ไรยามองเงาร่างเบื้องหลังที่ได้เดินออกไปของพวกเขาอยู่ในร้านอาหารเพียงลำพัง ร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ร้านต่างก็มองดูกันไปอย่างสนอกสนใจ
สาริศาที่อยู่อีกด้านนึง เห็นเจ้าหญิงน้อยของตระกูลธราภักดิ์ คนที่รังแกตนตั้งแต่เด็ก ปฏิบัติไม่ดีกับตนมาตลอด ไรยาผู้ที่งดงามและหยิ่งยโสอย่างกับหงตัวหนึ่งมาโดยตลอด นึกไม่ถึงเลยว่าวันนึงจะจนตรอกและสิ้นหวังได้ถึงขั้นนี้ มันให้ความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเปกันไปหมด
เพียงแต่ว่า เธอไม่อาจเห็นใจไรยาได้เลยจริง ๆ
ไรยา ตอนนี้เธอเจ็บปวดทรมานหรือเปล่า? แล้วเธอรู้หรือเปล่า? ความเจ็บปวดทรมานเมื่อสองปีก่อนของฉัน ความสิ้นหวังที่มันไม่ได้น้อยไปกว่าเธอเลยสักนิด จุดจบในตอนนี้ของเธอก็เป็นเธอที่เป็นคนก่อมันขึ้นมาเอง แต่ฉันล่ะ? เมื่อตอนนั้นฉันทำผิดอะไร!? เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ความบริสุทธิ์ถูกทำลายไปจนไม่เหลือ ผู้คนพากันชี้หน้าด่า เดินอยู่ที่ในมอ นั่งอยู่ในคลาสเรียน ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนพากันกระซิบกระซาบกัน ทำเป็นตีวัวกระทบคราดกันออกมา
ธีภพคนที่ฉันรักสุดหัวใจเมื่อตอนนั้นก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอยไปอีก ฉันต้องสิ้นหวัง เจ็บปวดแค่ไหน เธอรู้หรือเปล่า?
ถ้าไม่ใช่ว่าบนโลกนี้มันยังมีแม่ที่ยังต้องการฉันอยู่ ทุกวันนี้คงจะไม่มีคนที่ชื่อสาริศาแล้วล่ะมั้ง
สาริศาคิดถึงตรงนี้แล้ว มุมปากได้แสยะออกมาอย่างเยาะหยัน
โชคดี โชคดีที่ผู้ชายเมื่อสองปีก่อนคือธนพัต โชคดีที่เมื่อวันนั้นที่ร้านอาหารเจียงหนานได้เจอกับธนพัต โชคดีที่สามีของตนในตอนนี้เป็นธนพัต
คิดถึงตรงนี้ สาริศาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าไปมองไปทางธนพัต
ธนพัตหันหน้ามา แล้วพูดกับสาริศาว่า “คุณดูสิ นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ละครมันเพิ่งจะเริ่มต้น ทางบุรินทร์ ผมเองก็จะต้องให้เขาได้ชดใช้ให้ได้อย่างแน่นอน”
“อืม” สาริศาพยักหน้าออกมาเล็กน้อย แอบตกใจกับความคิดที่ได้ตรึกตรองมาอย่างดีและความหน้าเนื้อใจเสือของธนพัตขึ้นมา แต่ก็รู้สึกยินดีขึ้นมาจริง ๆ ที่ตอนนี้ตนได้เป็นภรรยาของธนพัต ลงเรือลำเดียวกับธนพัตไป
“เอาล่ะ ดูละครเสร็จแล้ว พวกเราก็ควรจะกินอะไรกันได้แล้ว” ธนพัตยังคงมีใบหน้าที่สงบนิ่งออกมา ราวกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลย แล้วกดกระดิ่งเรียกพนักงานมา
เพียงไม่นานพนักงานก็มา ธนพัตสั่งอาหารไปสองสามอย่าง พลางพูดเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “แล้วก็ไล่ผู้หญิงที่นั่งร้องไห้แทบจะขาดใจคนนั้นออกไปด้วย ถ้าหล่อนอยู่ที่นี่ มันจะส่งผลต่อความอภิรมย์ในการรับประทานอาหารของฉัน”
พนักงานอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ได้พูดตอบออกมาอย่างรวดเร็วว่า “ได้ครับ คุณธนพัต โปรดรอสักครู่”
เพียงไม่นานไรยาก็ได้ถูกคนลากออกไป ตอนที่ออกไปนั้น ก็ยังคงร้องไห้คร่ำครวญแทบจะขาดใจอยู่เหมือนเดิม อย่างกับยายแก่เสียสติเลยไม่มีผิด ไม่ได้มีความสง่างามและหยิ่งทะนงอย่างเมื่อก่อนหน้านี้เลยสักนิดเดียว
ภายในใจของสาริศาพูดไม่ออกเลยว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง
แต่เดิมเธอนึกว่าธนพัตจะทรมานไรยา ก็จะต้องทำลายตระกูลธราภักดิ์ไปหรือไม่ก็ลงมือจัดการไรยาไปตรง ๆ ไปเลย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าธนพัตจะใช้วิธีแบบนี้ ช่วงชิงสิ่งที่ไรยาแคร์มากที่สุดไปเลย นี่มันแทบจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานเสียมากกว่าการฆ่าเธอไปเลยเสียอีก
สาริศากินข้าวเสร็จไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน รู้สึกเหนื่อยล้า จึงกลับบ้านไปพักพร้อมกับธนพัต
……
วันต่อมา สาริศากลับมาที่บริษัท เตรียมความพร้อมไปรอบนึง แล้วก็ได้รับเชิญให้เข้าไปสัมภาษณ์ Elaineนักออกแบบสาวสวยคนนั้น
Elaineมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง อยู่ในซอยเล็ก ๆ ใจกลางเมือง ไม่นับว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในระดับชั้นยอดที่สุด แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่แพงเอามาก ๆ เลยเช่นกัน จุดสำคัญที่สุดเลยก็คือประดับตกแต่งได้งดงามหรูหราเป็นอย่างมาก ดูเรียบ ๆ แต่ก็ไม่ได้เรียบง่ายมาก ดูมีระดับเป็นอย่างมาก
คนที่ในสตูดิโอไม่ได้เยอะมาก หลังจากที่สาริศาเข้าไปแล้ว ก็ได้ถูกพาไปที่ห้องรับแขก
รออยู่แค่ครู่เดียว เธอก็ได้ยินเสียงที่สง่างามและชวนให้หลงใหลเสียงหนึ่งเข้ามา——
“คุณสาริศา ขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนานแล้ว”
สาริศาหันหน้าไป ก็เห็นกับสาวสวยคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามา
เห็นตัวElaineแล้ว สาริศาถึงได้รู้ว่าคำพรรณนาพวกนั้นที่ในเน็ต เมื่อเทียบกับได้อยู่ต่อหน้าตัวจริงแล้วนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ได้พูดเกินจริงไปเลย อีกทั้งมันก็ไม่ได้เขียนถึงความงดงามหนึ่งในสิบส่วนของElaineออกมาเลย
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย สูงศักดิ์ งดงาม คำบรรยายทั้งหมดใช้มาที่ตัวของเธอแล้วมันไม่ได้ดูเกินจริงไปเลยสักนิดเดียว
Elaineยืนอยู่ที่ตรงนั้นไปอยู่อย่างนั้น พิงเข้ากับผนัง ก้มหน้าลง ผมยาวประบ่าสยายอยู่บนบ่า ภายใต้แสงสีทองของแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำที่สะท้อนลงมา อยู่ที่ตรงนั้นมองไปแล้วดูอ่อนโยนนิ่มนวลเป็นพิเศษไปเลย
สไตล์การแต่งตัวแบบยูนิเซ็กส์เรียบง่าย เสื้อแขนสามส่วนสีขาวกับกางเกงขากว้างสีดำ สวมอยู่ที่บนร่างของElaineแล้วเหมือนราวกับว่าจะหาคนที่สองที่จะสามารถสวยทัดเทียมกับเธอออกมาไม่ได้อีกเลย
การแต่งตัวเรียบง่ายอย่างมาก แต่พอมองไปโดยละเอียดแล้วกลับดูเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดูมีเลเยอร์ สอดคล้องกับความเป็นนักออกแบบของเธอเลยทีเดียว ทำให้ใครเห็นแล้วก็จะรู้สึกว่าเธอเหมือนกับว่าควรจะต้องเป็นแบบนี้ นิสัยแบบนี้ มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นกางเกงที่เป็นรูปแบบที่แข็งกระด้าง แต่อยู่บนตัวElaineแล้วก็ยังคงสามารถมองออกถึงความสูงศักดิ์และความสง่างามออกมาอยู่
แล้วมองร่วมกับประวัติโดยย่อที่ยอดเยี่ยมที่แสนจะยาวเหยียดพวกนั้นของElaineไปด้วยอีก สาริศาคิดแค่เพียงว่าใครสามารถแต่งงานกับElaineผู้หญิงแบบนี้ได้ คงจะเป็นความโชคดีที่ได้สั่งสมมาจากการช่วยดาราจักรให้พ้นภัยในชาติที่แล้วเลยล่ะมั้ง
สาริศาคิดว่าถ้าตนเป็นผู้ชาย จะต้องตกหลุมรักผู้หญิงแบบElaineอย่างนี้ไปอย่างแน่นอน ผู้หญิงสวย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นใครเมื่อมาอยู่ที่ตรงหน้าElaineแล้ว ต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกต่ำต้อยกันไปทั้งนั้น
ไม่เพียงเท่านี้ สาริศายังคิดอีกว่าElaineเหมือนจะดูคุ้นตาอยู่บ้าง
เธอมักจะรู้สึกว่าตนเหมือนกับว่าจะเคยเจอกับElaineที่ไหนมาก่อนเลย แต่ผู้หญิงที่สวยเอามาก ๆ อย่างElaine เธอจะเคยเจอแต่กลับไม่มีภาพจำอะไรเอาไว้เลยได้ยังไงกันล่ะ?
เธอคิดมากไปแล้วล่ะมั้ง สาริศาคิดไปอย่างนั้น
สาริศาใจไม่แข็งพอที่จะเข้าไปรบกวนภาพบรรยากาศที่งดงามนี้ไปได้ แต่Elaineเห็นได้ชัดว่าได้เห็นเธอแล้ว
สาริศาเดินเข้าไป แล้วพูดทักทายออกไป “สวัสดีค่ะคุณElaine ฉันคือสาริศานะคะ”
“อืม” Elaineจับมือกับสาริศาไปอย่างอัธยาศัยดี “ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญคุณมาสัมภาษณ์ได้”
“คุณชมกันเกินไปแล้วค่ะ สามารถมาสัมภาษณ์คุณได้ต่างหากที่เป็นเกียรติของฉันแล้ว” พูดจาทักทายกันตามมารยาทกันไปสองสามประโยค ทั้งสองคนก็ได้นั่งลงที่ตรงหน้าโต๊ะน้ำชาที่ในห้องรับแขกกันไป
เบื้องหน้าเป็นถ้วยน้ำชาแบบโปร่งใสที่มีความร้อนอบอวลออกมา สาริศาหยิบสมุดบันทึกจากในกระเป๋าออกมา เปิดหน้าคำถามออกมา จากนั้นก็เริ่มทำการถามออกไป
“ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับการได้รับรางวัลใหญ่ในกิจกรรมในครั้งนี้คะ?”
“เกณฑ์ในการคัดเลือกคู่ครองของคุณมีอะไรบ้างคะ?”
“คุณพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ในตอนนี้หรือเปล่าคะ?”
……
ในแต่ละคำถามที่สาริศาได้สัมภาษณ์Elaineไป Elaineก็จะตอบเธอมาด้วยท่าทีที่สุภาพอ่อนโยนตลอด อีกทั้งยังไม่มีความหงุดหงิดใด ๆ ออกมาเลยด้วย
สาริศาคิดว่าElaineเพอร์เฟกมากเลย ไม่เพียงแค่จะสวยเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถอีกด้วย และอีกอย่างตัวเธอเองก็ยังนิสัยดีอีกด้วย ไม่มีความหยิ่งและเข้าถึงยากแบบคนที่ประสบความสำเร็จเลยสักนิดเดียว
สุดท้ายสาริศาได้หยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า เตรียมที่จะถ่ายรูป แต่กลับถูกElaineขัดเอาไว้เสียก่อน
“ฉันขอปฏิเสธการถ่ายรูปค่ะ”
“ทำไมคะ!?” ถึงแม้ว่าจะสงสัย แต่สาริศาก็ยังเลือกที่จะเก็บกล้องกลับเข้าไปในกระเป๋าอยู่ดี เพราะถึงยังไง ตนก็ต้องเคารพความต้องการของผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ด้วยอยู่แล้ว
“เพราะว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม” Elaineยิ้มพร้อมกับตอบกลับมาอย่างคลุมเครือ
สาริศามองไปทางElaineที่ยิ้มแหย
สาริศารู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มักจะรู้สึกว่าเหมือนกับว่ามันจะมีมรสุมอะไรพัดเข้ามาทำลายความสุขที่ได้มาอย่างลำบากยากเข็ญของตนไปเลยก็ไม่ปาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ