พอเห็นว่าสีหน้าบ.ก.เปลี่ยนเป็นย่ำแย่ขึ้นมา หลังจากได้ยินคำพูดของชญาภา เพื่อนร่วมงานในสำนักพิมพ์ต่างก็รีบ พูดเพื่อรักษาบรรยากาศว่า “ใครจะรับประกันได้ว่าบนเกาะนี้จะไม่มีอันตรายแน่นอน พวกเราแยกกันไปตามหาพวกเขาสามคนเถอะ”
จุดประสงค์ของทุกคนคือการมาเที่ยว ถ้าชญาภากับบ.ก.เกิดทะเลาะกันขึ้นมา คาดว่าการท่องเที่ยวในครั้งนี้คงไม่มีใครสนุก นั่นก็เท่ากับเป็นการเสียโอกาสที่จะใช้เงินบริษัทออกมาเที่ยวในครั้งนี้
คำพูดของเพื่อนร่วมงานคนนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน “ใช่ ไปตามหากัน พวกเราจะรออยู่เฉยก็คงไม่ได้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำยังไง”
“พวกเขาเองก็ไปนานแล้ว ทำให้คนอื่นเป็นห่วงจริงๆ พวกเราไปตามหาพวกเขากันเถอะ”
……
ได้ยินทุกคนพูดแบบนี้ ในใจสาริศาก็อดห่วงไม่ได้ “ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเมย์ไปเก็บฟืนไม่ปลอดภัยจริงๆ ทุกคนแยกกันไปหาเถอะ แต่จำไว้ว่าอย่างน้อยต้องกลุ่มละสามคน ห้ามไปลำพังเด็ดขาด ความปลอดภัยสำคัญที่สุด”
“รับทราบครับ บ.ก.” หลังจากทุกคนรับคำแล้วก็ค่อยๆแยกกัน กลุ่มละสามคนบ้างห้าคนบ้างแยกกันไปหาตามพุ่มไม้ที่ลึกเข้าไป
ชญาภากับเพื่อนร่วมงานชายหนึ่งหญิงหนึ่งไปด้วยกัน เห็นเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆในสำนักพิมพ์ค่อยๆแยกย้ายกันไปไกลแล้ว เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆชญาภาก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า
“ชญาภา ทำไมเธอต้องพูดแบบนั้นกับบ.ก.ด้วย ถ้าต่อไปเธอเล่นงานแกเรื่องงานจะทำยังไง”
“ฉันพูดตามความจริง น้ำหวานทั้งเด็กทั้งสวย คุณธนพัตก็เป็นหนุ่มโสด ใครจะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่สปาร์กกัน” ชญาภาพูดอย่างไม่แยแส
“มันก็ใช่ แต่แกก็รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบ.ก.กับคุณธนพัต ที่คุณธนพัตยอมมาเที่ยวกับพวกเราในครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะตามง้อขอคืนดีกับบ.ก. เธอจะพูดอย่างนั้นให้เธอโกรธเพื่ออะไร ตอนนี้จะอย่างไรเธอก็เป็นหัวหน้าสำนักพิมพ์เรา เป็นศัตรูกับเธอ มีผลดีอะไรกับแก” เพื่อนร่วมงานชายที่มาด้วยกันก็เกลี้ยกล่อมต่อด้วยความหวังดี
“ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นสายตระกูลนิธิธราสกุล จะทำให้เธอได้กลับมาเป็นบ.ก.ของสำนักพิมพ์ทันทีที่กลับมาเหรอ ตำแหน่งนี้เดิมควรจะเป็นของฉันต่างหาก ”ได้ยินเพื่อนร่วมงานผู้ชายพูดแบบนี้ ชญาภาก็ยิ่งโกรธ
“จะพูดแบบก็ไม่ได้ บ.ก.เองเขาก็มีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ แกดูสิ ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทำงานที่สำนักพิมพ์ ในช่วงนี้ยอดขายของสำนักพิมพ์พวกเราก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งถึงสองฉบับเลยนะ” เพื่อนร่วมงานชายพูดโต้แย้งชญาภา
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะ และก็ไม่ใช่ว่าอาศัยเส้นสายของตระกูลนิธิธราสกุลแล้วจะทำได้ ครั้งนี้ที่พวกเราได้รับรางวัลจากสำนักงานใหญ่ ได้มาเที่ยวสถานที่ดีๆฟรีๆแบบนี้ ก็ต้องขอบคุณบ.ก.นะ”
เห็นเพื่อนร่วมงานชื่นชมสาริศาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ชญาภาก็ทนฟังต่อไม่ได้ “ฉันว่าเพราะแกเห็นว่าเขาสวยแกก็เลยออกตัวแทนเขาขนาดนี้สินะ แกอย่าลืมนะ ต่อให้เธอเป็นผู้หญิงที่เคยหย่าร้างมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็เป็นคุณหนูของตระกูลตระกูลนิธิธราสกุล ไม่มีทางที่เขาจะมามองพนักงานกระจอกๆอย่างแก!”
“แกพูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร!” เพื่อนผู้ชายก็โกรธขึ้นมาบ้างแล้ว “ฉันเตือนแกด้วยความหวังดีนะ ทำไมแกถึงได้พูดสบประมาทคนอื่นแบบนี้ แกไปเอาความคิดที่ว่าฉัน คิดอะไรกับบ.ก.”
“ฉันสบประมาทหรือไม่ในใจแกย่อมรู้ดี! ” ชญาภาที่กำลังโกรธจัด แค่ต้องการระบายความโกรธของตนเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่นเลย หลังจากตะคอกใส่เพื่อนร่วมงานชายด้วยประโยคนี้แล้วก็หมุนตัวเดินจากไปอีกทาง
เพื่อนร่วมงานสาวเห็นอย่างนั้นก็ดึงเธอเอาไว้ “ชญาภา บ.ก.บอกแล้วว่า กลุ่มหนึ่งอย่างน้อยต้องมีสามคน ตอนนี้แกตัวคนเดียวคิดจะไปที่ไหน ถ้าเกิดอะไรอันตรายขึ้นจะทำยังไง”
“บ.ก.ๆ พวกแกเป็นทาสของสาริศาเหรอ ถึงได้เชื่อฟังคำสั่งเธอแบบนี้!” ไฟโกรธในใจปะทุขึ้นมา ชญาภาสะบัดมือของเพื่อนร่วมงานสาวออก พูดด้วยน้ำเสียงคลุ้มคลั่งเล็กน้อย
มองเห็นชญาภาไม่เพียงไม่สนใจความหวังดีของตน แถมยังพูดดูถูกตนเองแบบนี้ เพื่อนร่วมงานสาวก็โกรธมากเช่นกัน ตัวสั่นไปทั้งตัว
ไม่อยากจะพูดอะไรกับเธออีก เพื่อนร่วมงานสาวไม่สนใจความปลอดภัยของชญาภาอีกแล้ว ลากเพื่อนผู้ชายที่อยู่ข้างๆเดินจากไป คนแบบนี้ก็คือไม่มีเหตุผลเลย! เมื่อกี้ตนเองจะลากเธอมาทำไมเนี่ย นี่ไม่ใช่ว่าตนเองหาเรื่องใส่ตัวหรอกเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...