สรุปตอน บทที่ 427 เธอต้องจงใจแน่ ! – จากเรื่อง หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต
ตอน บทที่ 427 เธอต้องจงใจแน่ ! ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หวานเย็น กรุ่นใจ โดยนักเขียน ช็อคโกแลต เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สาริศาต้องจงใจแน่นอน! ธนพัตทุบกระจกรถกระเช้าด้วยความโมโห จะลืมตอนไหนก็ไม่ลืม ทำไมต้องมาลืมตอนที่รถกระเช้ากำลังจะเคลื่อนตัวด้วยนะ
ก่อนหน้านี้เห็นเธอยอมตกลงให้ตนเองขึ้นมา เขาก็แอบดีใจ คิดว่าเธอทำด้วยความจริงใจ คิดไม่ถึงว่ากลับมีแผนอย่างอื่น
ทิ้งเขาให้อยู่กับผู้หญิงอื่นตามลำพังที่นี่ เธอหมายความว่ายังไง มีอย่างนี้ที่ไหนกัน!
“คุณธนพัต พี่ริศาอาจจะลืมหยิบของอะไรที่สำคัญก็ได้นะคะ ไม่นานก็คงรีบตามมา ไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอกค่ะ” น้ำหวานยิ้มพลางเอ่ยกับธนพัต
“อืม” ธนพัตไม่ได้หันไปมองน้ำหวาน ได้แต่ตอบไปอย่างง่ายๆ จากนั้นก็เอาแต่จ้องมองที่นั่งที่สาริศานั่งเมื่อครู่
ช่วงนี้ตนเองยอมตามใจผู้หญิงคนนี้มากเกินไปหรือเปล่า ดังนั้นเธอถึงได้กล้าทำอย่างไร้ความยำเกรงแบบนี้ ถึงขั้นผลักไสเขาให้ผู้หญิงอื่น อยากให้เขาโมโหตายหรือไง
นิสัยไม่เหมือนใครขนาดนี้เลยเหรอ เห็นว่าธนพัตไม่ได้เหลียวมองตนเองเลย น้ำหวานก็มีสีหน้าอึดอัดขึ้นมาทันที แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็หายไป แทนที่ด้วยความปลื้มปีติยินดี
เธอมั่นใจว่าตัวเองก็หน้าตาไม่เลว แต่ธนพัตกลับไม่เหมือนกับทายาทมหาเศรษฐีคนอื่นๆ ที่จ้องเธอไม่วางตา มีความอยากครอบครองซ่อนอยู่ในแววตา แต่เขากลับมองเธอแค่ตอนที่ทักทายกับเธอเท่านั้น ราวกับไม่ได้สังเกตเห็นว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง
คนที่เย็นชาแบบนี้ จะอ่อนโยนก็แต่กับคนที่เขารักและก็เป็นสเป็คของเธอพอดีด้วย ก็เหมือนกับพระเอกในนิยายไง ต่อไปหลังจากคบหากันแล้ว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะทอดทิ้งตนเองเพราะเจอผู้หญิงที่สวยกว่าแล้ว
“คุณธนพัตคะ ปกติคุณชอบงานอดิเรกอะไรเหรอคะ” น้ำหวานถามอย่างร่าเริง พยายามทำลายบรรยากาศอึมครึมระหว่างทั้งสองคน
ธนพัตเหล่มองน้ำหวานแวบหนึ่ง ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญ
สาริศาเล่นไม้นี้ทำให้เขาโมโหมาก ตอนนี้เขาแทบจะทนเอากำปั้นชกไปที่กระจกให้แตกหมดไม่ไหวแล้ว จะได้ระบายความโกรธในใจตัวเองออกมา มีกะจิตกะใจไปคุยกับคนอื่นที่ไหนกัน
แต่ในเมื่อคนอื่นเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน ทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมงานของสาริศาอีกด้วย ธนพัตจึงได้แต่ข่มอารมณ์ตัวเองไว้พูดออกมาสองคำว่า “ทำงาน”
“หืม” ได้ยินคำตอบของธนพัต น้ำหวานก็อึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มพลางพูดเสริมว่า “ที่แท้คุณธนพัตก็ชอบทำงานมากที่สุดนี่เอง บังเอิญจังเลยนะคะ ฉันก็เหมือนกัน ฉันมักจะรู้สึกว่าคุณค่าของมีตัวตนอยู่ของฉันสามารถพบได้ในงานของฉันเท่านั้น ตอนที่ฉันทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำซึ่งความรู้สึกประสบความสำเร็จอะไรบางอย่าง เหมือนกับ……”
ได้ยินสาวน้อยที่อยู่ตรงข้ามพูดเจื้อยแจ้ว ธนพัตก็รู้สึกว่าตนเองปวดหัวจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้เสียงดังน่ารำคาญขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าเด็กสาววัยรุ่นแบบนี้คงจะไม่ชอบงานที่น่าเบื่อ ดังนั้นเขาจึงบอกว่าชอบทำงาน อยากจะจบบทสนทนาที่น่าเบื่อนี้โดยเร็ว ทำไมเธอยิ่งพูดก็ยิ่งคึกคัก
สาริศานั่งอยู่บนรถกระเช้าคันที่สองกับคนอื่นๆ ระยะการเดินทางไปที่เกาะราวสามชั่วโมง
ตอนแรกสาริศายังคิดว่าสามารถข่มอารมณ์ให้สงบนิ่งได้ แต่หลังจากผ่านไปสักระยะก็ไม่ไหวแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม สายตาของตนเองอดที่จะมองไปยังธนพัตกับน้ำหวานที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้
ธนพัตในเวลานี้หันหลังให้สาริศา เธอมองไม่เห็นว่าเขามีสีหน้าท่าทางอย่างไร แต่สีหน้าท่าทางของน้ำหวานเธอกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังคุยอะไรกัน เห็นแค่ว่าบางครั้งเธอก็เอามือปิดปากหัวเราะร่า เวลาพูดถึงเรื่องที่ตื่นเต้น ยังยกแขนขากระโดดโลดเต้น ทั้งสองคนน่าจะพูดคุยกันอย่างมีความสุขมากสินะ
เห็นภาพตรงหน้า ในใจสาริศาจู่ๆก็เศร้าหมองขึ้นมาเล็กน้อย กระตุ้นให้น้ำตาไหลมาคลอเบ้า
“คุณธนพัตคะ ดูท่าพวกเราจะมีความคล้ายคลึงกันมากในแง่ของ “การทำงาน” นี่ก็คงจะเป็นพรหมลิขิตอย่างหนึ่ง”
ตนเองไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ เธอไปเอาข้อสรุปนี้มาจากที่ไหน ธนพัตบ่นอุบอยู่ในใจ ขี้เกียจจะพูด เขาฝืนยิ้มให้สาวน้อยตรงหน้า ถือว่าเป็นการตอบโต้
วัยรุ่นที่กระตือรือร้นในการทำงานแบบนี้ ถือว่าหาได้ยาก
เห็นธนพัตยิ้มให้ตนเอง น้ำหวานก็มีความรู้สึกเหมือนจู่ๆโลกก็สว่างวาบขึ้น นี่แสดงว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดเธอเหรอ เขาเองก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาสองคนมีวาสนาต่อกันมากเหรอ
รอยยิ้มนี้ของธนพัตกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญอย่างไม่มีสิ้นสุด น้ำหวานมองธนพัตพลางถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณธนพัตคะ ในเมื่อคุณเองก็รู้สึกว่าพวกเรามีวาสนาต่อกัน ถ้าอย่างนั้นคุณเอาเบอร์โทรศัพท์คุณให้ฉันได้มั้ยคะ”
ได้ยินดังนั้นสีหน้าธนพัตก็เย็นเยือกลงทันที ถ้าไม่รู้ว่าประโยคนี้ของเธอแสดงความหมายว่าอะไร หลายปีที่เขามีชีวิตอยู่มาก็เท่ากับเสียเปล่าแล้ว ในที่สุดธนพัตก็เงยหน้าขึ้นมามองไปที่น้ำหวาน ในดวงตาธนพัตเต็มไปด้วยความโกรธ แท้จริงแล้วเธอก็มีความคิดแบบนี้กับเขา สาริศารู้เรื่องมั้ย
หรือว่า เพราะว่ารู้ ก็เลยจงใจปล่อยให้พวกเขาอยู่กันตามลำพังสองคน ดูท่าว่าในช่วงนี้ตนเองจะตามใจเธอจนเหลิงแล้ว!
มองเห็นว่าจู่ๆสีหน้าธนพัตก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ในใจน้ำหวานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
ในขณะที่เธอกำลังหวาดวิตกอยู่นั้นเอง รถกระเช้าก็แกว่งไปมาอย่างกะทันหันระหว่างการเคลื่อนที่ ตั้งสติ ทำตาม
แรงโคลงของกระเช้าลอยฟ้า ฉุกคิดขึ้นมาทันที โคลงไปตามแรงเหวี่ยงของกระเช้าน้ำหวานก็ล้มลงไปบนตัวธนพัต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...