สาริศายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาที่หางตา ก่อนจะมองไปที่กันยาซึ่งยังคงนอนหลับไม่ได้สติ
คนตรงหน้านี้เป็นคนที่เธอเคยใกล้ชิด และไว้ใจมาก แต่นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เรียกอีกฝ่ายว่าแม่? คนที่เคยอ่อนโยน และคอยให้กำลังใจตัวเองจนผ่านทุกความยากลำบาก เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เธอไม่เคยเรียกออกมาแล้ว?
พอคิดถึงตรงนี้ สาริศาก็น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ความรักระหว่างแม่ลูก เริ่มห่างเหินจนถึงขั้นนี้?
“ริศา” เสียงของธนพัตเรียกเธอดังมาจากด้านหลัง ตนเองจึงรีบแอบยกมือเช็ดน้ำตาทิ้ง สาริศาฝืนยิ้มแล้วหันไปมองธนพัต
แต่ดวงตาที่แดงก่ำนั้นมีเหรอจะหลอกธนพัตได้ เขาเดินไปที่ด้านข้างเธอ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มของเธอ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความปวดใจ “ร้องไห้ทำไม ไม่ต้องกังวล ผมถามแล้ว คุณหมอบอกว่าการผ่าตัดของคุณแม่ประสบความสำเร็จดี ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว วางใจได้”
“อืม” สาริศาพยักหน้า แล้วไม่พูดอะไรอีก
พอเห็นว่าอารมณ์ของสาริศาไม่ได้ดีขึ้นเพราะได้ยินคำพูดเหล่านี้ แต่ยังโศกเศร้าเหมือนเดิม ธนพัตจึงอดที่จะสงสัยไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะอาการป่วยของกันยา แล้วทำไมเธอถึงซึมเศร้าแบบนี้?
ธนพัตนั่งลงตรงหน้าสาริศา แล้วมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ก่อนจะถามอย่างอ่อนโยนว่า “ริศา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ สีหน้าของคุณดูไม่ค่อยดีใจเลย”
พอได้ยินคำถามของธนพัต ในใจของสาริศารู้สึกขมขื่น เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วมองไปทางอื่น แสร้งทำเป็นยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรค่ะ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี ฉันจะไม่ดีใจได้ยังไง ฉันดีใจมากค่ะ”
แน่นอนว่าธนพัตไม่ถูกหลอกง่ายๆ แบบนี้ สายตาที่สาริศามองมาทางเขาเห็นชัดเจนว่ามีความน้อยใจและเสียใจมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ธนพัตจับสาริศาให้เผชิญหน้ากับเขา ให้เธอมองสบตากับเขา “ริศา ถ้ามีอะไร คุณต้องบอกผม เชื่อใจผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากแค่ไหน ผมก็จะช่วยคุณแก้ปัญหาด้วยกำลังทั้งหมดของผม”
พอเห็นแววตาที่จริงจังของธนพัต สาริศาทั้งรู้สึกซาบซึ้งใจและจนปัญญา ในใจของกันยามีลูกสาวคนเดียวคือพชิรา ส่วนลูกสาวบุญธรรมอย่างเธอไม่มีความสำคัญอะไรสำหรับเธอเลย เธอจะบอกเขาเรื่องนี้ยังไง? แล้วเขาจะช่วยเธอได้ยังไง?
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” สาริศามองไปที่ธนพัตแล้วพูดว่า “ขอบคุณสำหรับเรื่องในวันนี้นะคะ ถ้าไม่มีคุณ การผ่าตัดคงไม่ราบรื่นแบบนี้”
พอเห็นว่าสาริศายังคงไม่ยอมที่จะเล่าให้ตนเองฟัง ในใจธนพัตร้อนใจมาก เขานึกว่าหลังจากเรื่องในวันนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะพัฒนาเพิ่มมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าในสายตาของสาริศา เขากลับไม่ใช่คนที่สามารถทำให้เธอไว้วางใจได้อย่างสมบูรณ์
“ริศา พวกเรา…” ธนพัตอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เสียงพูดของกันยากลับดังขึ้นอีกครั้ง
“เพชร เพชรลูก… เพชร มา… มาหาแม่บ้าง… เพชร…”
พอหันไปมองกันยาที่อยู่บนเตียงคนไข้ สีหน้าของสาริศาก็โศกเศร้าขึ้นมากะทันหัน ธนพัตก็เข้าใจทันทีว่าความเศร้าใจของเธอมาจากไหน
ธนพัตเอื้อมมือออกไปกุมมือของสาริศาไว้อย่างเห็นอกเห็นใจ “ริศา ไม่ต้องคิดมาก พชิรา เป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่าน ดังนั้นท่านถึงคิดถึงเธอมากกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณอย่าคิดมาก”
พอได้ยินคำพูดของธนพัต ดวงตาของสาริศาก็เปียกชื้นขึ้นมาอีกครั้ง ใช่สิ พชิราเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอ เป็นธรรมดาที่แม่จะคิดถึงลูกสาวแท้ๆ ของเธอมากกว่า เธอเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมของกันยา เป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่สำคัญเท่ากับพชิรา มีอะไรต้องเศร้าเสียใจกัน?
พอเห็นท่าทางของสาริศา ธนพัตก็ตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไป จึงแทบอยากจะชกหน้าตัวเอง ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ออกมา แบบนี้ยิ่งทำให้สาริศาเศร้าใจไม่ใช่หรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...