หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 221

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ศึกษาอะไรกับของพวกนี้เลยค่ะ” สาริศาเอียงคอมองธนพัต เม้มริมฝีปาก ตอบเขา

“เชื่อผมนะ” ธนพัตพยายามควบคุมอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นของตนเอง เขาไม่อยากถูกสาริศาจับผิด “ผมไม่ชอบกลิ่นนี้ คุณไปล้างมันออกเถอะ”

สาริศาขมวดคิ้ว รู้สึกว่าอากัปกิริยาของธนพัตวันนี้ผิดปกติมาก แต่ไม่ได้พูดอะไร หมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำ

หลังจากสาริศาไปแล้ว ธนพัตก็ใช้มือนวดบริเวณคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามองไปทางไหน แววตาลึกล้ำ จมลงสู่ห้วงความคิด

สาริศามาอาบน้ำที่ห้องน้ำ หลังจากอาบเสร็จแล้ว เธอมองตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำอย่างใจลอย นึกถึงท่าทางที่ธนพัตผลักตนเองออกเมื่อครู่ ถ้าบอกว่าไม่น้อยใจคาดว่าแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อ

ในความทรงจำของเธอ ธนพัตไม่เคยทำแบบนี้กับตนมาก่อน ที่ผ่านมามีแต่อ่อนโยนเอาใจใส่ วันนี้ตกลงว่าเกิดอะไรกันแน่

น้ำหอมที่Elaineให้ตัวเองมีปัญหาอะไรกันแน่ ทำไมธนพัตถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงมากขนาดนี้

คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของสาริศา ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองหายใจแทบจะไม่ออกแล้ว เธออยากจะถามธนพัตให้รู้เรื่อง แต่เมื่อเห็นท่าทีของเขา ก็คิดว่าเขาคงจะไม่มีทางบอกตนเอง

ใช้น้ำเย็นล้างหน้า สาริศาทำให้ตนเองไม่คิดฟุ้งซ่านอีก อย่างไรสิ่งที่ควรจะรู้สุดท้ายแล้วก็ต้องรู้อยู่ดี ตนเองคิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ และยังอาจจะทำร้ายความรู้สึกของตนเองกับธนพัตด้วย

ออกมาจากห้องน้ำแล้ว สาริศาก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน หลังจากออกมาแล้วกลับไม่เห็นธนพัต

“ธนพัต ธนพัต” เรียกอยู่สองครั้ง ไม่ได้ยินเสียงตอบรับของธนพัต

หาธนพัตไม่เจอ สาริศาตื่นตระหนกเล็กน้อย ไปดูที่ระเบียงเสียหน่อย ก็พบว่าธนพัตนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ระเบียง

เขาในเวลานี่หันหลังให้กับสาริศา สองมือล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง จมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

มองท่าทางแบบนี้ของธนพัต ความไม่สบายใจเล็กๆภายในใจของสาริศาก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น เธอมักจะรู้สึกว่ากำลังจะเกิดเรื่องบางเรื่องที่เธอไม่รู้ขึ้น ซึ่งเรื่องนี้จะทำลายชีวิตของเธอกับธนพัต

ลังเลอยู่ชั่วครู่ สาริศาก็ก้าวไปข้างหน้า ยืนตรงหน้าของธนพัต กุมมือที่เย็นเยียบจนแดงเล็กน้อยของธนพัตพลางเอ่ยถามว่า “เกิดเรื่องอะไรคะ ทำไมถึงมาตากลมอยู่ตรงนี้ ไม่สบายไปจะทำยังไงคะ”

ในที่สุดธนพัตก็หลุดออกมาจากความคิดของตนเอง มองรอยยิ้มที่อบอุ่นของสาริศาตรงหน้า เขาดึงสติตัวเองกลับมาพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่คิดเรื่องบริษัทนิดหน่อย”

แน่นอนว่าสาริศาไม่เชื่อ ว่าเรื่องในบริษัทจะทำให้ธนพัตเป็นอย่างนี้ได้ เขาเป็นคนที่ทำงานได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมาตลอด

“ธนพัต คุณจะบอกฉันหน่อยได้มั้ยคะว่าตกลงมันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ วันนี้คุณ……”

คำพูดของสาริศายังพูดไม่ทันจบก็ถูกธนพัตตัดบทขึ้นว่า “ไม่มีอะไรจริงๆ พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ ให้ผมลองชิมดูสิว่าฝีมือการทำอาหารของคุณพัฒนาขึ้นบ้างมั้ย”

มองธนพัตที่สีหน้ากลับมาเป็นปกติแล้ว สาริศาก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อไปอีก

สองสามวันต่อมา ชีวิตของสาริศาก็กลับมาสงบสุขเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง ในเมื่อเธอก็ไม่ใช่บุคคลสาธารณะที่โด่งดังอะไร การที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เธอ จึงเป็นแบบมาเร็วไปเร็ว

แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ นับตั้งแต่ที่พบกับไรยาที่ร้านอาหารครั้งก่อน สองสามวันนี้ก็ไม่มีข่าวคราวเธออีกเลย ไม่รู้ว่าหนีไปไหนแล้ว

ข้อนี้ไม่สอดคล้องกับอุปนิสัยตามปกติของเธอนัก ด้วยนิสัยเธอแล้ว น่าจะต้องมาหาโวยวายกับธีภพที่สำนักพิมพ์นานแล้ว แต่สาริศาก็ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะไปคิดเรื่องของไรยามากนัก ไม่เจอเธอก็ดีแล้ว ตนเองจะได้อยู่อย่างสงบบ้าง

หลังจากเลิกงานแล้ว สาริศาก็รอรถอยู่ข้างทาง หันหน้ากลับมาโดยบังเอิญ เธอจึงสบสายตากับผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าตนเองกำลังมองเขา ก็รีบหันหน้าไปข้างๆ มองไปทางอื่น จากนั้นก็รีบเข้าไปในร้านกาแฟที่อยู่ด้านข้าง

สาริศารู้สึกแปลกๆนิดหน่อย เธอรู้สึกว่าการสบตากันเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ช่วงหลายวันนี้ เธอรู้สึกแปลกๆเหมือนมีใครสะกดรอยตามตัวเองอยู่อย่างนั้น หรือว่าผู้ชายคนนี้จะกำลังตามเธออยู่

สะบัดศีรษะ สาริศาบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก ตนเองก็ไม่ได้รู้จักกับเขา และก็ไม่เคยเจอเขามาก่อน เขาจะมาตามตัวเองได้ยังไง เมื่อครู่ก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ

ตอนนี้รถมาถึงแล้ว สาริศาก็เอาเรื่องเมื่อครู่นั้นโยนทิ้งไป ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ

วันต่อมา ตอนที่สาริศาตื่นนอน ก็มองเห็นว่าธนพัตตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้ว กำลังผูกเนคไทอยู่หน้ากระจก

“วันนี้ทำไมตื่นเช้าจังคะ” สาริศาสงสัยเล็กน้อย ปกติแล้วธนพัตจะตื่นนอนพร้อมกับเธอ จากนั้นก็จะไปส่งเธอที่ทำงาน

ธนพัตพอรู้ว่าสาริศาตื่นนอนแล้ว ก็เดินมาข้างๆเตียง พูดว่า “วันนี้ที่บริษัทมีเรื่องด่วน ผมต้องไปเร็วหน่อย อีกเดี๋ยวคงจะไปส่งคุณไม่ได้ คุณไปเองได้มั้ย”

“อืม ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำงานก่อนเลยค่ะ”

“ดีมาก นอนต่ออีกหน่อยเถอะ” หลังจากทิ้งรอยจูบบนหน้าผากของสาริศาแล้ว ธนพัตก็รีบร้อนจากไปเลย

สาริศานอนหลับอีกหนึ่งชั่วโมง หลังจากตื่นมากินอาหารเช้าแล้วก็ออกจากบ้าน

พูดแล้วก็ช่างบังเอิญ พอสาริศาเพิ่งออกมาจากหมู่บ้าน ก็มองเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่ง

ต้องรู้ว่า ที่นี่เป็นเขตที่อยู่อาศัยหรูหราชั้นสูง ปกติจะมีแต่รถยนต์ส่วนตัว น้อยครั้งที่จะเห็นรถแท็กซี่มาที่นี่ สาริศาอดถอนหายใจในความโชคดีของตนเองไม่ได้

เธอโบกมือเรียกรถแท็กซี่ สาริศาพูดกับคนขับรถว่า “พี่คะ ไปสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ”

แต่รถขับไปขับมา ทันใดนั้นสาริศาก็รู้สึกผิดปกติ เส้นทางนี้ดูเหมือนจะไปได้ไปทางสถานีรถไฟใต้ดิน

“พี่คะ พวกเราไปผิดทางหรือเปล่าคะ” จากนั้นคนขับรถก็ไม่ได้ตอบอะไรเธอ ได้แต่ขับรถไปข้างหน้าต่อไป

เวลานี้เองสาริศาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายแล้ว

“ฉันจะลงรถ หยุดรถเดี๋ยวนี้!”

แต่ว่าคนขับรถยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

สาริศาอยากจะเปิดประตูรถโดดลงไป แต่ว่าคนขับรถคิดถึงจุดนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่เธอขึ้นรถเขาจึงล็อกประตูหน้าต่างเอาไว้หมดแล้ว

สาริศาตื่นตระหนก โผไปข้างหน้าเพื่อแย่งพวงมาลัยรถ ในใจก็คิดว่าตนเองจะถูกเขาเอาตัวไปอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด

คนขับรถคว้าไม้กระบองอันหนึ่งออกมาอย่างรำคาญ ฟาดลงบนศีรษะของสาริศา หลังจากความเจ็บปวดรุนแรง สาริศาก็หมดสติไปในที่สุด

……

ตอนที่ฟื้นขึ้นมา มีความรู้สึกเพียงอย่างเดียวก็คือเจ็บ แผลบนศีรษะตกสะเก็ดแล้ว แต่ยังเจ็บมาก ในเวลาเดียวกัน มือและขาก็ถูกมัดเอาไว้ด้วยกันด้วย

ไม่ได้สนใจร่างกายของตนเอง สาริศาเงยหน้าเริ่มมองสำรวจรอบๆ อยากรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน ดูเหมือนเป็นดาดฟ้า มองดูแล้วเก่าทรุดโทรม

ไม่ได้สนใจคิดว่าทำไมตนเองถึงถูกพามาที่นี่ สาริศาดิ้นรนอยากจะแก้เชือกออก ไม่รู้ว่าต่อไปนี้ยังจะเรื่องอันตรายอะไรรอเธออยู่อีกหรือไม่ ต้องรีบออกไปจากที่นี่ถึงจะถูก

เวลานี้เองประตูชั้นดาดฟ้าก็ถูกเปิดออก มองเห็นคนที่เดินเข้ามา สาริศาก็ตกใจจนหยุดการกระทำ

“เธออีกแล้วเหรอ ตกลงว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่” หลังจากสาริศาตกใจแล้ว ก็ถามผู้ที่เข้ามาด้วยความโมโห

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ