หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 258

พอถูกคราบเลือดดึงสติกลับมา ธนพัตก็เคลื่อนตัวออกห่าง และมองไปทางสาริศาที่อยู่ใต้ร่างของเขา

แล้วเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอถูกตนเองฉีกจนขาด ผิวที่เปิดเผยออกมาก็เต็มไปด้วยร่องรอยที่เขาฝากฝังไว้ ใบหน้าของเธอที่ถูกกันยาตบก็เริ่มแดงและบวมอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาของเธอปิดแน่นและสั่นเครือ มีน้ำตาซึมออกมาเป็นระยะ......

ธนพัตกำหมัดแน่น และเอาแต่ด่าตัวเองในใจ ทำไมเขาไม่รู้เลยว่าสาริศามีบาดแผลมากมายบนร่างกายแบบนี้! เมื่อตะกี้ตนเองยังปฏิบัติกับเธอรุนแรงแบบนั้น... เขารีบลุกขึ้นจากร่างของสาริศา แล้วรีบไปหากล่องยา

พอรู้สึกว่าธนพัตได้จากไปแล้ว สาริศาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอรู้สึกว่าทุกอย่างรอบด้านพร่ามัว ในที่สุดก็จบลงแล้วใช่ไหม เธอหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง

สาริศาพยายามลุกขึ้นจากเตียง เธอรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งร่างกาย เธอลุกจากเตียงและหยิบเสื้อผ้าที่ธนพัตเพิ่งโยนลงบนพื้น สาริศาเดินไปที่ห้องน้ำอย่างไม่สนใจ

หลังจากเปิดฝักบัวและน้ำอุ่นไหลรินทั่วร่างกาย สาริศาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เธอปล่อยให้น้ำร้อนชะล้างน้ำตาและบาดแผลบนร่างกายของเธอ สาริศาทรุดตัวลงนั่งบนพื้นและร้องไห้อย่างโศกเศร้า เธอไม่รู้ ทำไมเธอกับธนพัตถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเธอรักกันมาก

ธนพัตที่หากล่องยาเจอและกลับไปที่ห้องนอน พอไม่เห็นสาริศา เขาก็เริ่มเป็นห่วงไม่รู้ว่า สาริศาหายไปไหน เขาเหมือนจะได้ยินเสียงน้ำมาจากในห้องน้ำ

เขาถือกล่องยาเดินไปที่ประตูห้องน้ำ ในขณะที่ธนพัตกำลังจะผลักประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องไห้ที่พยายามระงับเสียงปนกับเสียงของน้ำมาด้วย

มือที่ยื่นออกมาจึงค่อย ๆ ปล่อยลง ธนพัตยืนอยู่ข้างนอกประตูห้องน้ำอย่างว่างเปล่า ลังเลว่าเขาควรเข้าไปข้างในนั้นตอนนี้เลยดีไหม พอได้ยินเสียงสะอื้นของสาริศา ธนพัตก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเหมือนถูกใครบางคนควักไปจนเจ็บปวดมาก

ความรู้สึกบอกกับเขาว่าสาริศายังไม่อยากเห็นหน้าเขา ดังนั้นธนพัตจึงค่อย ๆ กลับไปที่ห้องนอน หยิบยาออกมาวางข้างเตียงตรงจุดที่สาริศาจะเห็นได้ง่าย จากนั้นก็ลุกเดินไปที่ ห้องรับแขก

สาริศาออกมาจากห้องน้ำและโล่งใจที่เห็นว่าธนพัตไม่ได้อยู่ในห้องนอน ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับธนพัตยังไงดี และเธอไม่อยากเห็นเขาในตอนนี้ด้วย

เธอเดินไปที่ข้างเตียงและนั่งลง ก่อนจะเห็นยาและผ้าพันแผลที่ธนพัตวางไว้ข้างเตียง เธอไม่หยิบมันขึ้นมา สาริศาเพียงแค่มองดูสิ่งเหล่านั้น และเหม่อลอยเป็นเวลานาน

วันรุ่งขึ้น สาริศาตื่นตั้งแต่เช้า ตอนที่เธอลงไปกินข้าว เธอไม่เห็นธนพัต ไม่รู้ว่าเขาออกไปแล้วหรือยัง แต่อย่าเจอกันจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคงอึดอัดน่าดู

เพราะไม่มีอารมณ์จะทานอาหารเช้า สาริศารีบดื่มนมหนึ่งแก้วแล้วออกไปทำงาน

ทันทีที่เพื่อนร่วมงานของเธอเห็นเธอ พวกเขาทั้งหมดก็มองมาทางเธออย่างดูถูก สาริศาเดาได้ว่าทำไม เก้าในสิบคงเป็นเพราะคลิปวิดีโอเมื่อวานนี้

เธอรู้ว่าถึงจะอธิบายยังไงก็ไม่มีประโยชน์ สาริศาจึงเพิกเฉยต่อสายตาเหล่านั้น และเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ทุกคนเชื่อแค่สิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยตาตนเอง เช่นเดียวกับธนพัตและกันยา แต่พวกเขาไม่รู้ ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นบางครั้งก็ไม่ใช่ความจริงเสมอไป

ที่เธอไม่สนใจ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่พูด พวกเขาไม่สนใจว่าสาริศาจะอยู่ด้วย ะาดันพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แทนที่จะลดเสียงลง พวกเขากลับจงใจพูดเสียงดังขึ้น ราวกับว่าพวกเขาจงใจจะพูดให้สาริศาได้ยิน

“คิดดูสิ เมื่อก่อนมองไม่ออกเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ เธอทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน ท่าทางอ่อนโยนนี่แสร้งทำใช่ไหม”

“ใครจะไปรู้ คนเรารู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ”

“ในความเห็นของฉัน นี่เรียกว่าร้อนตัว ฉันเดาว่าตำแหน่งเมียหลวงคงจะไม่มั่นคง ดังนั้นก็เลยอยากขจัดสิ่งกีดขวางที่คุกคามออกไปให้เร็วที่สุด”

“ใช่ ถ้าฉันเป็นคุณธนพัตนะ ฉันก็เลือกคุณพชิรา แต่ว่า เธอก็คิดได้เนอะ ถึงกับจงใจทำให้คุณพชิราเสียโฉม”

“ใช่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำไม่สำเร็จแล้วยังเดือดร้อนเอง บังเอิญถูกเห็นและถ่ายไว้ได้ ก่อนจะโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ตอนนี้คนทั้งโลกต่างก็รู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหน ฉันว่าคุณธนพัตคงยิ่งไม่อยากเก็บเธอไว้ข้างกาย”

คนเหล่านี้เหลือบตามองสาริศาในขณะที่พูดไปด้วย เพราะกลัวว่าจะไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเธออยู่

หลังจากฟังการสนทนาของพวกเขา สาริศาก็จับปากกาในมือแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ในด้านความเจ้าเล่ห์ เธอสู่พชิราไม่ได้ แต่สักวันหนึ่ง เธอจะโยนหลักฐานลงต่อหน้าคนพวกนี้ แล้วพบอกให้พวกเขาหุบปาก ให้ทุกคนได้เห็นว่าพชิราที่พวกเขาปกป้องอยู่ตอนนี้น่ารังเกียจมากแค่ไหน

“หยุดได้แล้ว ห้ามนินทาในเวลาทำงานไม่รู้หรือไง อยากจะกลับบ้านมากเลยใช่ไหม ตั้งใจทำงานไป!” ธีภพได้ยินการสนทนาของคนพวกนี้จึงเดินออกมาจากประตูห้องทำงาน แล้วตะโกนเสียงดัง

พอเห็นว่าหัวหน้าบรรณาธิการโมโหแล้ว ทุกคนจึงเงียบลง หลังจากเห็นว่าทุกคนหยุดพูด ธีภพก็หันไปหาสาริศาแล้วพูดว่า “สาริศา มาที่ห้องทำงานผมสักครู่”

ถึงแม้เธอจะไม่เข้าใจว่าธีภพเรียกเธอไปทำไม แต่สาริศาก็เดินตามธีภพไปที่ห้องทำงานของเขา เธอไม่อยากเผชิญหน้าคนเหล่านั้น

ธีภพให้สาริศานั่งลงบนเก้าอี้ เธอจึงนั่งลงตรงข้าม

“ริศา คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ต่างจากคำพูดที่รุนแรงก่อนหน้านี้ ธีภพถามสาริศาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เขาเป็นห่วงเธอมาก

ไม่ได้ตอบ สาริศาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอไม่สามารถตอบ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ตามความตั้งใจจริงของเธอได้

“ริศา ผมรู้ข่าวบนโซเชียลแล้ว ผมเชื่อว่าคุณจะไม่ทำอย่างนั้น ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างแน่ๆ ใช่ไหม” ธีภพเอ่ยถาม

“ขอบคุณนะคะภพ” สาริศาพูดไม่ได้ว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งใจเหมือนตอนที่ชัชวาลพูด แต่อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เต็มใจจะเชื่อในตัวเธอ “ขอบคุณที่เชื่อฉันค่ะ”

“แน่นอน ผมต้องเชื่อคุณอยู่แล้ว” ธีภพทำท่าทีมั่นใจ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “แต่ธนพัตเชื่อคุณหรือเปล่า”

สาริศาได้ยินคำถาม จึงก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร ที่จริงแล้วธีภพพอจะเดาได้ว่าวิดีโอนั้นชัดเจนมาก และธนพัตก็เคยคบกับพชิรามากก่อน ดังนั้นเขาอาจจะไม่เชื่อสาริศา

“ริศา ผมเคยเห็นว่าธนพัตกับพชิรารักกันมากแค่ไหนมาก่อน และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมาก ตอนนี้พชิรากลับมาแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ธนพัตจะสั่นคลอนเล็กน้อย” ธีภพยืนขึ้น แล้วเดินไปข้างสาริศา ก่อนจะก้มลงไปจับมือเธอไว้

“ริศา ถ้าธนพัตรักคุณจริง เขาจะไม่มีทางไม่เชื่อคุณ ไม่มีทางสงสัยในตัวคุณ นี่แสดงให้เห็นว่าในใจของเขายังมีพชิราอยู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ