สีหน้าของสาริศาที่เย็นเย็นชาขึ้นมากะทันหัน พชิราพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?
เธอเหมือนไม่ได้สังเกตว่าสาริศาที่อยู่ข้างๆ เธอสีหน้าเย็นชาไปแล้ว พชิราพูดต่อ “เมื่อก่อนธนพัตกลัวว่าฉันอยู่ที่บ้านจะเบื่อ แต่ก็ไม่วางใจที่จะให้ฉันออกมาข้างนอกคนเดียว ดังนั้นเขาก็เลยออกมาเดินซื้อของเป็นเพื่อนฉันบ่อยๆ”
“จริงสิ ริศา คุณกับธนพัตมักจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะ เดี๋ยวคุณพาฉันไปบ้างได้ไหม ไม่ได้กลับมาหลายปี ฉันแทบจะลืมไปแล้วว่าเมืองนี้มีอะไรบ้าง”
พอได้ยินพชิราพูดว่าธนพัตเคยไปเดินซื้อของกับเธอ แววตาของสาริศาก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง ก่อนจะตอบออกไป “ธนพัตเขายุ่งมากค่ะ ที่บริษัทมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ เราไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกด้วยกันเท่าไหร่”
“อะไรนะ ปกติเขาไม่ออกมาชอปปิ้งเป็นเพื่อนคุณเหรอคะ” พชิราทำท่าทางประหลาดใจ “ธนพัตนี่ล่ะก็ เขาทำกับคุณแบบนี้ได้ยังไงกัน เมื่อก่อนยังแบ่งเวลาออกมาอยู่กับแฟน แต่ตอนนี้กลับไม่มีเวลาให้กับภรรยาเลยหรือไงกัน หรือว่าเรื่องที่บริษัทจะสำคัญกว่าคุณ ริศา คุณวางใจได้เลย ถ้าฉันมีโอกาสจะสั่งสอนเขาให้คุณอย่างแน่นอน”
พชิราทำท่าทีไม่พอใจ ในน้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยอาการมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น เธอมองไปที่สาริศาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย หึ ฉันก็นึกว่าธนพัตจะชอบเธอมากซะอีก
ถึงแม้สาริศาจะโง่ แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าจุดประสงค์ของพชิราคืออะไร เธอคิดจะชวนตนเองออกมาเดินช็อปปิ้งที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเธอมาที่นี่เพื่อตั้งใจจะโอ้อวดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างเธอกับธนพัต ที่สาริศาไม่สามารถเปรียบเทียบได้นี่เอง
“ไม่ต้องค่ะ ธนพัตดูแลฉันดีมาก” สาริศาพูดฉีกหน้าตัดความสัมพันธ์คนอื่นไม่เก่ง ตอนที่ตอบกลับพชิรายังคงตอบอย่างใจเย็น แต่น้ำเสียงของเธอก็เย็นชามากเช่นกัน
“จริงเหรอ?” พชิรามองมาที่สาริศาอย่างสงสัย แล้วถามเสียงเรียบอย่างเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่สาริศาพูด “ริศา คุณไม่จำเป็นต้องหลอกตัวเอง ถึงแม้ธนพัตจะปฏิบัติกับฉัน… แต่ว่า คุณวางใจได้ ฉันจะไม่เข้าไปแทรกแซงระหว่างพวกคุณแน่นอน”
ในใจของสาริศาแทบจะระเบิดออกมา อะไรคือเธอกำลังหลอกตัวเอง? อีกอย่าง ธนพัตปฏิบัติกับเธอยังไง พชิราหมายความว่าธนพัตยังชอบเธออยู่อย่างนั้นใช่ไหม? วันนี้เธอคงบ้าไปแล้ว ทำไมฉันถึงรับปากที่จะออกมากับพชิราด้วย? น่าเสียดายที่เมื่อตะกี้เธอยังนึกว่าเธอเข้าใจอีกฝ่ายผิดไป
เธอไม่อยากที่จะพูดคุยกับพชิราต่อ สาริศาอยากจะหันหลังแล้วเดินจากไป แต่ด้วยนิสัยของเธอทำให้เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ในขณะที่กำลังคิดหาข้ออ้างที่จะจากไป โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็มีข้อความดังขึ้นมา
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นข้อความจากฝ่ายบริการลูกค้าเครือข่ายโทรศัพท์แจ้งว่ายอดเงินคงเหลือของเธอไม่เพียงพอ
เธอนิ่งคิด ก่อนจะพูดกับพชิราว่า “ฉันเพิ่งได้รับข้อความจากสำนักพิมพ์ มีธุระด่วนที่ฉันต้องกลับไปจัดการ ฉันคงต้องขอตัวไปก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบ สาริศาก็หยิบกระเป๋าของเธอและลุกขึ้นยืม เตรียมที่จะจากไป
“ไม่เอาสิคะ ริศา” พชิราเห็นสาริศาทำท่าจะจากไป เธอจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกไป ก่อนจะคว้าแขนของสาริศาไว้ “พวกเราอุตส่าห์ได้ออกมาเที่ยวกันทั้งที มีเรื่องด่วนอะไรที่ต้องให้คุณกลับไปจัดการด้วยตัวเองกัน หรือจะให้ฉันช่วยโทรหาคุณธีภพ แล้วขอให้เขาให้คุณหยุดหนึ่งวัน เขาคงจะไว้หน้าให้ฉันบ้าง”
สาริศาดึงมือของพชิราที่กำลังจับแขนของเธอไว้ออกไปช้าๆ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงอยู่สักพัก คงจะให้พชิราโทรหาธีภพจริงๆ หรอกมั้ง
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอโทรหาเพื่อนร่วมงานก่อนนะคะ” สาริศาลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปสองก้าว แสร้งทำเป็นโทรไปหาเพื่อนร่วมงาน
ยืนมองแผ่นหลังของสาริศาที่อยู่ไม่ไกล พชิราเหยียดยิ้มที่เต็มไปด้วยท่าทางดูถูกเย้ยหยัน คำโกหกที่โง่เง่าแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ช่างโง่จริงๆ ไม่รู้ว่าธนพัตชอบเธอได้ยังไง
ผ่านไปสักพัก สาริศาก็กลับมา “ไปกันเถอะค่ะ ฉันบอกกับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว”
“อืม โอเค” พชิรายกยิ้ม แล้วคล้องแขนของสาริศา พร้อมกับเดินไปข้างหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...