หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 436

นอกจากความดีใจแล้วธนพัตก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ทำไมมีเธอแค่คนเดียว สาริศาล่ะ

“ชญาภา!” ธนพัตเดินไปข้างหน้าเรียกชื่อเธอ “ทำไมคุณมาอยู่ตรงนี้คนเดียว สาริศาไม่ได้ออกมากับคุณเหรอ เธอล่ะ”

จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเรียกดังมา ชญาภารีบหันมามอง ตอนที่เห็นธนพัตเดินมา เธอตกใจมาก ทำไมเขามาที่นี่ได้

รีบลุกขึ้นมานั่งบนก้อนหิน ชญาภากลบเกลื่อนความตื่นตระหนกบนใบหน้าไม่ทัน “คุณ คุณธนพัต ทำไมคุณมาที่นี่ได้คะ”

เห็นท่าทางชญาภา ธนพัตก็แปลกใจเล็กน้อย น้ำเสียงที่พูดก็แฝงด้วยความดุดัน “คุณไม่ได้ออกมาพร้อมกับริศาเหรอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

“ฉัน ฉันไม่รู้ค่ะ” ชญาภารีบคิดหาข้ออ้างที่ใช้ได้ในหัว “ฉันกับเธอ เดินพลัดหลงกัน ดังนั้นก็เลยมานั่งรอเธอที่นี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหน”

เธอกลัวว่าหลังจากกลับไปแล้วจะถูกซักถามว่าสาริศาไปไหน ชญาภาจงใจหลบอยู่ที่นี่ รอให้ดึกกว่านี้อีกหน่อย ถึงตอนนั้นเมื่อทุกคนถาม เธอก็จะบอกว่าตนกับสาริศาแยกกันไปตามหาเมย์ ก็เลยพลัดหลงกัน เธอหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอสาริศา ได้แต่กลับมาก่อน

แต่เธอคิดไม่ถึงว่าธนพัตจะตามหาเธอเจอเร็วขนาดนี้ จึงไม่ทันได้ตั้งตัว รับมืออย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย

ได้ยินชญาภาพูดตะกุกตะกักไม่ต่อเนื่อง ธนพัตก็ยิ่งสงสัย ถ้าพลัดหลงกับสาริศาจริง ตอนนี้เธอเห็นตนเองก็น่าจะดีใจถึงจะถูก จะตื่นตระหนกและหวาดกลัวขนาดนี้ทำไม!

ห้าปีก่อนตอนที่เขายังไม่ได้หย่ากับเธอ ก็เคยได้ยินสาริศาพูดว่า ที่สำนักพิมพ์ชญาภากับเธอไม่ค่อยลงรอยกันนัก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนสามารถใช้คำว่าเลวร้ายมาบรรยายก็ได้ ตอนนี้ท่าทีของชญาภาตอนมองเห็นตนเองก็เป็นแบบนี้อีก หรือว่าเธอทำอะไรกับสาริศา

คิดมาถึงตรงนี้ ธนพัตก้าวมาข้างหน้าทีละก้าวบีบเข้าใกล้ชญาภา ถามเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “คุณไม่รู้จริงเหรอว่าสาริศาไปไหน พวกคุณสองคนพลัดหลงกันยังไง!”

“พวกเรา พวกเราหาเมย์ไม่เจอ สาริศาเป็นห่วงมาก บอกว่าสองคนอยู่ด้วยกันช้าเกินไป ดังนั้น พวกเราสองคนก็เลยแยกกันไปตามหา ผลปรากฏว่า ต่อมาฉันก็หาเธอไม่เจอแล้ว ได้ ได้แต่มารออยู่ที่นี่”

เธอตกใจน้ำเสียงของธนพัต ชญาภาที่เดิมก็ประหม่าอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งตื่นตระหนก พูดจาตะกุกตะกักเล็กน้อย ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะโกหกธนพัต

“พูดมา ตกลงว่าสาริศาอยู่ที่ไหน คุณไม่รู้จริงเหรอ” น้ำเสียงสูงขึ้น ธนพัตถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้าย “ผมขอเตือนคุณทางที่ดีที่สุดอย่าโกหกผม มิฉะนั้น ผมไม่ปล่อยคุณเด็ดขาด!”

ธนพัตเป็นคนที่มีอำนาจเหนือใครมานานหลายปี ตอนนี้รังสีอำมหิตแผ่ออกมาทั่วทั้งร่าง คนตัวเล็กๆอย่างชญาภาจะทนรับไหวได้อย่างไร

ถูกทำให้ตกใจจนไร้สติไปชั่วขณะ ชญาภาร้องออกมาอย่างเสียสติเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เธอเย็นชากับคุณขนาดนั้น ทำไมคุณถึงยังให้ความสนใจเธอขนาดนั้น!”

ได้ยินชญาภาพูดแบบนี้ ธนพัตแทบจะมั่นใจเลยว่า เธอต้องรู้ว่าสาริศาอยู่ที่ไหนแน่

ตอนที่มาเมย์บอกว่าตนเองไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลืออะไรเลย แล้วทำไมชญาภาถึงได้ยินเสียงร้อง ไม่แน่ว่าเธอจงใจหลอกสาริศาออกมา

ก้าวมาข้างหน้าคว้าคอเสื้อชญาภาเอาไว้ สายตาธนพัตเต็มไปด้วยความดุร้าย “ตกลงคุณพาสาริศาไปที่ไหนกันแน่ บอกความจริงผมมา! ผมจะบอกคุณให้ ถ้าสาริศาเป็นอะไรไป ผมจะไม่มีทางให้คุณอยู่อย่างมีความสุขเด็ดขาด ผมทำได้อย่างที่พูดแน่!”

ระยะที่ใกล้ชิดขนาดนี้ชญาภาสัมผัสได้ถึงความโกรธของธนพัต เธอสั่นทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ในใจก็ทนรับแรงกดดันแบบนี้ไม่ไหวแล้ว

“ฉันบอก บอกแล้ว” ชญาภาพูดด้วยเสียงสะอื้น ชี้ไปทิศทางหนึ่งพลางพูดด้วยเสียงสั่นว่า “สาริศาเธอ เธออยู่ที่ในหลุมนั้น ตรงไปเรื่อยๆก็จะเห็น”

“คุณเป็นคนผลักเธอลงไปเหรอ!” ความโกรธของธนพัตก็ระเบิดออกมาทั่วร่าง

“ฉัน……” ชญาภาอยากจะบอกว่าไม่ใช่ แต่พอมองเห็นสีหน้าดุร้ายโหดเหี้ยมของธนพัต เธอก็ปากสั่น ปฏิเสธออกมาไม่ได้

โยนชญาภาไปด้านข้าง ธนพัตชี้ไปที่เธอแล้วพูดว่า “กลับไปค่อยคิดบัญชีกับคุณ!”

ธนพัตวิ่งไปข้างหน้า ตามเส้นทางที่ชญาภาชี้เมื่อครู่ กลัวว่าถ้าตนเองไปถึงช้าไป สาริศาจะได้รับอันตรายอะไรที่คาดไม่ถึง

นึกถึงคำพูดสุดท้ายที่ธนพัตพูดทิ้งท้ายไว้ ชญาภาก็หวาดกลัวอย่างควบคุมไม่ได้ ด้วยสถานะของธนพัตอย่างนั้น บอกว่าจะไม่ปล่อยเธอ เช่นนั้นเธอก็ยังไม่สามารถอยู่ที่สำนักพิมพ์ต่อไปได้แล้วเหรอ

ไม่ ไม่ต้องพูดถึงธนพัต ถ้าสาริศาถูกช่วยออกมาได้ เธอต้องไล่ตนเองออกแน่ ไม่แน่ว่าอาจฟ้องร้องตนเองต่อศาล ว่าจงใจทำร้ายร่างกายต้องติดคุกก็ได้

คิดมาถึงตรงนี้ ชญาภารีบลุกขึ้นมา วิ่งโซซัดโซเซไปทางที่ตั้งแคมป์ ตนเองไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้แล้ว เธอต้องรีบไปก่อนที่พวกเขาสองคนจะกลับมา

...

สาริศาในเวลานี้กำลังคิดหาวิธีออกจากหลุมนี้ แต่หลุมนี้ลึกมากเกินไปจริงๆ เธอยืนอยู่ด้านข้างคิดจะปีนขึ้นไป แต่กลับพบว่าไม่ว่าอย่างไรก็ทำไม่ได้

ความเจ็บปวดที่มาจากเท้าทำให้เธอต้องนั่งลง ถอดรองเท้าออก เธอพบว่าเท้าตนเองบวมขึ้นมาแล้ว และ เมื่อครู่ตอนที่ตกลงมาเท้าเธอก็แพลงตนเองก็พยายามปีนอยู่พักหนึ่งแบบนี้ ถ้าไม่บวมก็แปลกแล้ว

ตอนนี้ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว อุณหภูมิในป่าก็ลดลงอย่างรวดเร็วมาก ไม่นาน สาริศาก็หนาวจนตัวสั่น

ไม่รู้ว่าชญาภากลับไปแล้วจะอธิบายกับทุกคนอย่างไรว่าเธอไปไหน ทุกคนจะออกมาตามหาเธอมั้ย หรือว่าจะต้องอยู่ในหลุมนี้ไปตลอดทั้งคืนถ้าเกิดกลางดึกมีสัตว์ป่าออกมาจะทำอย่างไร

ในหัวสมองคิดแต่คำถามมากมายพวกนี้ สาริศาก็ยิ่งหวาดกลัว ถ้าทุกคนหาเธอไม่เจอ เธอจะต้องตายอยู่ที่นี่มั้ย

ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! เธอยังต้องดูแลธีร์เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

รีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา สาริศาพบว่ายังไม่มีสัญญาณ โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งไปข้างๆด้วยความโมโห หวังว่าจะมีใครสักคนเดินผ่านมา เธอส่งเสียงตะโกนไปที่ปากหลุม “มีใครอยู่มั้ย ที่นี่มีคนตกลงมา ช่วยด้วยค่ะ! มีใครอยู่มั้ย……”

ตะโกนไปเรื่อยๆ จนเสียงแหบเล็กน้อยแล้ว เธอกลับไม่ได้ยินเสียงโต้ตอบเลย

ที่นี่ไม่มีอุกรณ์อะไรช่วยคลายหนาวเพื่อให้ผ่านค่ำคืนนี้ไปได้ เธอคงต้องหนาวตายจริงๆ อีกอย่างอาการบาดเจ็บที่เท้าก็ยิ่งเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ สาริศาถูกบรรยากาศความสิ้นหวังบางอย่างเข้าปกคลุมไปทั้งตัวแล้ว

ขณะที่สาริศาหมดความหวังอยู่นั้น จู่ก็ได้ยินเสียงร้อนใจที่คุ้นหูมากเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ริศา คุณเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรนะ”

ในที่สุดก็มีคนมาหาเธอแล้ว ในใจสาริศาเกิดความหวังขึ้นมาทันที เงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความดีใจ เธอเห็นว่าธนพัตกำลังนั่งอยู่บนปากหลุมมองตนเองด้วยความเป็นห่วง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ