หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 220

สาริศามักจะรู้สึกว่าคำพูดประโยคนี้ของElaineมันได้แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง จึงฝืนยิ้มออกไปเล็กน้อย สาริศาไม่ได้ไล่ถามซักไซ้ออกไปอีก มักจะมีสัญชาตญาณบางอย่างที่บอกว่าผลลัพธ์ของเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันเลย

ถามคำถามสุดท้ายออกไปเสร็จ สุดท้ายสาริศาก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปอยู่ดี “ทำไมคุณถึงต้องระบุด้วยว่าให้ฉันเป็นคนสัมภาษณ์ให้ได้เลยล่ะคะ?”

Elaineมองสาริศา แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย เหมือนกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสาริศาจะถามมาอย่างนี้ ในดวงตาได้มีความไม่อาจอธิบายออกมาได้แวบออกมาเล็กน้อย แล้วตอบคำถามของสาริศาไปด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงใจตรงไปตรงมา

“ฉันมีความสนใจใคร่รู้ต่อตัวประธานของTNP Group และก็ได้ข่าวมาพอดีว่าคุณคือภรรยาของเขา” Elaineพูด

“อ่า อย่างนี้นี่เอง” สาริศาพูดตอบไป

สาริศาเห็นยิ้มแบบไม่อาจอธิบายความคิดออกมาได้ที่ตรงมุมปากของElaineแล้ว ภายในใจมันได้เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ใจคิดว่า:คงจะไม่ได้เป็นศัตรูหัวใจของฉันหรอกมั้ง? Elaineสวยเสียขนาดนี้ ทั้งยังมีความสามารถฉลาดเฉลียวตั้งขนาดนั้น ถ้าเป็นศัตรูหัวใจของตนจริง ๆ อย่างนั้นแล้วตนจะต้องสู้เธอไม่ได้แน่เลย!

โอ้!สาริศาเธอกำลังคิดอะไรอยู่!? ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มั่นใจในตัวเอง เธอยังไม่เชื่อมั่นในความรักที่ธนพัตมีต่อเธออีกเหรอ?

แต่เห็นท่าทางที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ของElaineแล้ว เหมือนว่าจะเพียงแค่ชื่นชมธนพัตเฉย ๆ เท่านั้นจริง ๆ

เสน่ห์เฉพาะตัวที่ค่อนข้างจะมีแบบเต็มเปี่ยมของธนพัต ในทุก ๆ การเคลื่อนไหวได้ดึงดูดผู้หญิงเข้ามามากมาย สาริศาลอบตนหน้าตัวเองในใจ บอกกับตัวเองไปว่าเลิกคิดเพ้อเจ้อได้แล้ว

“ความสัมพันธ์ของพวกคุณดีมั้ยคะ?” ในตอนที่สาริศากำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้นเอง Elaineก็ได้ถามออกมาประโยคนึง

“อืม เขาดีกับฉันมากเลย รักฉันมาก ฉันเองก็รักเขามากเหมือนกัน” สาริศาเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย พลางพูดออกไป บนใบหน้าได้ประดับไปด้วยรอยยิ้มมีความสุขแบบสาวน้อยที่กำลังตกอยู่ในห้วงความรักคนหนึ่ง

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” ในดวงตาของElaineได้มีความเศร้าออกมาเล็กน้อย “ฉันเคยได้ยินกองทุนริศาที่TNP Groupได้ก่อตั้งขึ้นมาน่ะค่ะ ดูเหมือนว่าคุณธนพัตจะรักคุณมากจริง ๆ นะคะ”

“ก็...ค่ะ” สาริศาตอบออกไป “คุณElaineสวยเสียขนาดนี้ นิสัยก็ดี คุณเองก็จะต้องมีคนที่รักคุณและดีกับคุณอย่างแน่นอนเลยเหมือนกัน”

Elaineเลิกตาขึ้นมองสาริศาไปเล็กน้อย คิดว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของสาริศามันขัดหูขัดตาอย่างมาก เธอยิ้มออกไปเล็กน้อย พลางพูดออกไปเบา ๆ ว่า “คนที่ฉันรักมากจนสุดหัวใจนั้น เขาก็ดีกับฉันมากเหมือนกัน”

“ใครหรอคะ?” สาริศาถามออกไปด้วยความสงสัยไม่เคยจะได้ยินมาก่อนเลยว่าElaineยังมีคนรักกับเขาด้วย เธอได้ถูกทำให้เกิดใจที่อยากรู้อยากเห็นที่รุนแรงขึ้นมาแล้ว

“ตอนนี้พวกเราแยกทางกันชั่วคราว แต่ฉันก็รู้ว่า ภายในใจของเขานั้นจะต้องมีฉันอยู่อย่างแน่นอน เพราะว่าพวกเราต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครมาทดแทนกันได้ คุณว่าฉันคิดเพ้อฝันไปหน่อยหรือเปล่า?”

Elaineพูดไปแล้วก็ได้มองสาริศาไปด้วย มุมปากได้เผยรอยยิ้มที่ชวนให้น่าหลงใหลออกมาด้วย แต่ในดวงตากลับมีนัยแฝงที่มันอธิบายไม่ถูกแวบผ่านออกมาด้วยเล็กน้อย

“เออ ฉันเชื่อว่าผู้หญิงที่ดีงามอย่างคุณElaine คุณผู้ชายท่านนั้นจะต้องยังคงรักคุณอย่างลึกซึ้งอยู่เหมือนเดิมแน่นอน” สาริศาอยากรู้มากจริง ๆ คนที่สามารถทำให้Elaineยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอขนาดนี้ จะเป็นคนแบบไหนกันนะ? แต่เห็นท่าทางที่ไม่อยากจะพูดออกมาให้มากไปกว่านี้ของElaineแล้ว ก็ไม่ได้ถามออกไปต่อ

“ฉันอิจฉาความสุขของคุณมากเลยค่ะ” Elaineเห็นสีหน้าที่ยุ่งเหยิงบนใบหน้าของสาริศาแล้ว ก็ได้พูดต่อออกมาอีกที “เชื่อว่าผู้หญิงจำนวนมากบนโลกนี้ต่างก็จะต้องอิจฉาคุณเหมือนกับฉันกันทั้งนั้นเลยค่ะ”

“อิอิ” สาริศาหัวเราะออกไปเล็กน้อย “แต่ละคนต่างก็จะต้องเจอกับคนที่ใช่ของตัวเองกันทั้งนั้น”

“งั้นเหรอ? มันไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเป็นอย่างคุณสาริศาได้หรอกนะคะ ที่จะสามารถคว้าความสุขของตัวเองเอาไว้ได้น่ะ” Elaineพูดต่อออกมา

“แต่ความสุขที่เป็นของคุณไม่ช้าก็เร็วก็จะยังคงเป็นของคุณอยู่ดีนะคะ” สาริศาพูดออกไป

Elaineยิ้มออกมาเล็กน้อย มองสาริศาพลางตอบออกไปว่า “ขอให้สมพรปากนะคะ หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะคะ”

ตอนก่อนที่จะไปนั้น Elaineก็ได้มอบกล่องที่ห่อมาอย่างงดงามให้กับสาริศาไปกล่องนึง

สาริศาเปิดดู เป็นน้ำหอมที่ดูงดงามขวดหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีโลโก้แบรนด์อะไร แต่เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันมีมูลค่าไม่น้อยเลย

สาริศาได้ตื่นตะลึงไปเนื่องจากได้รับความเอาใจใส่กันมาอย่างไม่ได้คาดคิดมาก่อน แล้วพูดปฏิเสธออกไป “ไม่ได้นะคะ ของขวัญชิ้นนี้มันมีค่ามากเกินไป ฉันรับมันเอาไว้ไม่ได้หรอกค่ะ คุณElaine น้ำใจของคุณฉันรับเอาไว้แล้ว ของขวัญอะไรไม่ต้องก็ได้ค่ะ”

Elaineยิ้มพลางพูดออกไปว่า “ฉันชอบคุณมากเลย คุยกับคุณแล้วสบายใจมากเลย”

ริมฝีปากElaineได้โค้งคว่ำลงไปเล็กน้อย “ฉันก็แค่อยากจะเป็นเพื่อนกับคุณเท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่เลย แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉัน แล้วก็ไม่ต้องการของขวัญชิ้นนั้นฉันก็สามารถเข้าใจได้เหมือนกันค่ะ”

สาริศาคิดแล้วคิดอีก ตนเองก็ชอบเธอเหมือนกัน จึงไม่ได้ปฏิเสธออกไปอีก จึงได้ตอบรับไป

“ดีใจมากเลยที่คุณยอมเป็นเพื่อนกับฉัน” Elaineพูด

“คุณElaineคุณเกรงใจกันเกินไปแล้ว ฉันรับไม่ไหวหรอกค่ะ สามารถเป็นเพื่อนกับคุณได้มันเป็นเกียรติของฉันแล้ว”

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เรียกฉันว่าElaineก็พอแล้ว” Elaineพูดออกไป “ไม่ทราบว่าคุณสาริศาสะดวกแลกเบอร์โทรศัพท์กับฉันหรือเปล่า?”

“แน่นอนว่าได้อยู่แล้วค่ะ งั้นคุณก็เรียกฉันว่าริศาก็พอ ”

พูดไปแล้วElaineกับสาริศาได้แลกเบอร์โทรศัพท์กัน

การสัมภาษณ์สิ้นสุดลง คนขับรถก็ได้ส่งสาริศากลับไปที่บ้านไปเลยทันที

กลับมาที่บ้าน สาริศาหยิบน้ำหอมออกมาจากในกระเป๋า แต่ตัวเธอนั้นได้คิดหาข้อเท็จจริงไปมา ก็มองไม่ออกเลยสักเหตุผลเดียว จึงได้พ่นน้ำหอมที่Elaineให้มาไปที่บนร่างไปเลย

ต้องบอกเลยว่าน้ำหอมนี้มันหอมมากเลยทีเดียว Elaineสมกับที่เป็นนักออกแบบเลยทีเดียว รสนิยมไม่เลวเลย น้ำหอมนี้ดมไปแล้วมันหอมมาก แต่ก็ไม่ได้แสบจมูก และมันก็ไม่ได้แรงเลยด้วย ทั้งยังหอมติดทนนานอีกด้วย สาริศาชอบมาก

ใกล้จะพลบค่ำแล้ว สาริศาเข้าเน็ตค้นหาสูตรอาหาร ตัดสินใจที่จะโชว์ฝีมือสักหน่อย ทำมื้อเย็นที่อุดมสมบูรณ์ให้กับธนพัตไปสักมื้อ ทำเซอร์ไพรซ์ให้กับธนพัตสักหน่อย

ในตอนที่กำลังตุ๋นซุปหม้อสุดท้าย ธนพัตก็กลับมาแล้ว

“คุณกลับมาแล้ว” สาริศายื่นหน้าออกมาจากห้องครัวมองธนพัตพลางถามออกไป

ธนพัตเห็นสาริศาสวมผ้ากันเปื้อน ในมือกำลังถือกระบวยตักซุปเอาไว้อยู่ ท่าทางนายหญิงของบ้านที่คอยจัดการงานบ้านนี้ ทำเอามุมปากได้แสยะออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ความรู้สึกแบบนี้มันดีมากเลย กลับบ้านไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว มีคนคอยทำอาหารให้ตน รอตนอยู่

ธนพัตคิดไปพลางแล้วก็เดินเข้าห้องครัวไปพลาง กอดสาริศาไปจากทางด้านหลัง เอาหน้าซุกลงไปบนลำคอของสาริศา สูดหายใจเข้าไปลึก ๆ

ไม่ถึงสองวิ จู่ ๆ ธนพัตก็ได้เปลี่ยนสีหน้าไปทันที แล้วผลักสาริศาออกไป

“อ๊ะ! คุณทำอะไร!” สาริศาถูกทำให้ตกอกตกใจไปหมด มองธนพัตไปด้วยความประหลาดใจ

“กลิ่นบนตัวของคุณมันอะไรกัน!?” ธนพัตขมวดคิ้วถามออกมา

“น้ำหอมไง” สาริศาตอบไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงงงวย

สาริศาเห็นท่าทางที่ใบหน้าได้เต็มไปด้วยความจริงจังของธนพัต ภายในใจมันได้ถูกเหยียบย่ำไปอย่างจัง ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

สีหน้าของธนพัตก็ได้เปลี่ยนไป แล้วถามออกไปอย่างค่อนข้างที่จะจริงจังเลยทีเดียว “คุณไม่เคยใส่น้ำหอมไม่ใช่หรอ? วันนี้ทำไมถึงได้ใส่น้ำหอม?”

สาริศาตอบออกไป “วันนี้ไปทำการสัมภาษณ์มา มีคนให้ฉันมา ฉันดมดูแล้วมันหอมมากเลย ก็เลยเอามาลองสักหน่อย มีอะไรเหรอ?”

“นี่คือน้ำหอมแบรนด์อะไร?” ธนพัตถามออกไปต่อ สายตาหันไปยังอาหารที่จัดวางอยู่ที่บนโต๊ะเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และก็ได้สูดหายใจไปลึก ๆ พยายามที่จะให้ตนสงบลงไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ