หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 397

สรุปบท บทที่ 397 สูญเสียญาติไปหนึ่งคน: หวานเย็น กรุ่นใจ

สรุปตอน บทที่ 397 สูญเสียญาติไปหนึ่งคน – จากเรื่อง หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต

ตอน บทที่ 397 สูญเสียญาติไปหนึ่งคน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หวานเย็น กรุ่นใจ โดยนักเขียน ช็อคโกแลต เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“หนูช่วยเธอไม่ได้จริง ๆ” สาริศามองกันยาแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “เรื่องเธอกับธนพัตเป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองคน หนูไม่อยากเข้าไปยุ่ง และก็ยุ่งไม่ได้”

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ล่ะ” กันยาลนลานยิ่งกว่าพชิรา “หนูก็แค่บอกกับธนพัตให้ยกโทษพชิราก็ได้แล้ว ระหว่างพวกเขาสองมีอะไรที่ขัดแย้งกันมากมายล่ะ”

“เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น” สาริศาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรกับกันยา “อีกอย่างความสัมพันธ์ของหนูกับธนพัตตอนนี้แม่ก็รู้ดี เรื่องนี้หนูช่วยไม่ได้จริง ๆ”

กันยายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกพชิราดึงมือไว้ “น้ากันยา ริศาไม่ยอมช่วยฉันก็ช่างเถอะ ฉันไปขอร้องธนพัตเองก็ได้”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ พชิราก็น้ำตาไหลนองและทำท่าจะเข็นรถเข็นจากไป

กันยาก็ย่อมไม่ปล่อยเธอไปแบบนี้ “เพชรหนูอย่าเพิ่งไป น้าจะพูดกับริศาอีกครั้ง เธอจะต้องช่วยเหลือหนูอย่างแน่นอน”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ กันยาก็หันกลับมาดึงสาริศา “ริศา รับปากหนูเพชรเถอะนะ ถือว่าแม่ขอร้องดีไหม”

เมื่อได้ยินกันยาพูดเช่นนี้ สาริศาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รับปากนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ว่าปฏิเสธนั้นเธอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้

ขณะที่สาริศากำลังอยู่ในภาวะที่ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้น พชิราได้เอ่ยปากขึ้น

“ริศา ฉันหาวิธีด้วยตัวเองก็แล้วกัน เมื่อก่อนเรื่องที่ฉันเคยทำไม่ดี ตอนนี้ฉันเข้าใจดีที่เธอไม่สามารถยกโทษให้ฉัน ฉันไม่หน้าหนาขอความช่วยเหลือจากเธออีก”

พชิราพลางพูดน้ำตาพลางไหลลงอาบแก้ม เธอไม่ยอมเช็ดออกด้วย ปล่อยให้ไหลนองหน้าอยู่อย่างนี้ ที่คนเห็นแล้วเกิดความสงสาร

ไม่สนใจการรั้งของกันยา พชิราเมื่อพูดจบก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป กันยารีบตามไปปลอบ ทิ้งสาริศาอยู่ให้ห้องผู้ป่วยคนเดียว

เมื่อนึกถึงคำพูดของพชิราที่พูดต่อหน้ากันยา แต่ละคำล้วนพาดพิงถึงความใจแคบแค้นใจของเธอ สาริศาก็รู้สึกว่าเจ็บปวดในใจจนหายใจไม่ออก นี่ต่างหากคือจุดประสงค์ของการบริจาคไขกระดูกเหรอ

สักพักกันยาก็กลับมา น้ำตาคลอเต็มเบ้า ดึงมือของสาริศาแล้วกล่าว

“ริศา ถือว่าแม่ขอร้องหนูนะ หนูช่วยหนูเพชรพูดกับธนพัตหน่อยเถอะ เพชรเธอสูญเสียขาไปแล้ว น่าสงสารมาก เธอชอบธนพัตขนาดนี้ หากธนพัตไม่สนใจเธออีก แล้วเธอจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร”

ได้ยินกันยาพูดแบบนี้ สาริศาอดไม่ได้ที่จะเย็นวาบในใจ ที่แท้กันยาก็รู้ด้วยว่าพชิราชอบธนพัต ในเมื่อรู้ แล้วทำไมถึงพูดคำเหล่านี้กับเธอ?

ตอ่ให้เธอกับธนพัตจะทะเลาะกัน อย่างไรนั่นก็เป็นอดีตสามีของเธอ ตอนนี้กันยากลับเกลี้ยกล่อมตัวเองให้ไปบอกสามีตนไปคืนดีกับผู้หญิงอื่นเหรอ ช่างบ้าบอคอแตกมาก

อีกทั้งตั้งแต่ที่ตัวเองมาถึงที่นี่ กันยาไม่ได้ถามไถ่เป็นห่วงตัวเองสักคำ ความสนใจทั้งหมดนั้นอยู่บนตัวของพชริาหมด เห็นทีลูกเลี้ยงอย่างเธอคนนี้คงจะเทียบไม่ได้กับลูกแท้ ๆ จริง ๆ

ถึงแม้จะคิดแบบนี้ แต่สาริศายังคงเอ่ยปากอย่างสุภาพ “ไม่ใช่ว่าหนูไม่ยอมช่วย แต่ว่าหนูกับธนพัตได้หย่ากันแล้ว เรื่องของเขาหนูไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่ง และหนูก็ไม่อยากจะติดต่อกับเขา เรื่องนี้ให้พวกเขาไปจัดการกันเองเถอะค่ะ”

สาริศาคิดว่าตัวเองได้อธิบายอย่างชัดเจนแล้ว กันยาน่าจะควรยอมแพ้ได้แล้ว แต่ว่าใครจะไปรู้เธอกลับยังไม่ยอมปล่อยเธอ

“ถึงแม้ว่าพวกหนูจะหย่ากันแล้วตอนนี้ แต่ว่าความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยาที่ยาวนาน เชื่อว่าคำพูดของหนูธนพัตจะต้องฟังอย่างแน่นอน หนูโทรบอกเขาสักหน่อย ให้เขายกโทษให้เพชรหน่อยดีไหม”

เห็นสีหน้าสาริศาที่ปกปิดความเจ็บปวดไว้ไม่ได้ กันยาก็เกิดความสับสนในใจ คำขอร้องแบบนี้ค่อนข้างจะมากไปจริง ๆ แต่เมื่อเห็นเพชรร้องไห้ฟูมฟาย เธอก็รู้สึกเจ็บปวดมากจนแทบจะทนไม่ได้

“ริศา แม่เห็นหนูเติบโตมาตั้งแต่เด็ก แม่รู้ว่าหนูเป็นคนจิตใจดี หนูใจกว้างหน่อยนะ ให้อภัยเพชรได้ไหม วันนี้หนูก็เห็นแล้ว เพชรร้องไห้เจ็บปวดขนาดนั้น เธอสำนึกผิดแล้วจริง ๆ หนูช่วยเธอหน่อยนะ ชาตินี้เธอจะต้องไม่ลืมความดีของหนูอย่างแน่นอน”

สาริศารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนแตกเป็นรู คำพูดของกันยาเหมือนกันลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาก็ไม่ปาน ช่างเย็นเยียบจริง ๆ เย็นจนร่างกายสั่นเทาไปหมด

ต่อให้เธอจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ เธอก็เรียกกันยาว่าแม่มายี่สิบกว่าปี หรือว่าในใจของเธอ มีเพียงพชิราลูกสาวคนนี้คนเดียว แล้วอย่างนั้นเธอคืออะไร!

ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีก น้ำเสียงสาริศาแหบแห้ง “หนูรู้แล้วค่ะ หนูขอคิดดูก่อน แม่พักผ่อนก่อนเถอะ หนูมีเวลาแล้วค่อยมาเยี่ยมแม่ใหม่”

เมื่อได้ยินสาริศายินดีที่จะไตร่ตรองเรื่องนี้ กันยาก็ดีใจมาก “หนูไตร่ตรองดี ๆ นะ รอหนูคิดได้แล้วค่อยโทรมาบอกแม่ เพชรรู้เข้าจะต้องดีใจมากอย่างแน่นอ”

สุดท้ายเธอก็ยังคิดไม่ได้เหรอ ดวงตาของสาริศาเจ็บจี๊ด

หลังจากที่กำชับกันยาอีกสองสามประโยค ให้เธอดูแลตัวเองดี ๆ แล้ว สาริศาก็จากห้องผู้ป่วยไป

สาริศาไม่ได้ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านอย่างช้า ๆ  ลมเย็น ๆ ที่ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ได้พัดโชยเข้ามากระทบที่ใบหน้าจนน้ำตาเหือดแห้ง 

วันนี้ด้านจิตใจเธอได้สูญเสียญาติไปแล้วหนึ่งคน 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ