“ริศา คุณถามเรื่องพวกนี้คิดจะทำอะไร!” ชัชวาลสะกดความอยากรู้อยากเห็นของตนเอาไว้ไม่ได้ ถามคำถามเมื่อครู่อีกครั้ง
สาริศายังอยู่ในอาการตื่นตกใจกับคำพูดที่ชัชวาลบอกเธอเมื่อครู่ ไร้เรี่ยวแรงทรุดนั่งลงบนพื้น โทรศัพท์ก็ถูกโยนไปด้านข้าง
ทำไมเรื่องมันถึงบังเอิญได้ขนาดนี้ น้องสาวของชัชวาลทำไมมีปานเหมือนกับตัวเอง
สาริศารู้สึกว่าความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาจากในหัวสมองของตน แต่เธอกลับพยายามข่มมันไว้ ไม่ยอมให้ตนเองไปคิดถึงมัน ไม่มีทาง เรื่องนี้ต้องไม่เป็นอย่างที่ตนเองคิดไว้!
“ริศา คุณยังอยู่มั้ย ฮัลโหล……” ไม่ได้ยินเสียงสาริศาที่อยู่ทางนั้น ชัชวาลถามอย่างเป็นห่วงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้ยินการตอบโต้จากสาริศา
เอาโทรศัพท์มือถือมาข้างหน้าตัวเอง ชัชวาลมองเห็นว่าโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่ากำลังใช้สายสนทนาอยู่อย่างชัดเจน
“ฮัลโหล ริศา คุณยังได้ยินเสียงผมมั้ย ฮัลโหล” เสียงตัวเองสูงขึ้น ในน้ำเสียงของชัชวาลเต็มไปด้วยความห่วงใยและร้อนใจ
ถูกเสียงชัชวาลเรียกดึงสติกลับมา สาริศารีรีบเก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ฮัลโหล คุณวาล ” ในเสียงสาริศามีความรู้สึกสับสน แฝงด้วยเสียงร้องไห้ถ้าเรื่องนี้เป็นอย่างที่ตนคาดไว้ก็ เช่นนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับชัชวาลก็เป็น……
“ริศา เมื่อกี้คุณเป็นอะไร ทำไมไม่พูด”
“ไม่เป็นไร ฉัน……” สาริศาเสียงสะอื้น เอาโทรศัพท์ออกห่างหน่อย จากนั้นก็พูดกับชัชวาลว่า “คุณวาล ขอบคุณที่บอกเรื่องพวกนี้กับฉัน ฉันยังมีธุระ ขอวางสายก่อนนะคะ”
พูดจบไม่รอให้ชัชวาลตอบโต้อะไร สาริศาก็วางสายไป เธอสัมผัสได้ว่าน้ำตาของตัวเองเอ่อล้นอยู่ในขอบตา ถ้าพูดกับชัชวาลต่อไป เธอกลัวว่าตนเองจะร้องไห้ออกมา
เห็นสาริศาที่จู่ๆก็วางสายไป ชัชวาลรู้สึกสงสัยอย่างมาก เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงสาริศาร้องไห้ นี่ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่
นึกถึงเรื่องที่เกิดวันนี้ ชัชวาลรู้สึกว่าท่าทีของสาริศาในวันนี้แปลกมาก ด้วยนิสัยปกติของเธอแล้ว เธอไม่น่าจะเป็นคนชวนตนเองนั่งคุยดื่มกาแฟกัน ถ้าอย่างนั้นที่เธอมาที่บ้านตระกูลนิธิธราสกุลก็คือมีจุดประสงค์อื่น
อีกอย่าง วันนี้ตอนที่สาริศากำลังดื่มกาแฟ ดูเหมือนว่ากำลังแอบถามเรื่องกันยากับเพชร ตอนนั้นคิดว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อเชื่อมโยงกับคำถามที่สาริศาถามเมื่อครู่ในโทรศัพท์ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของชัชวาล
หรือว่าเรื่องที่กันยาช่วยเพชรในตอนนั้นมีปัญหาอะไรเหรอ ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ วันนี้สาริศาทำไมเป็นแบบนี้
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าท่าทางชัชวาลเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นทันที หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกไปเบอร์หนึ่ง ไม่นานปลายสายนั้นก็มีคนรับสาย
“ฮัลโหล คุณวาล มีเรื่องอะไรให้รับใช้ครับ” คนผู้นี้เป็นนักสืบเอกชนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชัชวาล ชัชวาลเชื่อใจเขามาก หากมีอะไรที่เขาอยากรู้ ก็มักจะขอให้เขาไปสืบมา
“คุณช่วยผมสืบเรื่องคนที่ชื่อว่าสาริศาหน่อย เธอเป็นภรรยาของธนพัต ประธานบริษัทTNP Group คุณสืบดูว่าเกิดเรื่องอะไรบ้างกับเธอในช่วงนี้ ผมต้องรู้ให้เร็วที่สุด”
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปสืบเดี๋ยวนี้” พูดจบคนนั้นก็วางสายไป
กำโทรศัพท์เอาไว้ ชัชวาลรู้สึกว่าหัวใจตนเองเต้นเร็วมากอย่างบอกไม่ถูก เขาสัมผัสได้ว่าเหมือนตนเองกำลังเข้าใกล้ความจริงบางอย่างที่อันตราย
การทำงานของนักสืบเอกชนคนนี้มีประสิทธิภาพสูงมากจริงๆ ไม่นานเขาก็โทรมารายงานกับชัชวาล
“คุณชัชวาลตามที่ผมสืบมา ช่วงนี้กันยาแม่ของคุณสาริศาถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สาริศาคิดจะบริจาคไขกระดูกให้เธอ แต่ผลการตรวจแสดงให้เห็นว่าไขกระดูกของเธอกับแม่เข้ากันไม่ได้ จึงไม่สามารถรักษาแม่เธอได้ครับ”
“น้ากันยาเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเหรอ” ได้ยินข่าวนี้ ชัชวาลตกใจเล็กน้อย วันนี้ตอนเขาถามสาริศา เธอไม่ได้บอกว่าน้ากันยาแข็งแรงดีหรอกเหรอ ดูท่าทางเธอจะมีเรื่องที่ปิดบังตนเองอยู่จริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...