หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 368

แม้จะสงสัยว่าทำไมธีภพถึงลาออกไป แต่ตอนนี้ใจของสาริศากลับเต็มไปด้วยความดีใจคิดถึงพี่จ๊าจ๋า เมย์ และอดีตเพื่อนร่วมงานในสำนักพิมพ์ก็อดใจรอไม่ไหว อยากจะไปทำงานเร็วๆแล้ว

ในทั้งบ่ายสาริศาไม่มั่วนั่งเสียใจในห้องอีกต่อไป แต่พาชัชวาลไปห้างด้วยกัน

หลังจากเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองใส่ไปทำงานแล้ว สาริศาก็ใส่ชุด รอคำวิจารณ์จากชัชวาลอย่างใจจดใจจ่อ ชัชวาลได้แต่พยักหน้าตลอดเวลา สีหน้าเต็มด้วยรอยยิ้ม

อยู่กับสาริศามาห้าปีแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสาริศาลากตัวเองออกไปซื้อเสื้อผ้าอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าการตัดสินใจให้เธอกลับไปทำงานที่สำนักพิมพ์จะถูกต้อง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของเธอ

หลังจากเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองแล้ว สาริศาก็เลือกชุดให้ชัชวาลอีกสองสามชุดด้วยความสบายใจ เมื่อเห็นว่าสาริศามีความสุขมากขนาดนี้ ชัชวาลก็ไม่อยากจะขัดความสุขเธอ ลองชุดให้เธอดูทีละชุด

มองดูชัชวาลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา มีเพียงคำว่าหล่อจนใจเจ็บเท่านั้นที่จะใช้พรรณนาชัชวาลได้ สาริศาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เห็นๆกันอยู่ว่าเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวกัน ทำไมเขาใส่แล้วถึงขาวขนาดนี้ คอเสื้อก็ตั้งตรง พนักงานสาวที่อยู่ข้างๆหน้าจะแดงเป็นแอปเปิลสุกแล้ว

แล้วสาริศาก็ต้องทุกข์ใจ พี่ชายตัวเองดีขนาดนี้ ทำไมไม่เห็นเงาพี่สะใภ้เลยนะ ไม่รู้จริงๆว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหนกัน ตั้งหลายปีมาแล้ว ที่เธอไม่เห็นผู้หญิงข้างกายเขาเลย

เมื่อเห็นว่าเขาใส่แล้วหล่อขนาดนี้ สาริศาจึงขอให้พนักงานเอาไปคิดเงินให้หมดเลย แม้ว่าชัชวาลจะเป็นคนจ่ายแต่สาริศาก็ไม่รู้สึกผิดเลย ใครใช้ให้พี่หาเงินได้มากกว่าล่ะ

วันรุ่งขึ้นสาริศาตั้งใจเลือกสูทขาวดำสำหรับผู้หญิงใส่ไปทำงาน หล่อเหลาแต่แฝงด้วยความเป็นกุลสตรี ดูสะอาดตา เกินบรรยาย

เมื่อเธอขับรถไปที่สำนักพิมพ์อย่างมีความสุข เช่นเดียวกัน ในสำนักพิมพ์ก็จะระเบิดเพราะการมาของเธอ

ทุกคนต่างกำลังพูดถึงข้อมูลที่พวกเขาได้กันมา มีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับบรรณาธิการใหญ่คนใหม่นี้อย่างมาก

“นี่ๆ ผมได้ยินมาว่าเป็นสาวสวย แต่ผมไม่รู้ว่าจะนิสัยยังไงนะ หวังว่าจะไม่แย่เกินไปนะ” น้ำเสียงตื่นเต้นผสมกับความวิตกกังวลมาจากเพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่ง

“ฉันได้ยินมาว่าเพิ่งกลับมาจากอเมริกา และเคยทำงานในVJด้วยนะ ไม่ใช่เล่นๆ!”

“ใช่ ไม่รู้ว่ามาจากครอบครัวแบบไหน มาถึงก็เป็นบรรณาธิการใหญ่เลย ไม่ใช่ลูกหลานคนทั่วไปแน่ๆ"

“ใครจะรู้เกี่ยวกับประสบการณ์พวกนั้นในต่างประเทศ อาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาเองก็ได้ สมัยนี้แล้ว ใครที่ไม่โอ้อวดเรื่องไปอยู่นอกมาบ้างล่ะ จริงๆแล้วก็เป็นแค่พวกข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง จะมีความสามารถจริงๆไหมยังไม่รู้เลย”

น้ำเสียงขี้อิจฉานี้มาจากชญาภา เดิมทีการลาออกของธีภพเป็นโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งของเธอ เธอก็ยื่นสมัครตำแหน่งบรรณาธิการใหญ่ด้วย ตอนแรกคิดว่าต้องได้แน่ แต่ใครจะคิดว่าจู่ๆก็มีตัวขัดลาภโผล่มา

ทุกคนไม่กล้าเห็นด้วยกับชญาภา ใครจะไปรู้ว่าบรรณาธิการใหญ่คนใหม่จะมีนิสัยยังไง แล้วถ้ารู้ว่าชญาภานินทาลับหลัง แล้วพาลโกรธทุกคนกันหมดจะทำยังไง พวกเขาไม่อยากจะมีเรื่องขุ่นเคืองกับบรรณาธิการใหญ่ตั้งแต่แรก

เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ตอบโต้กับคำของตน ชญาภารำพึงในใจกพวกคนขี้ขลาด!

“ใครเป็นบรรณาธิการใหญ่ไม่สำคัญ เราแค่ต้องทำงานให้ดีก็แค่นั้นแหละ” เมย์ไม่ร่วมถกกับทุกคน สำหรับเธอ ใครเป็นบรรณาธิการก็เหมือนกันหมด ยังไงมันก็ไม่ใช่ตำแหน่งของเธอ

“พูดแบบนี้ไม่ได้นะ จะมีผู้นำดีหรือไม่ดีมันสำคัญกับเรามากนะ ไม่อย่างนั้นงานก็จะสนุกน้อยลงเยอะเลย ทำงานให้ดีมันก็เรื่องหนึ่ง ทำงานกับคนที่ใช่ก็จะมีอนาคตไม่ใช่หรือไง” พี่จ๊าจ๋าที่นั่งข้างเมย์พูดอย่างไม่ลำเอียง

“ใช่ค่ะ” เมย์พยักหน้า “ฉันหวังว่าบรรณาธิการคนใหม่จะเป็นคนมีเหตุผล”

สาริศายืนอยู่หน้าประตู รู้สึกว่าหัวใจของเธอไม่ได้เต้นแรงขนาดนี้มาก็นานแล้ว

เธอคุ้นเคยกับทุกอย่างของที่นี่มาก แม้ว่าเมืองจะเปลี่ยนไปอีกแบบแล้วในระยะ5ปีนี้ แต่พื้นที่โดยรอบของสำนักพิมพ์แทบจะเป็นแบบเดียวกันกับก่อนหน้านี้เลย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ชัดเจน ทำให้สาริศาตื่นเต้นมากขึ้นอีก

สาริศาสูดลมหายใจเข้ายาวๆแล้วเดินเข้ามาในห้องสำนักพิมพ์ ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานที่เคยร่วมงานกันก่อนหน้านี้ยังอยู่ไหม ตอนนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง

“พะ...พี่ริศา!” เมื่อเห็นสาริศาปรากฏตัวที่หน้าประตูสำนักพิมพ์ เมย์ก็รีบยืนขึ้นพรวด อิ่มเอิบใจด้วยความตื้นตัน

“พี่ริศา พี่จริงๆ เหรอ” รีบวิ่งไปที่สาริศา เมย์ลังเลที่จะเอื้อมมือออกไปกอดเธอ นี่ใช่พี่ริษาจริงหรือ ตอนนี้เธอสวยมากเลยอะ!

“ฉันเองจริงๆ” เธอตอบด้วยรอยยิ้ม สาริศาจึงเอื้อมมือไปกอดเมย์ก่อน “ฉันกลับมาแล้ว เธอเป็นยังไงบ้าง”

“เป็นพี่จริงๆด้วย พี่ริศา ทำไมตอนนั้นพี่ไปไม่บอกกันเลยล่ะคะ ฉันคิดถึงพี่มากเลย”

เมย์พูดพลางอดร้องไห้ไม่ได้ ทำให้สาริศาต้องรีบปลอบใจเธอ

เมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างสาริศากับเมย์ พนักงานเก่าทุกคนก็ตกตะลึง

พนักงานใหม่ที่ไม่เคยเห็นสาริศาก็ยืนดู ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ริศา เธอเป็นบรรณาธิการใหญ่คนใหม่ใช่ไหม” พนักงานเก่าคนหนึ่งมีสติกลับมาแล้วถามด้วยความสงสัย

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ทุกคนก็เงียบรอคำตอบของสาริศาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป ใช่เหรอ

“ค่ะ” สาริศายิ้มและพยักหน้า “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

ทุกคนต่างมองไปมา ฉันมองเธอ เธอมองฉัน พวกเขายังงงๆ

คนที่เคยเป็นพนักงานที่แสนธรรมดาที่ ในเวลาเพียง 5 ปี ก็กลับมาเป็นบรรณาธิการใหญ่งั้นเหรอ

ชะตาช่างพลิกผันจริงๆนะ!

เมื่อคำนั้นออกมา บางคนก็มีความสุขจริงๆ และบางคนก็กังวล คนที่ไม่รู้จักสาริศาก็แล้วไป เพื่อนร่วมงานที่เคยร่วมงานกับสาริศาก็ต่างคิดกันว่าเคยทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องอะไรมาให้นะ

สาริศาไม่คิดว่าทุกคนจะคิดกันเยอะแบบนี้ พอนึกถึงพนักงานบางคนที่ยังไม่รู้จักตนเอง เธอจึงแนะนำตัวเองสั้นๆ

เนื้อหาก็ประมาณว่า "ฝากเนื้อฝากตัวด้วย" นั่นแหละ แต่เน้นชื่อปัจจุบันของเธอเป็นพิเศษก็คือ "สาริศา นิธิธราสกุล"

ใช่ ตอนนี้เธอเป็นสาริศา นิธิธราสกุล ไม่ใช่สาริศาคนเก่า ไม่ใช่แค่เธอเองเท่านั้นที่จะต้องจำไว้ คนรอบข้างของเธอก็เช่นกัน

ผู้คนในสำนักพิมพ์เร็วกับเรื่องแบบนี้มาก พวกเขานึกถึงข่าวคราวที่สร้างความฮือฮาในเมืองS ก่อนหน้านี้ได้อย่างรวดเร็ว ตัวตนที่แท้จริงของสาริศาคือลูกสาวของนิธิธราสกุลกรุ๊ป

ขณะนั้นเอง สายตาของทุกคนที่มองมาที่เธอก็เปลี่ยนไป ความคุ้นเคยที่แปลกไป มีร่องรอยของความหวาดกลัว ไม่ว่าในอดีตจะเป็นยังไง ต่อไปทุกคนก็ไม่ใช่คนระดับเดียวกันอีกต่อไปแล้ว

ชญาภาถึงแม้จะไม่เต็มใจและริษยา แต่ก็ไม่กล้าที่จะคัดค้านใดๆกับตัวตนในปัจจุบันของเธอ เดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้มจอมปลอม ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า "ยินดีต้อนรับกลับมานะริศา ตอนนี้เธอสวยขึ้นมากเลย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ