“ชญาภาเธอไม่อยากจะทำงานที่สำนักพิมพ์แล้วใช่มั้ย!” พอได้ยินคำพูดชญาภา ในใจสาริศาก็เต็มไปด้วยความโกรธและเสียใจ
ชญาภาคนนี้ ปกติเวลาทำงานก็มักจะชอบขัดแย้งกับเธอ ถ้าไม่เห็นแก่ที่เธอทำงานมาที่สำนักพิมพ์มานานหลายปี จนถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่ที่มีประสบการณ์ เธอก็คงไล่เธอออกไปนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เธอไม่เพียงไม่รู้จักพอ ยังกล้าคิดวางแผนทำร้ายตนเองด้วย
“แหม ช่างปากคอเราะราย” ชญาภาไม่ได้สนใจคำพูดของสาริศาเลย “คิดจะเอาเรื่องงานมาขู่ฉันเหรอ รอเธอมีปัญญาออกมาให้ได้ก่อนเถอะ”
“ฉันจะบอกให้นะชญาภา ฉันกับเธอออกมาตามหาเมย์ด้วยกันทุกคนต่างก็เห็นกันหมด ถ้าอีกเดี๋ยวทุกคนหาฉันไม่เจอ เธอคิดว่าเธอจะหนีเอาตัวรอดได้เหรอ” เวลานี้สาริศายังถือว่าแสดงออกด้วยความใจเย็น
“คนแรกที่ทุกคนสงสัยก็คือเธอ ถ้าไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทางที่ดีที่สุดเธอควรจะดึงฉันขึ้นไปตอนนี้”
“เหรอ บ.ก.สาริศา คำพูดของคุณทำเอาฉันตกใจเลยนะคะ” ชญาภาพูดพลางทำหน้าตาตื่น “ฮาๆๆ สาริศา เธอคิดว่าเธอพูดแบบนี้แล้วฉันจะกลัวเหรอ ฉันก็จะบอกว่าแยกกับเธอไปตามหาเมย์ ไม่รู้ว่าเธอไปไหน”
“คนที่เกิดเรื่องตอนไปตั้งแคมป์มีตั้งมากมาย ไม่มีหลักฐาน ใครก็สาวมาถึงตัวฉันไม่ได้ เธอก็อยู่ที่นี่ไปตามมีตามเกิด เธอวางใจเถอะ ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ฉันจะนั่งตำแหน่งบรรณาธิการอย่างมั่นคง ช่วยเธอดูแลจัดการสำนักพิมพ์เป็นอย่างดี ฮาๆๆ……” พูดจบชญาภาก็หมุนตัวหัวเราะลั่นพลางเดินจากไป
“ชญาภาเธอกลับมาก่อน เธอกลับมาดึงฉันขึ้นไปก่อน!” สาริศาร้องตะโกนดังลั่นอยู่ในหลุม แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะของชญาภาที่ดังห่างออกไปขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ไม่ได้ยิน
ต่อไปจะทำอย่างไร หรือว่าตนเองต้องค่อยๆตายไปเองเหรอ สาริศาพยายามครุ่นคิดหาวิธีว่าจะออกไปอย่างไร
...
อีกด้าน หลังจากธนพัตกับน้ำหวานมาถึงที่ตักน้ำแล้ว น้ำหวานหาเรื่องพูดคุยกับธนพัตตลอดเวลา “คุณธนพัตคะ คุณคิดว่าทิวทัศน์บนเกาะนี้สวยมากมั้ยคะ”
ธนพัตไม่ได้ตอบคำถามของน้ำหวาน ได้แต่เริ่มตักน้ำด้วยสีหน้าเย็นชา ตลอดเวลาไม่ได้หันหน้าไปมองทางน้ำหวานเลย
หลังจากผ่านเหตุการณ์บนรถกระเช้ามาแล้วน้ำหวานก็ชินกับการที่เขาทำหน้าเย็นชาใส่เธอ เธอก็ยังคงถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “คุณธนพัต ฉันจำได้ว่าตอนคุณเพิ่งมาคุณไม่สบาย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเหรอคะ”
หลังจากตักน้ำเสร็จกระป๋องหนึ่งแล้ว ธนพัตก็เริ่มหยิบกระป๋องอีกใบไปตักน้ำ ทำราวกับว่าคนที่อยู่ข้างๆคนนี้ไม่มีตัวตนอยู่เลยอย่างนั้น
เห็นธนพัตเพิกเฉยตนเอง น้ำหวานก็กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ตั้งแต่เด็กจนโต เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอย่างมาก ยังไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้ตนเองรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อนเลย
ไม่ได้ ตนเองจะยอมแพ้เพราะอุปสรรคเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะได้พบกับผู้ชายที่ทั้งรวย ทั้งทำให้ตนเองชอบได้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องหาวิธีเอาชนะใจธนพัตให้ได้!
ตักน้ำสองถังเสร็จแล้ว ธนพัตก็จะหิ้วถังน้ำข้างละถังเตรียมจะกลับไป น้ำหวานเห็นอย่างนั้นก็รีบพุ่งมาข้างหน้าทำท่าจะรับถังน้ำในมือของเขา“คุณธนพัตจะถือไปเองสองถังได้ยังไงคะ มันหนักเกินไป พวกเราหิ้วกลับไปคนละถังเถอะค่ะ”
เห็นว่ามือของน้ำหวานกำลังจะมาแตะตัวเอง ธนพัตก็ขมวดคิ้วพลางเอาถังน้ำที่หิ้วอยู่ในมือซ้ายวางลงที่พื้น จากนั้นก็เดินอ้อมน้ำหวานเดินไปข้างหน้าต่อไป
เห็นการกระทำของธนพัต น้ำหวานก็อึ้งไปเล็กน้อย เธอคิดว่าเขาจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ธนพัตคงไม่ให้ตนเองต้องมาเหน็ดเหนื่อย คิดไม่ถึงว่าเขากลับให้เธอหิ้วถังน้ำไปจริงๆ
เห็นธนพัตเดินไปไกลขึ้นเรื่อยๆ น้ำหวานก็กัดฟัน ออกแรงยกถังน้ำ เดินตามหลังเขาไปอย่างโซซัดโซเซ
“คุณธนพัตคะ คุณ…คุณอย่าเดินเร็วนักสิคะ ฉัน เฮ้อ~ฉัน……ตามคุณไม่ทัน” ไม่นาน น้ำหวานก็เหนื่อยจนหอบหายใจแฮ่กๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...