ธนพัตกำลังนั่งจัดการเอกสารในมืออยู่ในห้องทำงานประธานของTNP Group แต่ว่าความคิดมันโบยบินออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่สามารถกำจัดภาพที่สาริศาเดินออกไปกับออสตินออกไปจากหัวได้เลย
พอนึกได้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเองต่ำเกินไป ธนพัตปิดแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเขา เอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตาเพื่อผ่อนคลายประสาท
ตั้งแต่ทริปเรือสำราญในวันนั้น ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้เจอสาริศากับออสตินอีกเลย แต่ว่าพวกเขาก็เหมือนยังอยู่ในชีวิตของเขา
ในบ้าน ในห้องทำงาน บนโต๊ะอาหาร ในห้องประชุม หรือแม้แต่ในฝัน……ภาพเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาตลอด ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างชัดเจน
ภาพที่พวกเขานั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะอาหาร ภาพที่ออสตินช่วยเช็ดปากให้เธอ และความลับระหว่างพวกเขาที่เขาไม่เข้าใจ การที่เธอมีสีหน้าที่เย็นชาต่อเขาเพราะออสติน แล้วตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันที่เขามองไม่เห็น มันจะดูสนิทสนมกันมากกว่าตอนที่เขาเห็นอีกไหม?
พอคิดได้แบบนี้ ธนพัตก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า เขาไม่อยากจะคิดเลย แม้แต่คิดอเมริกากี่โมง เขากลัวว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นมันจะเป็นเรื่องจริง เขากลัวว่าสาริศาที่เคยเป็นของเขา ตอนนี้จะกลายเป็นสาริศาขอคนอื่นไปแล้ว และนี่จะเป็นความเจ็บปวดที่เขาไม่สามารถรับได้
ธนพัตลืมตาขึ้นในทันที สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามจะไล่ภาพในหัวออกไป
ไม่ได้ เขาต้องตรวจสอบเรื่องความสัมพันธ์ของสาริศากับออสตินให้ชัดเจนว่าเป็นยังไงกันแน่ เป็นเพื่อนหรือเป็นแฟน? ถ้าเกิดว่าเป็นแฟนกันแล้วล่ะก็ ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว……ถ้าเกิดว่าคาดเดาไปมั่วซั่วแบบนี้ เขากลัวว่าไม่ช้าก็เร็วเขาต้องประสาทแตกแน่นอน
“ก๊อกๆๆๆ ”มีคนมาเคาะประตูห้องทำงาน
ธนพัตนั่งตัวตรง แล้วก็เปิดแฟ้มเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง
“เข้ามาสิ”น้ำเสียงยังคงเป็นทางการเหมือนเดิม เหมือนกับว่าชายที่เปราะบางเมื่อกี้นี้ไม่เคยปรากฏตัวขึ้น
ประตูเปิดออกช้าๆ คนที่มานั้นคือชรัณ
“คุณชายพัท ได้เจรจากับคุณฝนแห่งเจริญพรกรุ๊ปเรียบร้อยแล้วนะครับ พวกเขายินดีจะมอบกำไรให้พวกเราเพิ่มอีก 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เรียกร้องว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายค่าประกันสินค้าให้TNP Groupเป็นคนจ่าย”
เมื่อไม่กี่วันก่อนชรัณถูกธนพัตส่งตัวไปทำงานแทนที่เมืองนอก วันนี้พอลงจากเครื่องบินก็รีบกลับบริษัทมารายงานผลสรุปให้ธนพัตฟัง
“โอเค ทำดีมาก”ในที่สุดธนพัตก็คลี่ยิ้มออกมา แต่ว่าก็เก็บรอยยิ้มนั้นไปอย่างรวดเร็ว กลับมามีท่าทีเย็นชาเหมือนเดิม
“แต่ว่ามีอีกเรื่องที่อยากจะรบกวนให้นายช่วยตรวจสอบหน่อย”
“เชิญสั่งมาได้เลยครับ”
“สาริศากลับมาแล้ว นายช่วยฉันตรวจสอบหน่อยว่าเธอกับผู้ชายที่ชื่อออสตินนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ ฉันอยากรู้ผลให้เร็วที่สุด”
ธนพัตกําหมัดแน่น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่เขาต้องสืบเรื่องของเมียตัวเองกับผู้ชายคนอื่น
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหย่ากันนานแล้ว แต่ว่าในใจของเขาสาริศาก็ยังคงเป็นภรรยาของเขาอยู่ เขาไม่มีทางอนุญาตให้คนอื่นมาแตะต้อง แม้แต่คิดก็ไม่ได้!
“คุณนายน้อยกลับมาแล้วเหรอครับ!”ชรัณตกใจมาก คุณนายน้อยกลับมาได้ยังไงกัน?
นึกถึงตอนนั้นที่ตัวเองพาคนไปบังคับให้สาริศาต้องทำแท้ง ชรัณก็เหงื่อซึมออกมาที่หน้าผาก และเลือดก็ไหลลงอาบแก้มของเขา
สุดท้ายเรื่องในตอนนั้นก็ปิดบังไม่ได้แล้วใช่ไหม?
พอเห็นปฏิกิริยาของชรัณ ธนพัตก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย “นายเป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร”ชรัณเอาหลังมือเช็ดเหงื่อของตัวเอง “ผมก็แค่รู้สึกตกใจพอได้ยินว่าคุณนายน้อยกลับมาแล้ว เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ? พวกคุณ……ได้เจอกันหรือยัง”
ถ้าเกิดว่าได้เจอกันแล้ว แล้วคุณนายน้อยได้เล่าเรื่องลูกให้คุณชายฟังหรือเปล่า? คุณชายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นหรือยัง? ถ้าเกิดว่ารู้แล้ว เขาจะทำยังไง? แล้วจะอธิบายเรื่องที่ตัวเองได้ทำในตอนนั้นให้คุณชายฟังยังไง?
ถ้าเกิดเขาบอกว่าเขาทำเรื่องพวกนั้นเพราะพ่อแม่ของตัวเองถูกพชิราจับเป็นตัวประกัน คุณชายจะให้อภัยเขาหรือเปล่า แล้วคุณนายน้อยจะให้อภัยเขาไหม?
พอคิดได้แบบนี้ หัวใจของชรัณก็เต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว แต่ความคิดเขาก็เปลี่ยนไปและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก คุณชายพัทน่าจะยังไม่รู้หรอก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่พูดกับเขาด้วยท่าทางที่สงบแบบนี้หรอก แต่ว่าเรื่องนี้มันยังจะซ่อนไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?
“ช่วงก่อนหน้านี้ เคยเจอกันอยู่ 2-3 ครั้ง”ธนพัตก็ไม่ได้สงสัยในคำพูดของชรัณ “นายไปพักผ่อนก่อน แล้วก็ไปช่วยฉันสืบเรื่องที่พูดไปเมื่อกี้ แล้วอีกอย่าง ตอนนี้นามสกุลเธอเปลี่ยนไปแล้ว ตอนไปสืบอย่าดูผิดล่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมจะไปสือเดี๋ยวนี้” หลังจากตอบตกลง ชรัณก็หันหลังและเดินออกจากห้องทำงานมา ก้าวเดินของเขาไม่มั่นคงเหมือนแต่ก่อน โลเลอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าธนพัตที่ก้มหน้ากำลังดูเอกสารอยู่นั้นไม่ได้ทันสังเกต
ชรัณเดินออกมาจากห้องทำงานของท่านประธานอย่างไม่สบายใจ เขารู้สึกว่าขาอ่อนอย่างหนัก ในหัวเอาแต่คิดว่าตัวเองควรจะอธิบายเรื่องเมื่อตอนนั้นได้ยังไง และขอร้องให้คุณชายกับคุณนายน้อยยอมให้อภัย
ความจริงแล้วหลายปีที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้มีความสุข ทุกวันเขาต้องทรมานกับความรู้สึกผิด 5 ปีแล้ว พอเขาเห็นเด็กน้อยเมื่อไหร่ เขาก็จะนึกถึงตอนนั้นที่สาริศาร้องไห้และวิงวอนให้เขาปล่อยเด็กในท้องของเธอไป แล้วก็โทษตัวเองอยู่นาน
หลายปีมานี้คุณชายคิดถึงคุณนายน้อยแค่ไหน และพยายามอดทนอดกลั้นต่อพชิราขนาดไหน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาหรอก หลายครั้งที่เขาอยากจะเปิดปากและเล่าให้ธนพัตเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ให้เขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพชิรา แล้วก็ตามคุณนายน้อยกลับมา
แต่ว่าเขาก็ไม่กล้า ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ไม่สามารถรวบรวมความกล้าได้ เขารู้สึกหวาดกลัวจึงไม่กล้าพูด……
“ชรัณ!”ความคิดของเขาถูกขัดด้วยเสียงแหลมๆ ชรัณหันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นพชิรากำลังเข็นรถตรงมาที่เขา
ความรู้สึกรังเกียจเกิดขึ้นในใจ ชรัณหันหลังไปเตรียมจะเดินไปที่อื่น หลายปีมานี้ถ้าเขาสามารถหลีกเลี่ยงพชิราได้เขาก็จะหลีกเลี่ยง เขาไม่อยากจะเห็นผู้หญิงที่ใจร้ายใจดำคนนี้เลยจริงๆ
ทุกครั้งที่เห็นเธอเสแสร้งทำเป็นทุกข์ใจและพูดถึงเรื่องขาทั้งสองข้างของตัวเองขึ้นมา และขอให้ธนพัตตอบรับข้อตกลงที่ไม่สมควรต่างๆ ของเธอ เขาก็แทบอดไม่ไหวที่จะเปิดเผยเรื่องที่เธอทำต่อหน้าสาธารณชน
“ชรัณ นายหยุดเลยนะ!”พชิราเพิ่มความเร็วและไปขวางชรัณเอาไว้ “นายเป็นอะไรไป เหมือนไม่มีสมาธิ ฉันเรียกนายตั้งหลายครั้งแต่นายก็ไม่ยอมตอบ!เห็นฉันแล้วยังกล้าหันหลังเดินออกไปอีก หรือว่านายไม่อยากทำงานที่TNP Groupอีกแล้ว เชื่อไหมว่าฉันจะไปให้ธนพัตไล่นายออกตอนนี้แหละ!”
พอได้ยินคำขู่ของพชิรา ชรัณก็รู้สึกว่ามันน่าขำดี เธอคิดว่าเธอสามารถสั่งธนพัตได้อย่างนั้นเหรอ? เธอคงประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว
หลังจากด่าชรัณเสร็จ พชิราก็ใจเย็นลง “นายมากับฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะปรึกษา”
“เรื่องอะไรเหรอครับ?” ชรัณระแวงขึ้นมาทันที พชิรามาหาเขาแสดงว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
“นายจะกลัวขนาดนี้ทำไม !”พชิรามีสีหน้าไม่พอใจ “ฉันไม่ได้จะกินนายซะหน่อย ไปหาที่เงียบๆ แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ