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน พรสวรรค์ในด้านการออกแบบก็แทบจะไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์เลยด้วย เธอได้ฟันฝ่าอุปสรรคมาจนประสบความสำเร็จ ได้รางวัลใหญ่จากการแข่งขันนักออกแบบมามากมายที่ต่างประเทศเลยนะ เอ๋ ฉันยังได้ข่าวมาว่าเธอเป็นถึงสาวสวยที่มีคะแนนความสวยสิบเต็มสิบคนนึงเลย สวยกว่าดาราสาวที่สวยเป็นอันดับหนึ่งในวงการบันเทิงคนนั้นเสียอีกน่ะ!”
ทุกครั้งที่เมย์พูดข่าวซุบซิบพวกนี้ออกมา ใบหน้าได้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอยู่เต็มไปหมด
“แต่เธอลึกลับมากมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยมีสื่อบันเทิงหรือนักข่าวไหนเคยได้สัมภาษณ์เธอ ถ่ายภาพเธอได้มาก่อนเลยนะ! แต่ว่า ครั้งนี้สำนักพิมพ์ของพวกเราได้ร่วงตกลงไปที่ก้นเหวแล้วก็ได้เกิดใหม่จริง ๆ ! ได้ข่าวมาว่าช่วงนี้Elaineได้ปล่อยข่าวมาว่าจะตกลงยอมรับการสัมภาษณ์จากสำนักพิมพ์หนึ่งเจ้า นี่ถือว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่เลยนะคะ เพื่อนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจแบบเดียวกันไม่ใช่ว่าจะต้องต่อสู้แย่งชิงกันไปให้หัวร้างข้างแตกกันไปข้างนึงเลยหรือไง!”
“พี่ดูสิคะ!” เมย์ชี้ไปที่ห้องทำงานของธีภพ “บรรณาธิการใหญ่เองก็กำลังพยายามช่วงชิงโอกาสมาให้ได้อย่างสุดกำลังด้วยเหมือนกันนะคะ!”
ในตอนที่ทั้งสำนักพิมพ์กำลังหารือกันอยู่ว่าจะทำยังไงถึงจะสามารถสัมภาษณ์Elaineมาได้ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอยู่นั้นเอง จู่ ๆ ธีภพก็ได้ออกมา
“ทุกคนเงียบกันก่อน ฉันมีเรื่องจะมาประกาศให้ทุกคนทราบ”
บรรณาธิการใหญ่ออกปากพูดมา ทุกคนต่างก็พากันหยุดการถกเถียงกันไป แล้วมองธีภพไปด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย ภายในออฟฟิศได้ตกอยู่ในความเงียบ เงียบสนิทชนิดที่ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นมาเลย
ธีภพกระแอมออกไปเล็กน้อย “ข่าวดีคือElaineตกลงที่จะรับการสัมภาษณ์จากFS Magazineของพวกเราแล้ว”
ทุกคนเมื่อได้ยินดังนั้นแล้วก็พากันโห่ร้องกันอย่างมีความสุขขึ้นมาพร้อมกัน
ตื่นเต้นดีใจกันมาถึงครึ่งทาง ทุกคนก็เริ่มให้ความสนใจไปที่ผู้โชคดีที่จะถูกเลือกไปสัมภาษณ์Elaineคนนั้นว่ามันจะเป็นใครกันแน่
ชญาภาเชิดคางออกมาอย่างถือดี มองไปที่ธีภพ ราวกับคาดเดาได้ล่วงหน้าว่าอนาคตของตนมันจะต้องสว่างไสวรุ่งโรจน์มากเพียงใด
“คนที่รับผิดชอบในการสัมภาษณ์Elaineครั้งนี้” ธีภพพูดเปลี่ยนไปอีกประเด็นหนึ่ง กวาดสายตามองออกไปรอบ ๆ ออฟฟิศ จากนั้นก็ได้เอาสายตาล็อกเป้าไปที่สาริศา “เป็นสาริศา”
ชญาภาเหมือนกับได้ถูกตบหน้าไปทันที รู้สึกเพียงแค่ว่ารู้สึกไม่ดีและอับอายเป็นอย่างมาก
ทั้ง ๆ ที่เธอมั่นใจมากว่าจะต้องประสบความสำเร็จไปอย่างแน่นอนแล้วแท้ ๆ !
ทำไมกัน!
ทำไมพอสาริศากลับมา โอกาสที่ทรงเกียรติที่หาได้ยากนี้มันจะต้องตกไปที่สาริศา?
“บรรณาธิการใหญ่! ฉันไม่ยอมค่ะ!” ชญาภาส่งเสียงพูดออกมาอย่างหยิ่งยโส ทุกคนต่างก็หันมองมายังเธอ
“ไม่มีอะไรยอมไม่ยอม นี่เป็นคำสั่งและการกำหนดการเอาไว้ เว้นเสียแต่ว่า เธออยากจะให้ทั้งสำนักพิมพ์เดินลงเหวไปเพราะการทำโดยพลการของเธอ” ธีภพตำหนิเสียงเข้มออกไป
ชญาภาไม่กล้าและก็ไม่อาจหักล้างออกไปอีกได้เลย ทำได้แค่เพียงกัดริมฝีปากล่างแน่น แล้วมองสาริศาไปอย่างดุดัน ในสายตามีความดื้อรั้น ไม่ยินยอมและความโกรธแค้นชิงชังออกมา
สาริศารู้สึกเพียงแค่ว่าด้านหลังได้ถูกสายตาหนึ่งจับจ้องมาจนรู้สึกชาขึ้นมา หันหน้ากลับไป ชญาภาได้กลับมามีสีหน้าปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ได้ยินข่าวและการจัดการนี้ไป ภายในออฟฟิศได้มีเสียงถอนหายใจกันออกมาทันที และก็ยังระคนไปด้วยความไม่พอใจและมีข้อสงสัยกันอยู่บ้าง
ทำไมถึงให้สาริศาไปสัมภาษณ์?
ว่ากันด้วยเรื่องงานที่ตรงกับสายและวัยวุฒิแล้ว เธอก็ไม่มีคุณสมบัติทั้งนั้นเลย
หรือจะเป็นเพราะว่ารัศมีภรรยาของท่านประธานTNP Groupบนร่างของสาริศาอย่างนั้นเหรอ?
คิดมาถึงตรงนี้ ในสายตาของทุกคนที่มองสาริศา ได้มีความอิจฉาและการดูถูกเหยียดหยามเพิ่มออกมาด้วยเล็กน้อย
แต่ก็คำนึงถึงสถานะที่เป็นภรรยาของท่านประธานของสาริศาไปด้วย ทุกคนก็เลือกที่จะแสดงความยินดีไปด้วยท่าทีที่ไม่แยแส “สุดยอดไปเลยนะริศา สัมภาษณ์ครั้งนี้ต้องพึ่งเธอแล้ว”
“ยินดีด้วยนะ พี่ริศา” เมย์ดีใจแทนสาริศาจากก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียว
ในความคิดของเธอนั้น เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานที่ปากอย่างใจอย่างพวกนั้นแล้ว เธอยอมให้สาริศาเป็นคนถูกเลือกไปสัมภาษณ์Elaineคนนั้นเองเสียจะดีกว่า
“ขอบใจนะ” สาริศาปากบอกขอบคุณไป แต่ความสงสัยภายในใจมันกลับรังแต่จะเพิ่มขึ้นไม่ลดลงไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...