เมื่อกี้ได้ยินเสียงรอบข้างของเขาดังมาก เหมือนเธอจะได้ยินเสียงของพชิราจริงๆ สาริศาส่ายหัวอย่างแรง ในใจเตือนตัวเองว่าอย่าคิดมาก
เมื่อเห็นว่าถูกวางสายใส่ ธนพัตรู้สึกว่าเสียงในสายของสาริศานั้นแปลกๆ เธอคงไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังเขาอยู่หรอกนะ?
“ธนพัต” เสียงของพชิราที่อยู่ด้านข้างดังขึ้นขัดความคิดของเขา “อีกแป๊บนึงฉันนั่งรถนายไปงานเลี้ยงฉลองนะ วันนี้ฉันไม่ได้ขับรถมา”
เพราะชุดเครื่องประดับที่ออกแบบในครั้งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในทันทีที่ออกสู่ตลาด แล้วก็งานแถลงในครั้งนี้ก็ประสบความสำเร็จ ดังนั้น TNP Group จึงได้จัดงานเลี้ยงฉลองให้กับทีมออกแบบในโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นพิเศษ
แต่ว่าธนพัตไม่ได้คิดที่จะร่วมงานเลี้ยงหลังจากนี้ “อีกแป๊บฉันต้องกลับไปจัดการงานที่บริษัท แล้วก็ เกรงว่าถ้าฉันไปด้วยพวกเขาจะเล่นสนุกกันไม่สุด เธอนั่งรถพวกเขาไปเถอะ”
“งั้นก็ได้” ได้ยินว่าธนพัตไม่ไป พชิราก็ผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่อยากให้ธนพัตรู้สึกว่าเธอไม่รู้ความ “งั้นนายก็ขับรถระวังด้วยนะ”
“อืม” ตอบพชิราไป หลังจากธนพัตก็บอกลาคนอื่นๆก็ขับรถกลับบริษัทไป
“ท่านประธานคะ คุณธีภพกำลังรอท่านอยู่ที่ห้องทำงานค่ะ” เมื่อมาถึงห้องทำงาน เลขาหน้าประตูก็ลุกขึ้นรายงานกับธนพัต
“ครับ” ในใจธนพัตสงสัยเล็กน้อย ไม่รู้ว่าธีภพมาหาตัวเองทำไม เขารู้ หลานคนนี้ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่
ขณะที่ธีภพนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของธนพัตรอเขากลับมา วันนี้ที่เขามาเพราะอยากจะคุยกับเขาเรื่องของสาริศา
หลังจากที่คลิปก่อนหน้าของสาริศาและพชิราในร้านกาแฟถูกเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ต ธนพัตเลือกที่จะเชื่อพชิรา ในตอนนั้นเขารู้สึกว่าบางทีในใจของธนพัตยังคงชอบพชิราอยู่ ถึงยังไงธนพัตก็เคยชอบหล่อนขนาดนั้น
ตอนนี้เห็นสาริศาเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ธนพัตก็ไม่อยู่เป็นเพื่อนเธอ ธีภพเลยยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเอง ถ้าหากในใจธนพัตยังมีคนอื่นอยู่ งั้นก็ไม่ควรหวงสาริศาอีกต่อไปแล้ว
ธนพัตเข้ามาก็เห็นธีภพกำลังคิดอยู่เงียบๆ สีหน้าจริงจัง ธนพัตไม่ได้สนใจเขานัก และถอดเสื้อคลุมเอาไปแขวนไว้ที่ราวด้านข้าง จากนั้นก็นั่งลงด้านโต๊ะทำงานและเอ่ยปากถาม “มาหาฉันมีเรื่องอะไร? ”
“ถ้านายไม่รักสาริศา ก็ปล่อยเธอไปเถอะ” ธีภพเงยหน้าพูดอย่างตรงไปตรงมากับธนพัต
ธนพัตหรี่ตา สายตาอันตรายมองไปทางธีภพ นำเสียงเย็นชา “นายพูดอะไร!? ”
ธีภพสบตาธนพัตอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย “ตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล นายกลับมีกะจิตกะใจมานั่งอยู่ที่นี่ นี่ยังไม่ชัดเจนพอเหรอ? ธนพัต ถ้านาย......”
“ทำไมเธอถึงอยู่โรงพยาบาล? ” ได้ยินว่าสาริศาอยู่โรงพยาบาล ทันใดนั้นธนพัตก็ร้อนใจ พูดแทรกธีภพขึ้นมา
“นายไม่รู้เหรอ? ” ได้ยินคำถามของธนพัต ธีภพก็งงเล็กน้อย “ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาล ฉันเห็นสาริศาโทรหานายตั้งหลายสาย หรือว่าเธอไม่ได้บอกนายเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เหรอ? ” ธีภพไม่แน่ใจว่าธนพัตไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งสับสน
ที่จริง ในใจธนพัตคิด ในสายเมื่อกี้เขารู้สึกว่าสาริศาแปลกเล็กน้อย ที่แท้เธอมีเรื่องที่ไม่ได้บอกเขาอยู่จริงๆ
“วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ” ธนพัตจ้องธีภพ และถามเสียงเข้ม
เมื่อเห็นสายตาลนลานของธนพัตไม่เหมือนแกล้งทำ ธีภพจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้คร่าวๆให้เขาฟัง
“วันนี้โศภิตามาก่อความวุ่นวายในงานศพของไรยา ไม่ใช่แค่ทำร้ายริศา แถมยังบอกว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของสุวิทย์ หลังจากนั้นก็ไปตรวจดีเอ็นเอ ก็พบว่าริศาไม่ใช่ลูกสาวของสุวิทย์จริงๆ น้ากันยาก็ทนรับแรงกดดันไม่ได้เลยเป็นลมไป ตอนนี้ริศากำลังดูแลน้าอยู่ที่โรงพยาบาล”
หลังจากถามที่อยู่โรงพยาบาลอย่างชัดเจนแล้ว ธนพัตก็ดึงเสื้อคลุม และเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินถึงหน้าประตู จู่ๆธนพัตก็หยุดลง และหันมาพูดกับธีภพเสียงเย็นชา “ฉันรักสาริศา เพราะงั้นนายไม่มีโอกาส อย่าแม้แต่จะคิด!” พูดจบธนพัตก็ออกจากออฟฟิศไป
ได้ยินที่ธนพัตพูด ธีภพก็กำหมัดแน่น แต่ก็รู้สึกมีอะไรผิดไป ที่จริงตัวเองนั้นมาหาเรื่อง ทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกว่าเหมือนมาบอกข่าวกันนะ?
ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ในหัวของธนพัตก็เต็มไปด้วยคำพูดของธีภพที่พูดเมื่อกี้ ที่แท้วันนี้เกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมาย สาริศาในตอนนี้จะต้องแบกรับความกดดันอยู่มากแน่ๆ ตนควรจะอยู่ข้างกายเธอ
แต่เรื่องพวกนี้ทำไมที่คุยโทรศัพท์เมื่อกี้สาริศาถึงไม่บอกตนกันนะ? แถมเขายังรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากปากของธีภพอีก คิดถึงตรงนี้ ในใจของธนพัตนอกจากจะเป็นห่วงสาริศาแล้ว ยังโมโหเล็กน้อยด้วย หรือว่าตนในใจของเธอตำแหน่งต่ำกว่าธีภพอีกงั้นเหรอ?
ขับอย่างรวดเร็วตลอดทาง ธนพัตก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หลังจากถามพยาบาล ก็หาห้องผู้ป่วยที่กันยาพักอยู่
ผลักประตูห้องผู้ป่วยออก ธนพัตอยากจะถามสาริศาให้ชัดเจนว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อมองบรรยากาศในห้องผู้ป่วยอย่างชัดเจนแล้วจึงหยุดฝีเท้าลง
สาริศานอนหลับฟุบอยู่ข้างเตียงของกันยา
ธนพัตเดินเข้าไปอย่างเบาๆ และนั่งยองลงข้างหน้าสาริศา เขาแต่เดิมที่กำลังโกรธหลังจากเห็นสาริศาที่หลับไปเพราะความเหนื่อยล้า อารมณ์โกรธก็หายวับไปทันที ที่เหลือมีเพียงความเอ็นดู วันนี้ต้องเจอเรื่องมากมายขนาดนี้ เธอคงเหนื่อยมากๆเลยสินะ
เห็นแขนที่โผล่ออกมาของสาริศาพันผ้าพันแผล สีหน้าของธนพัตก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที โศภิตาคนนี้ เห็นแก่ที่สาริศาอ้อนวอนแทนเธอ ตนถึงได้ปล่อยหล่อนให้กลับมาจากต่างประเทศ คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้ตัวไม่กลับตัวกลับใจ!
สาริศาที่กำลังหลับยังคงขมวดคิ้ว ราวกับหลับอย่างไม่สงบ ธนพัตยื่นมือออกไปลูบแก้มเธออย่างเอ็นดู
บนใบหน้ามีความเย็น สาริศาสะดุ้งตื่นจากความฝัน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นธนพัตนั่งยองลงอยู่ตรงหน้าตัวเอง
เพิ่งตื่นจากความฝัน สาริศายังมึนๆเล็กน้อย ดึงสติอยู่ครู่ถึงนึกได้ว่าตัวเองยังอยู่ที่โรงพยาบาล
“นายมาได้ไง? ” สาริศาประหลาดใจกับการมาของธนพัตเล็กน้อย
ธนพัตชี้ไปทางกันยาที่ยังหลับอยู่ และดึงมือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บของสาริศาออกมาด้านนอกห้อง
“ริศา เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เมื่อกี้ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันในโทรศัพท์ล่ะ? ” ออกมาจากห้องผู้ป่วย ธนพัตก็ถามสาริศาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
สาริศาไม่ได้ตอบคำถาม แต่ถามกลับ “นายกำลังแถลงข่าวอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาที่นี่”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ธนพัตจะไม่เข้าใจได้ยังไง งานถ่ายทอดสดแถลงข่าว คาดว่าสาริศาจะเห็นในโทรศัพท์นานแล้ว ก่อนหน้านี้ที่โทรคุยไม่บอกตนเรื่องนี้ บางทีอาจจะกำลังโกรธอยู่ก็ได้
“ริศา ที่ฉันกับพชิราออกงานแถลงข่าวด้วยกันก็เพราะว่าเรื่องงาน เธออย่าคิดมากได้มั้ย? ” ธนพัตพูดปลอบสาริศาเสียงเบา
“ฉันรู้แล้ว” รู้ว่าตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะโกรธ สาริศาทำได้แค่ตอบอย่างอึดอัดใจ ตนคงจะห้ามไม่ให้ธนพัตกับพชิราเจอหน้าไม่ได้หรอกมั้ง
คิดว่าสาริศาเข้าใจได้ด้วยตัวเองแล้ว ธนพัตก็ไม่คิดถึงปัญหานี้แล้ว “ที่แขนยังเจ็บอยู่มั้ย? ”
“ดีขึ้นมากแล้ว” เห็นบนใบหน้าของธนพัตเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด จิตใจของสาริศาก็ดีขึ้นเล็กน้อย และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ธนพัตฟังอย่างละเอียด
กีรติเมธานนท์กรุ๊ป ห้องทำงานของบุรินทร์
บุรินทร์นั่งอยู่หน้าจอคอมมองดูหุ้นของบริษัทที่ช่วงนี้ดิ่งลง และเขวี้ยงปากกาลงพื้นด้วยความโกรธ
ช่วงนี้ TNP Group มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายสาขาของธุรกิจเริ่มมีความเหลื่อมล้ำกับกีรติเมธานนท์กรุ๊ปมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กีรติเมธานนท์กรุ๊ปเสียผลประโยชน์ไม่น้อย
ธนพัตคนนี้ ตอนนี้จงใจเป็นศัตรูกับตนหรือยังไง? ที่จริง ตอนนั้นเขาไม่ควรลงมืออย่างเห็นใจ
“ก๊อกๆๆ” ด้านนอกประตูมีเสียงเคาะอย่างระวังดังขึ้น
“อะไรกันอีก!”
เมื่อได้ยินเสียงของบุรินทร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธก็ดังขึ้น ผู้ช่วยก็ไม่กล้าเดินเข้ามา ทำได้แค่ยืนอยู่ด้านข้างประตูและพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านประธาน มีคนมาหาท่านครับ”
“ไม่พบ บอกไปว่าฉันไม่ว่าง!” ตอนนี้ไม่ว่าใครบุรินทร์ก็ไม่อยากเจอ พระเจ้ามาก็ไม่ได้
“ท่านประธาน เป็นคุณผู้หญิงสวยมากท่านนึง เธอชื่อ......”
“ฉันบอกว่าไม่พบ นายฟังไม่รู้เรื่องเหรอ!” บุรินทร์พูดขัดผู้ช่วยอย่างโมโห ผู้หญิงสวยแล้วยังไง สวยแล้วตนต้องเจองั้นเหรอ? ไอ้หมอนี่ไม่อยากทำงานแล้วใช่มั้ย!
“คิดไม่ถึงว่าคุณบุรินทร์จะยุ่งขนาดนี้” เสียงประชดประชันของผู้หญิงดังมาจากนอกประตู “แม้แต่ฉันก็ไม่มีเวลาพบงั้นเหรอ? ” ผู้หญิงที่พูดไม่สนใจการห้ามของผู้ช่วย และเดินเข้ามาในห้องทำงานของบุรินทร์
เมื่อเห็นคน บุรินทร์ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง และลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ “เธอกลับมาได้ไง? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ