หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 374

พชิราคิดว่ารอยยิ้มเป็นเพราะเธอ ยิ่งได้ใจยิ่งกว่าเดิม พูดด้วยน้ำเสียงออเซาะให้คนหลง “ออสติน จริง ๆ แล้วที่ฉันไม่ได้ตอบตกลงนายในตอนนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เจอกันอีกในตอนที่ดีกว่าเดิมก็ได้นะ นี่มันเป็นพรหมลิขิตของเราเลยไม่ใช่เหรอ"

พรหมลิขิตงั้นเหรอ ออสตินมองไปที่พชิราด้วยแววตาเยาะเย้ย นี่เป็นบทโทษสำหรับความหุนหันพลันแล่นของเขาในตอนนั้นต่างหาก

ถึงยังไง พชิราก็ไม่คิดว่า ออสติน ล้อเลียนเธอ ในสายตาของเธอ รอยยิ้มในดวงตาของออสติน นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นสัญญาณแห่งความสุข

“มะรืนนี้จะมีหนังเข้าใหม่ได้ยินมาว่าตัวอย่างไม่เลวเลย สนใจจะไปดูด้วยกันมั้ย” พชิราเริ่มเชื้อเชิญ “ขอโทษทีนะ วันนั้นฉันมีงานต้องทำ น่าจะไม่มีเวลา” ออสตินปฏิเสธโดยไม่รีรอ ลุกขึ้น “ผมยังมีเรื่องต้องทำ ผมไปก่อนนะ”

พชิราไม่ทันได้คิดอะไร ได้แต่มองดูออสตินเดินลับสายตาไปอย่าง งงๆ

เมื่อร่างของออสตินหายไป มองไม่เห็นแล้ว พชิราก็กลับมารู้สึกตัว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอายขายขี้หน้า ตัวเองบอกใช้ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ออสตินนี่มันไม่รู้จักรักษาโอกาสไว้จริงๆ!

เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนขอร้องให้เธอเดทด้วย ตอนนี้ตนลองให้โอกาสไว้หน้าเขา เขากลับกล้าปฏิเสธ! น่าโมโหจริงๆ!

คิดว่าวันนี้ออสตินต้องอารมณ์ไม่ดีแน่ๆ ไม่งั้นด้วยความเป็นเขา เขาไม่มีวันปฏิเสธคำเชิญของเธอไม่ว่ายังไงแน่นอน

แม้ว่าขาของเธอจะพิการแต่เธอก็ยังมั่นใจในเสน่ห์ของเธอ ผู้ชายล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตใช้ตาดู จะทนปฏิเสธผู้หญิงอย่างเธอได้ยังไงกัน

......

ในอีกทางหนึ่ง หลังจากที่สาริศากลับบ้านมา ก็หยิบเอกสารที่ออสตินมอบให้มาอ่านอย่างระมัดระวัง ราวกับจะสลักทุกคำไว้ในใจ

นึกถึงการสัมภาษณ์พรุ่งนี้ สาริศาก็ตื่นเต้นเล็กน้อย คราวนี้เธอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้แล้ว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปห้าปี แต่มันก็เป็นหนามในใจของเธอตลอดมา และมันก็เป็นชนวนของเรื่องทั้งหมดด้วย

ในที่สุดความจริงก็จะปรากฏออกมาแล้ว

ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู ชัชวาลเดินเข้ามา

“เธอจะไปสัมภาษณ์บุรินทร์เหรอ” ชัชวาลถามทันทีที่เปิดประตูเข้ามา

สาริศาพยักหน้า "ใช่ค่ะ พรุ่งนี้"

"เธอรู้มั้ยว่านี่มันอันตรายแค่ไหน เธอพยายามจะทำอะไรกันแน่!" ชัชวาลอดขึ้นเสียงไม่ได้ น้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธเช่นกัน

เธอทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้โดยไม่ปรึกษาตนได้ไง บุรินทร์ลักพาตัวเธอไปได้ครั้งหนึ่ง ก็ทำครั้งที่สองอีกได้ เธอเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายอยู่นะ!

หลายปีมานี้ชัชวาลใส่อารมณ์กับเธอนับครั้งได้เลย แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือทุกครั้งก็เพราะเป็นห่วงเธอ สาริศารู้ว่าครั้งนี้ก็เหมือนกัน

“พี่คะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะระวัง ฉันปล่อยเรื่องตอนนั้นไปไม่ได้จริงๆ ฉันต้องล้างแค้นนี้ให้น้องธีร์” สาริศาพูดอย่างหนักแน่น

เมื่อรู้ว่าสาริศาไม่เคยออกจากเงามืดในตอนนั้นได้ ชัชวาลก็ทุกข์ใจมากเช่นกัน “ปล่อยให้พี่จัดการเรื่องแก้แค้นนี้จะได้ไหม เรื่องนี้อันตรายเกินไปจริงๆ ถ้าบุรินทร์จะทำอะไรอีก...”

“เรื่องนี้ฉันต้องทำเอง” สาริศาขัดคำพูดชัชวาล “พี่คะ ฉันจะระวังให้มากขึ้น ให้ฉันทำเถอะ”

เธอต้องแก้แค้นด้วยตัวเองให้ได้! เมื่อเห็นว่าสาริศายืนกราน ชัชวาลไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมเธออย่างไร โรคหัวใจยังต้องการหมอหัวใจ บางทีแค่แก้แค้นด้วยน้ำมือของเธอเอง เธอถึงจะปล่อยวางแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แต่ว่า......

เฮ้อ ช่างมันแล้วกัน ทำได้แค่แอบส่งคนไปปกป้องเธอแล้วล่ะ

“ระวังตัวด้วยแล้วกัน ถ้าเจออันตรายอะไรต้องติดต่อพี่ทันทีเลยนะ” ชัชวาลกำชับอย่างเป็นห่วง

“ได้ค่ะ” สาริศาพยักหน้าอย่างหนักแน่น

ตอนที่ชัชวาลกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ธีร์ก็ขยี้ตาแล้วเข้ามาในห้องหนังสือ “แม่ครับ วันนี้นอนกับผมได้ไหม ผมอยากฟังแม่เล่านิทาน”

เธอเดินไปหาธีร์แล้วอุ้มลูกขึ้นมา สาริศาหันหน้าไปบอกชัชวาลว่า “พี่คะ ฉันไปกล่อมธีร์นอนก่อนนะ ไม่ต้องห่วง ฉันจะระมัดระวังให้ดี”

“อื้ม” ชัชวาลยกมือขึ้นลูบหัวธีร์ “ไปนอนเถอะ”

หลังจากกลับถึงห้องแล้วสาริศาก็วาง ธีร์ ลงบนเตียง ใช้มือตบหลังของเขาเบาๆ "ลูกอยากฟังเรื่องอะไร"

"เรื่องกระต่ายน้อยกับเสือโคร่ง"ธีร์ตอบอย่างตื่นเต้น แม่ไม่ได้เล่านิทานให้เขาฟังนานแล้ว

“ได้เลย” สาริศาแตะๆที่หน้าผากของ ธีร์ เบาๆ “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกระต่ายขาวตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในป่า และวันหนึ่ง แม่ของกระต่ายน้อยสีขาวพูดกับเธอว่า…”

ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของสาริศา ธีร์ก็ผล็อยหลับไปในไม่ช้า

เมื่อสัมผัสแก้มของ ธีร์ สาริศารู้สึกว่าหัวใจของเธอก็อ่อนลง ในขณะเดียวกัน เธอก็ต้องเสริมความมั่นคงให้ใจของตัวเอง

วันนี้ต้องเข้มแข็งขึ้นถึงจะถูก ตราบใดที่เธอเข้มแข็งพอถึงจะปกป้องธีร์ ปกป้องตระกูลนิธิราสกุล และปกป้องตัวเองได้

......

วันรุ่งขึ้นสาริศาพาเมย์และเรย์ช่างภาพ ไปที่กีรติเมธานนท์กรุ๊ป สำนักพิมพ์ได้นัดสัมภาษณ์กับบุรินทร์ไว้แล้ว

“ได้ค่ะ เชิญรอตรงนั้นก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันโทรบอกข้างบนสักครู่” หลังจากบอกกับแผนกต้อนรับของบุรินทร์แล้ว พนักงานสาวที่แผนกต้อนรับก็พูดอย่างสุภาพ

พยักหน้ารับแล้ว สาริศาก็นั่งบนโซฟาข้างๆแล้วรออย่างใจจดใจจ่อ

สักพักพนักงานต้อนรับก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “คุณบุรินทร์ออยู่ที่ออฟฟิศค่ะ เชิญตามมาได้เลยค่ะ”

เดินตามพนักงานต้อนรับเข้าไปในลิฟต์แล้วมองดูเลขชั้นที่เพิ่มขึ้น ใจที่กระสับกระส่ายของสาริศาก็ค่อยๆสงบลง ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

ในออฟฟิศ บุรินทร์รอสัมภาษณ์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

การพัฒนาโรงแรมนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของกีรติเมธานนท์กรุ๊ป ในช่วงกี่ปีมานี้เลย เขาใช้เวลามากมายในการขออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พูดได้เลยว่าตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เพียงแค่รอโอกาสเหมาะเท่านั้น เหลือแค่ต้องสร้างพื้นที่สื่อ เขาเห็นภาพของการจราจรที่คับคั่งหน้าโรงแรมหลังจากเปิดบริการแล้ว

ฮึ่ม! ขั้นตอนการอนุมัติครั้งนี้เขาทำเองหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับธนพัต หลังจากการพัฒนาโรงแรมเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ เกรียติศักดิ์ของเขาในกีรติเมธานนท์กรุ๊ป ก็จะเพิ่มขึ้น แล้วมาดูกันว่า ธนพัตจะแข่งกับเขาขึ้นเป็นผู้นำกีรติเมธานนท์กรุ๊ปได้ยังไงอีก!

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูเบา ๆ เรียกสติของบุรินทร์กลับคืนมา ลบสีหน้าที่ชั่วร้ายออกไป เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอบอุ่น

“เข้ามา”

“คุณบุรินทร์คะ คนสัมภาษณ์ที่นัดไว้วันก่อนมาแล้วค่ะ จะสัมภาษณ์ที่ไหนดีคะ” เลขาสาวหุ่นเซี้ยะถามอย่างอ่อนโยน

เมื่อมองดูหน้าอกและก้นของเลขาบุรินทร์ก็ตาพร่าเล็กน้อย “ในออฟฟิศแหละ ให้พวกเขาเข้ามาได้”

“รับทราบค่ะท่านประธาน” ขยิบตาให้บุรินทร์แล้ว เลขาก็หันกลับบิดตัวออกไป

บุรินทร์ดึงเนกไท พยายามระงับเปลวไฟในดวงตาของเขา แม่สาวยั่วสวาท เดี๋ยวก็ร็ว่าจะจัดการกับเธอยังไง

ผ่านไปสักพัก สาริศาก็ถูกนำพาไปที่ออฟฟิศของบุรินทร์ เมื่อเห็นบุรินทร์นั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ ดูราวกับเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ สาริศาก็เย้ยหยันในใจ

บุรินทร์รู้สึกคุ้นเคยตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นสาริศา เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน "สาริศา เธอเอง!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ