หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 328

“นี่มันยังไงกันแน่ ดูสายตาสองคนนี้สิ นี่หรือว่าจะยังไม่หมดรักต่อกัน?”

 “เอ๊ะ เดี๋ยวนะ” มีคนหันไปถามคนที่พูดเมื่อตะกี้ “คุณไม่ได้บอกว่าคุณพชิราอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณธนพัตหรอกเหรอ แล้วนี่มันยังไงกันแน่?”

 “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชายหนุ่มคนนั้นเองก็งุนงงเหมือนกัน “ผมได้ยินมาจากเพื่อน เขาบอกว่าขาของคุณพชิราพิการ และคุณธนพัตก็คอยดูแลเธอมาตลอดหลายปี แต่คุณธนพัตยังไม่ได้แต่งงานกับคุณพชิรา ผมนึกว่าคุณธนพัตจะเป็นห่วงสุขภาพของคุณพชิรา จึงตั้งใจจะรออีกสองปีค่อยแต่งงานกับเธอ แต่ดูจากตอนนี้ หรือว่าเขาจะยังคิดถึงอดีตภรรยาของเขาอยู่?”

 “ฉันคิดว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นแบบนั้น คุณดูสายตาของเขาที่มองคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลสิ มองตาแทบไม่กะพริบเลย ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรใครจะเชื่อ”

 “ใช่ แต่แบบนี้มันไม่ถูกต้อง ในเมื่อเขาเต็มใจที่จะดูแลคุณพชิรา นั่นหมายความว่าเขามีเธออยู่ในใจ แล้วทำไมพอเห็นอดีตภรรยาเขาถึงมีท่าทางแบบนี้ ถ้าหากลืมไม่ลง ตอนนั้นทำไมถึงหย่ากันล่ะ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา คนรอบข้างก็นิ่งเงียบไป ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ก่อนจะพากันส่ายหน้าไปมา “ใครจะไปรู้ล่ะ ตกลงแล้วในหัวใจของคุณธนพัตมีใครอยู่ข้างในกันแน่ หรือว่าจะมีทั้งสองคนอยู่ในนั้น?

 ……

เสียงพูดคุยรอบข้างเริ่มส่งเสียงดังมากขึ้น สาริศาได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดไม่ค่อยชัดเจน แค่พอได้ยินว่าพชิราขาพิการ ธนพัตคอยดูแลเธออะไรทำนองนั้น

ตอนแรกคือตกใจว่าทำไมพชิราถึงพิการได้ จากนั้นก็เจ็บปวดหัวใจเล็กน้อย ที่แท้ธนพัตก็รักเธอถึงเพียงนี้ ถึงแม้เธอจะพิการไปแล้ว แต่เขาก็ยังคอยดูแลเธอมาตลอดโดยไม่ท้อถอย

พอนึกถึงตอนที่เขาสั่งให้ชรัณบังคับให้เธอไปทำแท้ง สาริศาก็อดที่จะหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ สำหรับเขาแล้ว

ใครคือคนที่อยู่ด้วยกันโดยไม่ได้รัก ใครคือคนที่คอยตามตื๊อ แค่ดูก็รู้ความแตกต่างทันที

เธอรีบถอนสายตาออกมาก่อน สาริศาหันหลังกลับแล้วคล้องแขนชัชวาลเข้าไปในงานประมูลโดยไม่มองธนพัตอีก

ดวงตาของธนพัตคอยมองตามสาริศาไป พอเห็นแผ่นหลังที่สวยงามของเธอปรากฏออกมาในขณะที่เธอเดิน ธนพัตก็ตกใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ เมื่อก่อนเธอไม่เคยสวมชุดที่มีเสน่ห์แบบนี้มาก่อน

วันนี้เขาได้รับข่าวมา ว่าชัชวาลเดินทางกลับมาได้สักพักแล้ว และนิธิธราสกุลกรุ๊ปกำลังจะจัดการประมูลขึ้นมา และคุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลก็จะมาร่วมงานนี้ด้วย

พอได้ยินแบบนี้ หัวใจที่ตายด้านไปตลอดห้าปีที่ผ่านมาของเขาถึงได้เริ่มเต้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อห้าปีก่อน ชัชวาลบอกว่าสาริศาต่างหากที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา ถ้าอย่างนั้น คุณหนูใหญ่ตระกูลนิธิธราสกุลที่จะมาร่วมการประมูลในครั้งนี้ก็ต้องเป็นสาริศาใช่ไหม?

เขาขอความช่วยเหลือจากคนอื่นจนได้บัตรเชิญมา ธนพัตก็รีบขับรถมาที่โรงแรมที่จัดการประมูลทันที ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วใช่ไหม

ทันทีที่เขาเห็นสาริศา ธนพัตรู้สึกว่าหัวใจของเขาที่ก่อนหน้านี้ยังคงเต้นแรงอยู่กลับหยุดลง เป็นเธอจริงๆ ด้วย หลังจากผ่านไปห้าปี ในที่สุดเขาก็ได้เจอคนที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา แต่ว่า...

พอนึกถึงสายตาของสาริศาที่มองมาที่เขาก่อนหน้านี้ ธนพัตก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจ ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นเงาของตัวเองอยู่ในสายตาของเธอเลย หรือว่าเธอจะไม่มีเขาอยู่ในใจอีกต่อไปแล้ว?

มือของเขากำหมัดแน่น ในดวงตาของธนพัตเป็นประกายอย่างมุ่งมั่น ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอจากไปอีกเด็ดขาด!

พอคิดได้แบบนี้ ธนพัตก็เดินตามสาริศาเข้าไปในงานประมูล คนรอบๆ พอเห็นว่าตัวเอกทั้งสองหายไปแล้ว พวกเขาจึงทยอยกันเข้าไปในสถานที่จัดงานประมูล

หลังจากที่ทุกคนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว พิธีกรบนเวทีก็ประกาศเสียงดังว่าการประมูลได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ในช่วงเริ่มต้นเป็นการประมูลเครื่องลายครามทั่วไปของราชวงศ์ชิง นักประมูลจึงเป็นกลุ่มมือใหม่ อาจทำการประมูลเพื่อฝึกฝน ราคาในการประมูลจึงอยู่ตั้งแต่สองแลนถึงห้าแสนไม่มากไปกว่านั้น

คนที่ตั้งใจจะมาประมูลของชิ้นใหญ่จริงๆ ล้วนไม่ส่งเสียง เพราะพวกเขารู้ ว่าในการประมูลของเก่าแบบนี้ ของดีจะถูกเก็บไว้ท้ายสุด

ในเวลานี้พิธีกรในการประมูลชี้ไปที่สินค้าที่สาวงามถือขึ้นมาแล้วพูดว่า “เอาล่ะครับ สินค้าที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นสินค้าชิ้นพิเศษที่สุดของการประมูลในครั้งนี้ มันคืออะไรนั้น”

พอพูดถึงตรงนี้ พิธีกรก็ส่งยิ้มปริศนาออกมา “ผมคิดว่าไม่มีใครสามารถเดาได้”

คำพูดของพิธีกรได้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนที่มาร่วมงานขึ้นมา การประมูลโบราณวัตถุไม่มีอะไรมากไปกว่าการประมูลเครื่องลายครามจากราชวงศ์ต่าง ๆ รวมถึงภาพเขียนและภาพวาดของบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ยังจะมีอะไรที่สามารถใช้คำว่าพิเศษมาอธิบายได้บ้าง?

ทุกคนในงานต่างพากันกระซิบพูดกับคนข้างๆ ว่าของที่อยู่ในกล่องบนถาดผ้าสีแดงคืออะไรกันแน่ และแน่นอน ว่ามีคนไม่พอใจกับพิธีกรที่แสร้งทำท่าทีปริศนา บนสีหน้าจึงเริ่มหมดความอดทน

พอเห็นทุกคนเริ่มหมดความอดทน พิธีกรจึงหยุดพูดอ้อมค้อม และประกาศออกไปตรงๆ “สินค้าชิ้นพิเศษนี้ก็คือแหวนครับ”

พอได้ยินคำพูดของพิธีกร ผู้คนในงานก็ถอนหายใจออกมา นึกว่ามันเป็นของพิเศษอะไร แต่กลับเป็นแค่แหวนวงหนึ่ง และไม่รู้ว่ามันมาจากราชวงศ์ไหน

แต่พอพิธีกรเปิดกล่อง และให้ทุกคนเห็นของในนั้นได้อย่างชัดเจน ในงานประมูลก็ตกอยู่ในความเงียบงัน จากนั้นก็มีเสียง “โห่ร้อง” ประท้วงดังขึ้นมา

“นี่มีอะไรพิเศษตรงไหนกัน”

 “ฉันก็นึกว่าเป็นแหวนของจักรพรรดิหรือนางสนมสวมสักองค์เคยสวมใส่ แต่กลับเป็นแหวนแบบนี้!”

 “จริงด้วย อย่าว่าแต่พิเศษเลย มันไม่ใช่ของโบราณด้วยซ้ำ มันคือแค่สินค้าสมัยใหม่ชิ้นหนึ่ง”

 “ต่อให้คุณต้องใช้ของล้ำค่าสมัยใหม่มาเสริม ก็ควรจะเป็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่เท่าไข่นกกระทา แต่นี่มันอะไร จะโกงพวกเราหรือไงกัน!”

 “ดูเหมือนสินค้าข้างหลังก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว”

 ……

ที่แตกต่างจากผู้คนรอบตัวที่กำลังพูดดูถูกแหวนวงนี้ ตอนที่ธนพัตเห็นแหวนวงนี้ก็ตกใจจนเบิกตากว้าง มือขวาของเขาจับที่วางแขนของเก้าอี้ไว้แน่น ร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความโกรธ

มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เธอกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ธนพัตมองไปทางสาริศาที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดไม่ไกลจากเขา และเหมือนจะใจตรงกัน สาริศาเองก็หันกลับมาสบสายตากับธนพัตพอดี

 หลังจากเห็นความโกรธที่ไม่ปิดบังในดวงตาของธนพัต สาริศาก็ยิ้มเยาะออกมา ยิ้มเยาะเย้ยธนพัต และเยาะเย้ยตัวเอง

มีอะไรที่เขาต้องโกรธด้วย ความสัมพันธ์ของเธอกับเขามาจนถึงจุดนี้ได้เพราะความโหดร้ายและการทรยศของเขาทั้งนั้น ตอนนี้เธอแค่อยากจะประมูลขายแหวนแต่งงานของพวกเธอทิ้งเท่านั้นเอง

จากนี้ไป ไม่ใช่สิ นับจากนี้ไป แหวนวงนี้เป็นเพียงสิ่งของที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินให้เธอได้ ไม่มีความหมายอะไรอื่นอีกต่อไป

เธออยากจะบอกลาอดีตอย่างสมบูรณ์

บอกลาสาริศาที่แสนโง่ คนที่ตาบอดไปตกหลุมรักธนพัตในตอนนั้น

บอกลาอย่างเด็ดขาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ