หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 369

รู้ว่าชญาภาไม่ได้จริงใจ แต่สาริศาก็ยังจับมือเธอและยิ้มตอบ “ขอบคุณนะ หวังว่าต่อไปเราจะเข้ากันได้ดี”

เมื่อเห็นคนสองคนที่ไม่ลงรอยกันจับมือแล้วยิ้มให้กันแบบนี้ คนที่สำนักพิมพ์ก็เข้าใจได้เรื่องหนึ่งคือ คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้ไม่ใช่สาริศาคนก่อนจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมีสีหน้าแบบนี้มาก่อน

แต่ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ดีหรือไม่ดี หัวใจของทุกคนกระสับกระส่ายกันเล็กน้อย

หลังจากทำความคุ้นเคยกันได้หนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดงานของสาริศาก็เข้าที่เข้าทาง เธอเริ่มให้ทุกคนไปทำหัวข้อสัมภาษณ์คนดังโดยหวังว่าจะใช้กระแสนิยมของคนมีชื่อเสียงเพื่อเพิ่มยอดขายสำนักพิมพ์

แม้ว่าความคิดจะดีมาก แต่ในทางปฏิบัติก็มีความยากอยู่บ้าง ถ้าเชิญดาราดัง ค่าใช้จ่ายจะเกินที่สำนักพิมพ์ประเมินไว้มากเกินไป แต่ถ้าเชิญคนที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างทั่วถึง ยอดขายนิตยสารก็จะเพิ่มขึ้นไม่ได้แน่

หลังจากประชุมและอภิปรายกันในช่วงเช้า หลังจากการระดมความคิด สาริศาตัดสินใจที่จะมุ่งความสนใจไปที่แวดวงธุรกิจของ เมือง S

ลูกเล่นอย่าง "นักธุรกิจชั้นแนวหน้า" จะดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากได้อย่างแน่นอน แถมยังเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองนี้เองที่มักจะถูกพบเห็นได้บ่อยๆ เชื่อว่าภายใต้ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคน ก็จะไม่รู้สึกห่างไกลตัวเกินไป จะกลับมีความสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความนิยมและภาพลักษณ์ของบริษัทของตัวเอง เชื่อว่าการสัมภาษณ์คนเหล่านี้ง่ายกว่าการสัมภาษณ์ดาราคนดังมาก

“ในเมื่อกำหนดขอบเขตแล้ว ทุกคนลองแนะนำกันมาสักสองสามคนสิ หารือกันแล้วหาผู้ถูกเลือกคนสุดท้ายกันเถอะ” สาริศาพูด

ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็พยายามคิด และเลือกผู้ที่เหมาะสมไว้ในใจ

“บรรณาธิการคะ ฉันคิดว่ามีอยู่คนหนึ่ง” มินท์ หยิงสาวที่เพิ่งเข้ามายกมือขึ้น

สาริศายิ้มแล้วตอบว่า "ลองบอกให้ฟังหน่อยสิ"

"คุณบุรินทร์ กีรติเมธานนท์ทุกคนคงเคยได้ยิน ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้พัฒนาที่ดินผืนใหม่ ว่ากันว่าเขาจะสร้างโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง S เรื่องนี้เป็นเรื่องเด่นในอินเทอร์เน็ตตอนนี้เลย กระแสความนิยมสูงมาก ทุกคนต่างให้ความสนใจกับประเด็นนี้ เลยคิดว่าเขาตรงกับความต้องการของเรา"

ยิ่งพูดหญิงสาวก็ยิ่งตื่นเต้น รู้สึกว่าคนที่เธอแนะนำ เหมาะสมมากจริงๆ

แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีใครเห็นด้วย พนักงานเก่าบางคนถึงกับมองหญิงสาวอย่างเห็นใจ บุรินทร์น่ะหรอ มีใครคิดไม่ถึงบ้าง ถ้าคนแบบนี้เหมาะสมจริง ๆ ใครจะรอให้เด็กใหม่มาเสนอกันล่ะ

แล้วไม่ต้องพูดเลย ความสัมพันธ์ระหว่างบรรณาธิการใหญ่กับเขา ถ้าเห็นด้วยสิแปลก ไม่โดนด่ากลับมาก็เป็นบุญหัวแล้ว!

สาริศาเกร็งเมื่อได้ยินชื่อของบุรินทร์ ปลายนิ้วจิกเข้าฝ่ามือ ถ้าไม่ใช่เพราะเขากับพชิราเธอจะต้องไปอยู่ต่างประเทศตั้งห้าปีทำไม แล้วแทบจะต้องเสียธีร์ไป

แค้นนี้เธอต้องชำระ!

เมื่อคิดได้แบบนี้ สาริศาก็มีแผนค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในใจ เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น คราวนี้เธอต้องสู้กับบุรินทร์จนเขาเอาคืนไม่ทัน

“เป็นข้อเสนอที่ดี ใช้ได้” สาริศาทำหน้าให้นิ่งที่สุด

เมื่อได้ยินว่าสาริศาเห็นด้วย ทุกคนก็ประหลาดใจ เห็นด้วยง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่มีการตำหนิ ไม่โกรธด้วย

สาริศาพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า “การสัมภาษณ์นี้ ฉันจะไปเอง”

ทุกคนตะลึง

สาริศาเห็นแล้วก็แกล้งยิ้ม

อันที่จริง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทุกคนจะประหลาดใจขนาดนี้ เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับบุรินทร์ค่อนข้างซับซ้อน

เธอเคยมีความสัมพันธ์ทางกฎหมายกับธนพัต แม้ว่าตอนนี้เธอจะหย่าร้างแล้ว แต่ก็เป็นข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ และบุรินทร์ก็เป็นพี่ชายแท้ๆของธนพัต

ตอนนี้สาริศาจะไปสัมภาษณ์บุรินทร์ด้วยตัวเอง เธอจะไม่อึดอัดบ้างหรือไง

เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังพูดถึงการตัดสินใจของตน สาริศาจึงสามารถเดาได้ว่าทำไม แต่เธอไม่สามารถห้ามทุกคนไม่ให้พูดได้ และหลังจากผ่านเรื่องหลายสิ่งหลายอย่าง การพูดคุยกันแบบนี้ทำอะไรเธอไม่ได้อีกแล้ว

“พี่ริศา ไม่งั้นให้ฉันไปสัมภาษณ์คุณบุรินทร์เถอะ ฉันสัญญา ฉันจะคุมการสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้แน่นอน” เมย์มองสาริศาอย่างเป็นห่วง

ไม่ใช่ว่าเธอต้องการจะแย่งงาน แต่เธอเป็นห่วงจากใจจริงถ้าสาริศาได้เจอบุรินทร์อีกครั้ง แล้วนึกถึงสิ่งที่ไม่มีความสุขเหล่านั้น

“ไม่เป็นไรจ้ะ” สาริศายิ้มขอบคุณที่เมย์ “เธอไม่ต้องห่วงพี่นะ”

เธอเคาะโต๊ะเบาๆ ส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ สาริศาขึ้นเสียงแล้วพูดว่า “ทุกคนเงียบก่อน เรื่องนี้ก็เป็นแบบนี้แล้วกันนะ ฉันจะไปสัมภาษณ์คุณบุรินทร์ แต่มีบางอย่างที่อยากให้พวกคุณช่วยตรวจสอบให้หน่อย ผลการตรวจสอบมีความสำคัญมากสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้”

ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความสงสัย เรื่องอะไรกัน

สาริศาดูจริงจังแล้วพูดต่อว่า “ก่อนการสัมภาษณ์เราต้องตรวจสอบโครงการบุรินทร์ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างลึกซึ้งเพื่อดูว่ามีความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เมื่อเรารู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ บทสัมภาษณ์ของเราก็จะมีจุดพีคและเป็นไฮไลท์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน”

เมื่อได้ยินสาริศาพูดเช่นนี้ ทุกคนก็พยักหน้า มันคือเรื่องจริง

ต่อมา หลังจากที่ทุกคนพูดคุยและยืนยันคนที่จะไปสัมภาษณ์อีกสองสามคนแล้ว สาริศาก็ประกาศเลิกประชุม เหลือไว้เพียงคนที่น่าเชื่อถืออีกสองสามคน เช่น เมย์ พี่จ๊าจ๋า ที่มอบหมายการตรวจสอบโครงการของบุรินทร์ให้แก่พวกเขา และยังสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ติดตามอย่างใกล้ชิด

เมื่อเห็นว่าสาริศาให้ความสำคัญกับการสัมภาษณ์ครั้งนี้มาก ทุกคนก็ตกปากรับคำ

ในสัปดาห์ต่อมา สาริศายุ่งมากจนไม่มีเวลาส่งธีร์ไปและรับกลับจากโรงเรียน ตอนทานอาหารเช้า ธีร์ยังคงบ่น ว่าแม่ไม่ได้เล่นกับเขานานมากแล้ว

ได้ยินแบบนั้น สาริศาก็รู้สึกผิดเกินคำบรรยาย ทำได้แค่กอดลูกชายอย่างทุกข์ใจ แล้วบอกว่าหลังจากจบงานช่วงนี้ จะพาเขาออกไปเที่ยว

ธีร์ได้เพียงแต่ทำหน้าบูดบึ้ง มองแล้วสาริศาก็เศร้ามาก

แต่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้จริงๆ เรื่องบุรินทร์ยังไม่คืบหน้า ใจของเธอก็กังวลมาก เธอจึงทำได้เพียงทำงานเยอะขึ้นเพื่อจะอยู่ตรวจสอบ

สองวันต่อมา เรื่องของบุรินทร์ก็ยังดูไม่มีอะไรสาริศาโกรธจนอยากจะด่า เธอไม่เชื่อว่ามือเท้าของบุรินทร์จะสะอาดหมดจด แต่ทำไมถึงตรวจสอบไม่ได้ล่ะ

เมื่อสาริศาแทบหมดความหวัง โทรศัพท์ของเมย์ก็นำข่าวดีมาสู่เธอ

รับสายแล้ว สาริศาก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของเมย์ว่า “พี่ริศา ข่าวดี เรื่องที่ขอให้พวกเราสืบมาในที่สุดก็มีเบาะแสแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ