เมย์ที่อยู่ข้างๆก็ทนไม่ไหวกับความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากร่างกาย หลังจากได้ยินคำพูดของธนพัต ก็ลากสาริศาที่อึ้งไปเล็กน้อยวิ่งไปให้ไกล ก่อนไปยังหันไปพูดกับธนพัตว่า “ขอบคุณนะคะคุณธนพัต!”
วิ่งไปได้ไกลแล้ว เมย์กับสาริศาจึงหนุดลง มองเห็นว่าเสื้อผ้าแต่ละคนคนต่างก็เปียกชุ่ม ทั้งสองคนก็หัวเราะลั่นออกมาไม่หยุด
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่นี่นะเนี่ย” เมย์พูดในขณะที่ยังรู้สึกหวาดระแวงอยู่แม้จะผ่านไปนานแล้ว “ฉันถูกสาดจนเปียกชุ่มไปทั้งตัวแล้ว”
“ฉันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเท่าไหร่หรอกนะ”สาริศามองเสื้อผ้าที่มีน้ำหยดลงมาไม่หยุดอย่างอดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ หวังว่ากลับไปจะไม่เป็นหวัดนะ
“ตอนนี้พวกเราสองคนก็คงได้แต่ใช้คำนี้มาบรรยายแล้วละ” เมย์ยิ้มพลางเอ่ยว่า “นั่นก็คือลูกหมาตกน้ำ!”
“ลูกหมาตกน้ำ!” สาริศาพูดเป็นเสียงเดียวกัน จากนั้นทั้งสองคนก็สบตากันหัวเราะออกมา
ทั้งสองคนเดินเลียบชายหาดพูดคุยหัวเราะกันสุดท้ายเมย์ก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ว่า “พี่ริศา ครั้งนี้ที่คุณธนพัตยอมมากับพวกเรา ก็เพราะพี่สินะคะ”
สาริศาไม่ได้พูดอะไร ถือว่าเป็นการยอมรับโดยปริยาย
“พี่ริศา แม้ว่าฉันจะไม่รู้สาเหตุว่าทำไมพี่ถึงเลิกกับเขาในตอนนั้น แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ฉันคิดว่าเขาดีกับพี่มาก อีกอย่างก็เป็นคนที่จริงใจแบบนั้น ไม่เหมือนกำลังแสดงละคร พี่ริศา ไม่คิดจะลองพิจารณาเขาหน่อยเหรอคะ”
เมย์พูดอย่างจริงใจ เธอมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาริศาจะมีความสุข
เมื่อก่อนทั้งสองคนรักกันมากขนาดนั้น ธนพัตเองก็ทำอะไรเพื่อสาริศาไม่น้อย ตอนนี้ก็มาเลิกกันแบบนี้ ความจริงทำให้คนอื่นรู้สึกเสียดายมาก อีกอย่าง เธอก็รู้สึกว่า พี่ริศายังชอบคุณธนพัตอยู่
มองเห็นความห่วงใยที่จริงใจบนใบหน้าของเมย์สาริศายิ้มให้เธออย่างซึ้งใจ ดวงตากลับไม่อาจปกปิดความอ้างว้างโดดเดี่ยวได้
“เมย์ ขอบคุณในความห่วงใยของเธอนะ แต่พวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วจริงๆ พี่กับเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว”
ได้ยินสาริศาพูดอย่างหนักแน่น เมย์เองก็ไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมต่อไปอย่างไร อาจเป็นเพราะระหว่างพวกเขาสองคนมีอะไรที่ปิดบังซ่อนเร้นบอกไม่ได้อยู่กระมัง ไม่อย่างนั้น พี่ริศาคงไม่เสียใจมากขนาดนี้
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุดความรื่นเริงของเทศกาลนี้จะสิ้นสุดลง สาริศากับเมย์สองคนกลับมารวมกับทีม
ทุกคนต่างก็เล่นกันจนหมดเรี่ยวแรง แต่ละคนขึ้นรถในสภาพตัวเปียกโชก เร่งรัดให้คนขับรถรีบกลับไป เพื่อที่จะได้เปลี่ยนชุด
“แค่กๆๆ!” ทันใดนั้นภายในรถก็มีเสียงไอดังขึ้นมา ดึงความสนใจของทุกคน ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนอากาศเย็นมากทีเดียว คงจะไม่ใช่ว่ามีใครเป็นหวัดหรอกนะ
“แค่กๆๆ!……” เสียงไอยังดังต่อเนื่อง มองตามเสียงไป ทุกคนพบว่าเสียงไอที่ดังตลอดเวลาคือมาจากบอสใหญ่ของพวกเขาเอง
“คุณธนพัตคะ คุณไม่เป็นไรนะคะ ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ใช่ค่ะ รู้สึกว่าตัวร้อนๆมั้ยคะ ถ้าเป็นไข้นี่แย่เลยนะคะ”
“ฉันมียาแก้หวัด อีกเดี๋ยวคุณกลับไปก็ดื่มน้ำกินยาสักหน่อยนะคะ”
……
ทุกคนต่างพากันแสดงความห่วงใยของตนเอง
“คุณพัท คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ” สีหน้าชรัณเองก็ร้อนใจเล็กน้อย หลายวันนี้ธนพัตงานยุ่งมากมาตลอด บวกกับวันนี้ คงไม่ใช่เหนื่อยจนป่วยหรอกนะ
“ผมไม่เป็นไร แค่คันคอนิดหน่อย พักหน่อยก็คงดีขึ้น ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง” ธนพัตหันไปยิ้มกับทุกคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...