หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 327

“คุณพี่คะ ดิฉันว่าหน้าตาของคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลเหมาะกับลูกชายของคุณพี่มากเลยค่ะ ถ้าพวกเขาทั้งสองสามารถคบกันได้ กิ่งทองใบหยกจริงๆ ค่ะ” คุณหญิงที่อยู่ข้างคุณหญิงสุขใจคนนั้นพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที

และคุณหญิงสุขใจเองก็มองไปที่สาริศาก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ในเวลานี้เองมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองสาริศา ในใจลังเลไม่มั่นใจ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลหน้าตาคุ้นๆ  เหมือนเธอเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ เธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยรู้จักกับคุณหนูคนนี้มาก่อน

เธอยิ่งมองสาริศาก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตามากขึ้น เธอจึงพยายามนึกถึงใบหน้านี้ นึกออกแล้ว! หญิงสาวตะโกนออกมาทันที “ฉันนึกออกแล้ว!”

ในตอนนี้สายตาของผู้คนรอบๆ ต่างก็จับจ้องไปที่สาริศา ถูกเสียงตะโกนของเธอทำให้สะดุ้งตกใจ พร้อมกับหันไปมองหญิงสาวที่ตะโกนออกมา สายตาของทุกคนต่างก็กำลังต่อว่า ถ้าสร้างความไม่พอใจให้คุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลขึ้นมาจะทำยังไง?

พอรู้สึกตัวว่าเสียงของเธอดังเกินไป หญิงสาวจึงรีบพยักหน้าและรีบขอโทษคนรอบข้าง แต่ก็ยังพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ฉันก็คิดอยู่ว่าทำไมคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลถึงดูคุ้นหน้ามาก นี่ไม่ใช่คุณสาริศา ภรรยาของคุณธนพัตหรอกเหรอคะ?”

ถึงแม้เธอจะไม่เคยเห็นสาริศาด้วยตาของตัวเอง แต่เธอก็เคยเห็นภาพของเธอในทวิตเตอร์มาก่อน เพราะในตอนนั้นเธอหลงใหลในตัวธนพัตมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเธอจึงตั้งใจสังเกตว่าภรรยาของเขามีหน้าตายังไง ในตอนนั้นเธอคิดว่าธนพัตสายตาไม่ดีถึงเลือกผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาแบบนี้

แต่พอมองดูผู้หญิงตรงหน้าเธอ ทั้งที่หน้าตาของเธอก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อนมากเท่าไหร่ ทำไมถึงทำให้รู้สึกสวยสง่างามได้ถึงขนาดนี้

พอได้ยินคำพูดของเธอ ทุกคนรอบข้างก็มองไปทางสาริศาด้วยความตกตะลึง

“ภรรยาของคุณธนพัตจะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลได้ยังไงกัน”

“ไม่รู้เหมือนกัน นี่มันยังไงกันแน่”

“ฉันได้ข่าวมาว่าเธอกับคุณธนพัตหย่ากันไปเมื่อห้าปีก่อน แล้วก็หายตัวไปเลย ทำไมจู่ๆ เธอถึงกลายเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลได้ล่ะ?”

“นี่มันเหมือนละครจริงๆ ฐานะของเธอกับพชิราถูกสับเปลี่ยนกันเลย” ใครบางคนพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“หมายความว่ายังไง” ทุกคนรู้สึกว่าเขาเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง จึงรีบหันไปมองทางเขา

“พวกคุณไม่รู้เหรอ?” คนที่พูดรู้สึกตกใจ ก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “ผมจะบอกพวกคุณเอง ผมมีเพื่อนที่รู้จักคุณธนพัต จึงได้ยินมาว่าตอนนี้คุณพชิราอาศัยอยู่ในบ้านของคุณธนพัต พวกคุณคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นอะไรกัน” หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็แสดงท่าทาง “พวกคุณต่างก็รู้กันดี” ออกมา

“พวกเขาแต่งงานกันแล้วเหรอ?”

“เรื่องนี้ยังไม่ได้แต่ง แต่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้ว คงอีกไม่นานแล้วล่ะ”

“อ๋อ”

ผู้คนรอบๆ ต่างก็เข้าใจทันที สายตาที่มองสาริศานอกจากจะตกตะลึงแล้ว ยังมองด้วยสายตาสงสัย

แน่นอนว่าสาริศากับชัชวาลได้ยินบทสนทนาของผู้คนรอบข้างเหมือนกัน ชัชวาลจับมือของสาริศาเพื่อปลอบโยนเธอเบา ๆ “ริศา อย่าเอาคำพูดพวกนี้มาใส่ใจเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่” สาริศายิ้มตอบชัชวาล ในเมื่อเธอกล้ามาที่นี่ก็หมายความว่าเธอพร้อมที่จะรับมือกับข่าวลือพวกนี้แล้ว ถ้าแค่นี้เธอทนไม่ได้ เธอคงไม่เลือกกลับมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว

แต่ว่า ที่แท้พวกเขาก็อยู่ด้วยกันมานาน และใกล้จะแต่งงานกันแล้ว...

สาริศาพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้คิดมาก และยืดหลังตรง สาริศาเงยหน้าขึ้นและเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ถอยหนีอีกแล้ว

แขกในงานมากันเกือบจะครบแล้ว การประมูลเองก็จะเริ่มงานเร็วๆ นี้

ในขณะที่ทุกคนเริ่มเงียบและเตรียมจะเดินเข้างาน จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นมาว่า “นั่นมันคุณธนพัตประธานTNP Groupไม่ใช่เหรอ เขามาที่นี่ทำไม”

พอได้ยินประโยคนี้ หัวใจของสาริศาก็บีบรัด สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ทำไมถึงได้เจอเขาเร็วขนาดนี้!

พอรู้สึกว่ามือของสาริศาจับแขนของเขาแน่นขึ้น ชัชวาลก็เอื้อมมือออกไปตบมือของเธอเพื่อปลอบใจเบาๆ “ริศา ไม่ต้องกลัว พี่อยู่ตรงนี้ทั้งคน”

 “อืม” สาริศาพยักหน้า ก่อนที่จะรีบปรับสีหน้าให้สงบนิ่ง เธอไม่ได้กลัว แค่ได้เจอกันเร็วกว่าที่เธอคาดไว้นิดหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

หลังจากหายใจเข้าลึก สาริศาก็มองขึ้นไปที่ทางเข้างานประมูล

จึงเห็นว่าวันนี้ธนพัตสวมชุดสูทสีดำเหมือนปกติ แต่ยังเหมือนเมื่อก่อน เนื้อผ้าคุณภาพดี และตัดเย็บอย่างประณีต มองแค่ก็รู้ว่าเป็นชุดสูทระดับสูงที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษ

ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะเคยเห็นธนพัตบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่สนามบินแล้ว แต่ตอนนี้ได้เห็นตัวจริง สาริศาพบว่าเสน่ห์ของเขาไม่ได้ลดลงจากเมื่อก่อน แต่กลับเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า

ใบหน้าที่เหมือนถูกแกะสลักออกมา รูปร่างสูงใหญ่ สีหน้าเย็นชาและหยิ่งทระนง ทำให้คนที่อยู่ในงานอดที่จะรู้สึกประทับใจในตัวเขาไม่ได้

แต่ไม่เหมือนตอนที่เห็นเขาในหน้าจอโทรทัศน์ในวันนั้น ใบหน้าประดับรอยยิ้ม และตอบคำถามที่ยุ่งยากของนักข่าวอย่างมาดมั่น สาริศารู้สึกว่าตอนนี้เห็นธนพัตแผ่รังสีที่กดดันออกมา

ถ้าเป็นธนพัตเมื่อห้าปีก่อนแค่สีหน้าเย็นชา ทำให้ผู้คนลังเลไม่กล้าเข้าใกล้ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ธนพัตคงทำให้ผู้คนหวาดกลัวมาจากก้นบึ้งของหัวใจ และไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดเข้าใกล้

สายตามองผ่านฝูงชน แน่นอนว่าธนพัตเองก็เห็นสาริศาแล้วเช่นกัน

ทันทีที่เขาเห็นเธอ ร่างกายของธนพัตก็แข็งทื่อไปทันที

ไม่ได้สังเกตชุดที่สวยงามบนเรือนร่างของเธอ ไม่ได้สังเกตใบหน้าที่แต่งหน้ามาอย่างละเอียดอ่อน ไม่สังเกตว่าในตอนนี้มือของเธอกำลังจับแขนของชายอื่นอยู่ ความจริงแล้ว เขาไม่ได้มองคนที่ยืนอยู่ข้างเธอด้วยซ้ำ

ธนพัตเอาแต่จ้องไปที่ดวงตาของสาริศา มองไปที่ใบหน้านั้น ที่ปรากฏอยู่ในความฝันของเขาทุกคืน ใบหน้าที่เขาเอาแต่คิดถึงทั้งกลางวันและกลางคืน

ดวงตาของเธอยังคงสวยงามอย่างนั้น สะอาดและเป็นประกาย เหมือนครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน ปราศจากสิ่งเจือปน เหมือนสามารถมองผ่านหน้าต่างแห่งดวงตาบานนี้ มองเข้าไปถึงความรู้สึกของเธอ และสาริศาเองก็มองไปทางธนพัตที่ยืนแข็งทื่อเช่นกัน เธอไม่คิดจะหลบหนี ไม่ได้หวาดกลัว แค่นิ่งสงบ

ไม่ใช่สิ ความนิ่งสงบเป็นแค่เปลือกนอก ภายในเปลือกนอกที่นิ่งสงบ ดูเหมือนว่าจะมีอย่างอื่นแฝงอยู่ในความนิ่งสงบนั้นด้วย...

คือความเกลียดแค้น

ความเกลียดชังที่ฝังลึกเข้าไปในใจและความอดทน ทำให้ธนพัตหวั่นใจอย่างควบคุมไม่ได้

ทั้งสองสบตากันอยู่อย่างนั้นไม่คนรอบข้าง เหมือนโลกใบนี้เหลือพวกเขาเพียงแค่สองคน

ไม่มีเสียงพูดคุยกัน สายตาของคนรอบข้างขยับมองไปมาระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าตัวละครหลักที่พวกเขาคุยกันเมื่อตะกี้จะมาพบกันอีกครั้งต่อหน้าต่อตาพวกเขาแล้ว

หลังจากนิ่งเงียบไปนาน บางคนก็เริ่มกระซิบพูดกับคนรอบข้าง สักพัก ก็เริ่มมีคนกระซิบพูดเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ