เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว สาริศาก็เผชิญหน้ากับธนพัตด้วยสีหน้าที่กลับเป็นปกติได้อีกครั้ง เอาโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกง สาริศาเดินไปที่ข้างอ่างน้ำ ใช้น้ำเย็นล้างหน้า
มองดูตัวเองในกระจก สาริศาเตือนตัวเองจากก้นบึ้งหัวใจ ว่าจะไม่ยอมให้อภัยธนพัตเด็ดขาด!
หลังจากทำใจเสร็จแล้ว เธอก็เปิดประตูเดินออกไป แต่พเปิดประตู ก็มีเสียงไออย่างรุนแรงดังมา
มองไปตามทางเสียงที่ดังมา สาริศาก็มองเห็นธนพัตกำลังนั่งอยู่บนโซฟา คอมพิวเตอร์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้านหน้า
คนคนนี้ ป่วยแบบนี้แล้ว ยังมีกะจิตกะใจทำงานอีก เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนเหล็กหรือยังไงกัน
สาริศาเดินไปตรงหน้าธนพัตอย่างรวดเร็ว แล้วปิดคอมพิวเตอร์ของเขา โดยแทบจะไม่ต้องลังเลเลย “ตัวคุณเองเป็นไข้คุณเองไม่รู้หรือไง ไม่รู้จักรักและทะนุถนอมร่างกายตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ”
“ริศา เกิดเรื่องที่บริษัทกะทันหัน มีงานที่ผมต้องจัดการอย่างเร่งด่วนนิดหน่อย” ธนพัตอธิบายพลาง คิดจะเปิดคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้งพลาง
ใช้มือออกแรงกดคอมพิวเตอร์เอาไว้ สาริศารู้สึกโมโหมากอย่างไม่มีสาเหตุ “มีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่าสุขภาพร่างกายของคุณเหรอ เมื่อคืนคุณมีไข้สูง นี่เพิ่งจะดีขึ้นได้แปบเดียว ถ้าคุณอาการหนักขึ้นจะทำยังไง คุณอยากไปนอนที่โรงพยาบาลขนาดนั้นเลยเหรอ ”
เห็นแววตาห่วงใยของสาริศาได้อย่างชัดเจน จู่ๆธนพัตก็รู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นก็ไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นแล้ว “ริศา คุณเป็นห่วงผมเหรอ”
“ฉันกลัวว่าอาการคุณจะหนักขึ้น แล้วเอามาแพร่เชื้อให้ฉันต่างหาก” สาริศาพูดอย่างปากแข็ง
แม้เมื่อครู่เธอเพิ่งจะเตือนตัวเองไปว่าจะหวั่นไหวกับธนพัตอีกไม่ได้ แต่พอเห็นเขาไม่รักสุขภาพร่างกายของตัวเองแบบนี้ ความโกรธภายในใจจะสะกดกลั้นอย่างไรก็กลั้นไว้ไม่อยู่ คำพูดเหล่านั้นแทบจะโพล่งออกมาโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองเลย
ได้ยินคำพูดของสาริศา ธนพัตก็ก้มหน้าไปชั่วขณะ แม้เธอจะไม่ยอมรับ เขาก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่เธอมีต่อเขา ถ้ากลัวว่าจะติดหวักเขาจริง เมื่อวานจะเป่าผมให้เขาทำไม
“ริศา ขอบคุณที่เป็นห่วงผม ผมจะดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง” ธนพัตจ้องมองดวงตาสาริศา พูดกับเธออย่างอ่อนโยน
ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นห่วงเขา ธนพัตกลายเป็นคนคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ สาริศารู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อย หมุนตัวหนีสายตาของธนพัต เธอเดินไปทางห้องนอน “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“รอเดี๋ยว!” ธนพัตรั้งเธอไว้ หมุนตัวเดินมาตรงหน้าเธอ “ริศา ใกล้จะถึงวันเกิดคุณแล้ว ผมอยากจะเลี้ยงฉลองให้คุณหน่อย มีของขวัญอะไรที่คุณอยากได้มั้ย”
เมื่อได้ยินธนพัตพูดแบบนี้ สาริศาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานตอนที่ปลดล็อกโทรศัพท์มือถือของเขา รหัสผ่านคือวันเดือนปีเกิดของตนเอง เกิดความหวั่นไหวภายในใจเล็กน้อย
จะหวั่นไหวไม่ได้ หวั่นไหวไม่ได้ จะหวั่นไหวเพราะเหตุผลเล็กน้อยแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด……บ่นพึมพำในใจซ้ำไปซ้ำมา สาริศาฝืนบังคับสีหน้าตนเองให้เคร่งขรึม
“ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ฉันไม่ฉลองวันเกิด อีกอย่างฉันอยากได้อะไร ฉันซื้อเองได้ ไม่ต้องรบกวนคุณมาซื้อให้หรอกค่ะ” พูดประโยคจบ สาริศาก็เดินอ้อมธนพัตเข้าไปในห้องนอน
คำพูดที่เย็นชาทำให้ธนพัตอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจ เมื่อวานเห็นได้ชัดเจนว่าสาริศาเป็นห่วงตนเองมาก ทำไมตอนนี้ถึงมีท่าทางเย็นชาแบบนี้กับเขาได้
มองแผ่นหลังสาริศาที่เดินเข้าไปในห้องนอน จู่ๆธนพัตก็รู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าเล็กน้อย เมื่อก่อนเรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่รู้จักเธอดีที่สุด แต่สาริศาในตอนนี้กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนมองดอกไม้ท่ามกลางสายหมอก มองเห็นไม่ชัด จะอย่างไรก็มองไม่ออกว่าเป็นแบบไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...