เห็นสายตาของทุกคนที่ชื่นชมอย่างไม่ปิดซ่อน ชญาภาที่นั่งอยู่ตรงกลางของผู้คนเกิดความไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่ว่าเธอก็จนปัญญา เพราะเธอเองก็ไม่สามารถหาวิธีสัมภาษณ์ออสตินด้วยตัวเองได้
ฮึ่ม ก็พึ่งพาบารมีตระกูลนิธิธราสกุลอยู่ดี ชญาภามองไปทางสาริศาด้วยความขุ่นเคือง
สาริศาก็ย่อมสัมผัสได้ถึงสายตาที่“แตกต่าง”นั้น แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้ใส่ใจ ไม่สนใจคนที่ไม่สำคัญ ชีวิตได้สอนให้เธอเรียนรู้สิ่งนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว
หลังจากจบการประชุม สาริศาก็กลับมาที่ห้องทำงานแล้วโทรศัพท์หาออสติน
“ริศา โทรมาหาผมมีเรื่องอะไรเหรอ” เสียงตั้งตารอของออสตินดังขึ้นจากปลายสาย
“ฉันมีเรื่องที่ต้องการรบกวนคุณ” สาริศารู้สึกเกรงใจเล็กน้อย ครั้งก่อนที่ขอความช่วยเหลือจากออสติน เธอยังไม่ทันได้ขอบคุณเขาแบบดี ๆ ตอนนี้ก็ยังมีเรื่องมีมาขอความช่วยเหลือจากเขาอีก
“เรื่องอะไรเหรอครับ” ออสตินกล่าวด้วยความดีใจ โอกาสที่สาริศาจะขอความช่วยเหลือจากเขานั้นยากมาก คบกันไปมาหาสู่ ความสัมพันธ์ของทั้งสองย่อมต้องสนิทกันเป็นธรรมดา
“ฉันอยากรบกวนคุณยอมรับการสัมภาษณ์จากสำนักพิมพ์ของพวกเรา ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหม” สาริศากล่าวถาม
“เอ่ออันนี้” น้ำเสียงออสตินมีความลังเล
“คุณวางใจได้ค่ะ การสัมภาษณ์ของบริษัทพวกเราจะไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างแน่นอน อีกทั้งยังช่วยให้คุณมีอิทธิพลในอาชีพของคุณด้วย”
สาริศากล่าวอย่างจริงจัง อยากจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ในเมื่อรับปากทุกคนว่าจะเตรียมการการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เธอจะต้องไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังที่ชื่นชอบตัวเอง
“อิ ๆ!” ออสตินรู้สึกขบขันน้ำเสียงที่จริงจังของเธอ “ตกลง ผมยอมรับการสัมภาษณ์จากสำนักพิมพ์ของคุณ แต่ว่าผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”
“เงื่อนไขอะไรคะ” น้ำเสียงของสาริศาที่ค่อนข้างร้อนรน แต่สีหน้าปรากฏรอยยิ้ม เห็นท่าแล้วคงจะมีโอกาส
“เงื่อนไขก็คือผมต้องการให้คุณเป็นคนสัมภาษณ์ผม”
เสียงหัวเราะของออสตินจากปลายสายค่อนข้างเจ้าเล่ห์“ผมเชื่อมั่นคุณคนเดียว ถ้าหากเป็นคนอื่นสัมภาษณ์ผม ผมจะรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นผมยอมรับการสัมภาษณ์ของคุณคนเดียว”
เมื่อเห็นออสตินพูดเช่นนี้ สาริศาอยากจะกลอกตามองบน เธอไม่ได้รู้จักกับเขาแค่วันแรกสักหน่อย ทำไมถึงไม่มีความรู้สึกปลอดภัย คำพูดเช่นนี้ทำไมเขาถึงพูดออกมาได้
“ฉันจะกำชับเพื่อนร่วมงานที่ไปสัมภาษณ์คุณอย่างดี ไม่ต้องห่วง พวกเราจะต้องไม่สัมภาษณ์ถามเรื่องที่เฉียบคมอย่างแน่นอน แบบนี้ได้ไหม” สาริศากล่าวเสนออย่างระมัดระวัง
ความรู้สึกของออสตินที่มีต่อเธอ ถึงแม้ว่าเธอไม่เต็มใจที่จะเผชิญ แต่เธอก็ใช่ว่าจะไม่รู้ เธอไม่ได้ชอบออสติน ระยะห่างที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุดก็คือเพื่อนเท่านั้น ดังนั้นการยอมรับเงื่อนไขนี้ สำหรับเธอแล้วฉันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจ
“ริศา ผมบอกแล้ว ผมยอมรับการสัมภาษณ์จากคุณคนเดียว” น้ำเสียงของออสตินจริงจังขึ้นมาทันใด ทำทุกอย่างมากมายเช่นนี้ เธอยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองอีกเหรอ
เมื่อเห็นออสตินยืนกราน แล้วก็นึกถึงรอยยิ้มที่ดีใจของทุกคนเมื่อรู้ว่าสามารถสัมภาษณ์ออสตินได้ สาริศาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ตอบตกลง
“อย่างนั้นก็ได้”
หลังจากนัดกับออสตินสำหรับเวลาและสถานที่ในการสัมภาษณ์แล้ว สาริศาก็วางสายโทรศัพท์ลง
ออสตินตอบรับการสัมภาษณ์จากพวกเขา เดิมทีควรรู้สึกดีใจถึงจะถูก แต่สาริศากลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอส่ายหัวเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดมาก และก็เริ่มก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
...
...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...