หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 466

สรุปบท บทที่ 466 ลำเอียง: หวานเย็น กรุ่นใจ

สรุปเนื้อหา บทที่ 466 ลำเอียง – หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต

บท บทที่ 466 ลำเอียง ของ หวานเย็น กรุ่นใจ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ช็อคโกแลต อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ยิ่งฟังคำพูดของกันยา สาริศายิ่งรู้สึกปวดใจ

พชิราวางแผนทำร้ายเธอแบบนี้ เธอก็แค่อยากจะปกป้องตัวเอง อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองก็เท่านั้น กันยากลับปวดอกปวดใจ ราวกับเธอทำเรื่องเลวร้ายกับพชิรายังไงอย่างนั้น

มันไม่ใช่ความผิดของเธอแท้ ๆ เธอไม่ได้อยากจะร้องขอให้กันยาเข้าข้างเธอ หรือสงสารเธอสักน้อย เธอแค่หวังว่ากันยาจะมองเรื่องราวระหว่างพวกเธอทั้งสองคนอย่างเป็นกลาง แต่ไม่ใช่เอาแต่โทษเธอสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วเข้าข้างพชิราแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ แม้แต่ความหวังเล็ก ๆ พวกนี้มันก็เกินกว่าจะคาดหวังแล้ว

ในใจของกันยา ไม่ว่าพชิราจะทำอะไรต่างก็มีเหตุมีผล และควรจะได้รับการอภัย เธอถึงขนาดไม่สงสัยเลยว่า ถ้าครั้งนี้พชิราลงมือฆ่าเธอจริง ๆ กันยาก็คงเลือกที่จะปิดบังเรื่องนี้แทนพชิราอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับลูกสาวแท้ ๆ แล้วลูกเลี้ยงอย่างเธอไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ

ทางด้านกันยายังคงพยายามพูดคัดค้านคำพูดของออสตินต่อไปอย่างกระตือรือร้น “ฉันรู้ว่าพวกเธอไม่ชอบเพชร แต่พวกนี้จะพูดจาใส่ร้ายเพชรแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเธอมีความคิดชั่วร้ายขนาดนั้นจริง ตอนนั้นเอก็คงไม่มีทางบริจาคไขกระดูกให้กับฉันหรอก! เธอเอาแต่พูดว่าเพชรทำร้ายริศา แต่ริศาไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยสักนิด แต่กลับเป็นเพชร...”

กันยาพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “แต่กลับเป็นเพชรที่ตอนนี้ต้องเข้ารักษาฉุกเฉินอยู่ในห้องผ่าตัด ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะไม่ปล่อยพวกเธอไปแน่!”

ได้ยินดังนั้น สาริศารู้สึกขมขื่นขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้ ไม่มีทางปล่อยเธอไปหมายความว่ายังไง? ถ้าพชิรามีอันตรายอะไรขึ้นมาจริง ๆ กันยาจะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิตหรือยังไง?

ในฐานะทนายที่มีชื่อเสียง เมื่อออสตินได้ยินคำพูดพวกนั้นก็ถึงกับไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี ตอนนี้กันยาเอาแต่จมอยู่ในสมมติฐานที่ตัวเองคิดเอาไว้ ไม่ยอมฟังคำพูดของคนอื่นเลย ถึงแม้ว่าหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ควรได้รับความเห็นใจ แต่ทำแบบนี้มันก็มากเกินไป

สาริศาฟังเสียงกันยาร้องไห้ พลางพนมมือพร่ำวิงวอนขอพระโพธิสัตว์อวยพรให้พชิราปลอดภัยอยู่ข้าง ๆ เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง

ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านฝ่ามือของเธอ เธอเอียงศีรษะหันมองก็เห็นว่าธนพัตกำลังกุมมือของเธออยู่

เขาออกแรงที่มือเล็กน้อย ธนพัตมองสาริศาด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรนะ เธอยังมีฉัน”

เมื่อสบตากับแววตาจริงจังของธนพัต สาริศารู้สึกว่าหัวใจที่เยือกเย็นของตัวเองอบอุ่นขึ้นมาบ้างเล็กน้อย มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย เธอส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร ตอนนี้เธอไม่เสียใจแล้ว เธอแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างในใจที่พูดไม่ออกก็เท่านั้น

หลังจากผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดไฟห้องผ่าตัดก็ดับลง ทันทีที่หมดเดินออกมา กันยารีบพุ่งตัวเข้าไปหาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว “คุณหมอ เป็นยังไงบ้างคะ ลูกสาวของฉันไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี พักผ่อนสักสองสามวันก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นอีกเดี๋ยวจะมีพยาบาลมาอธิบายให้พวกคุณฟัง” เพิ่งจะทำการผ่าตัดเสร็จ คุณหมอก็เหนื่อยมาก หลังจากพูดจบเขาก็หันตัวเดินจากไปทันที

เมื่อได้ยินว่าพชิราไม่เป็นไร ความตึงเครียดของกันยาผ่อนคลายลงไปเล็กน้อยและโล่งใจขึ้นมาก

อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ตึงเครียดมากเกินไป พอร่างกายผ่อนคลายลงอย่างกะทันหันแบบนี้จึงทำให้รับไม่ไหว ทำเอากันยาเวียนหัวเป็นลมไป

สาริศารีบร้องเรียกพยาบาล รีบส่งตัวกันยาไปพักผ่อนที่ห้องผู้ป่วยด้านข้าง แล้วให้ธนพัตไปช่วยจัดการเรื่องพชิรา

เมื่อเห็นพยาบาลเข้าน้ำเกลือให้กันยาแล้ว สาริศาก็ถอนหายใจแล้วเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะนั่งเฝ้าอยู่ด้านในจนกว่ากันยาจะฟื้นขึ้นมาแน่นอน แต่ตอนนี้...

มุมปากกระตุกยิ้มอย่างขมขื่น สาริศาอดหัวเราะเยาะตัวเองออกมาไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเผชิญหน้ากับกันยายังไง อีกอย่าง เธอกลัวว่าหลังจากกันยาฟื้นขึ้นมาคงจะไม่อยากเห็นหน้าเธอ

เขามองสาริศาด้วยความรู้สึกผิด ชรัณกล่าวขอโทษออกมาอย่างไม่ได้ “คุณนายน้อย ขอโทษนะครับ เมื่อห้าปีก่อนผมไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ ผม...ผม...”

คำพูดติดอยู่ที่มุมปาก แต่ชรัณก็ยังกล้าไม่พอที่จะสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น และหลังจากที่สาริศาได้ยินคำพูดของเขา เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

เมื่อห้าปีก่อน ภาพเหตุการณ์ที่ชรัณพาคนมาบังคับเธอให้ไปทำแท้งในวันนั้น เธอไม่เคยลืมมันลงเลย ทุกครั้งที่นึกถึงความรู้สึกสิ้นหวังแบบนั้น เธอก็ไม่สามารถพูดโน้มน้าวใจตัวเองให้ยกโทษให้ธนพัตได้เลย เขาเคยโหดร้ายกับเธอมาก เธอต้องทำยังไงถึงจะสามารถให้อภัยเขาได้?

เรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่วางขวางอยู่ตรงหน้าของพวกเขา แม้ว่าตอนนี้ธนพัตจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนเมื่อก่อน คอยดูแลเอาใจใส่เธออย่างเต็มที่ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องพวกนี้ผ่านไปโดยปราศจากความขุ่นเคืองใจได้เลย

สาริศาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจ “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนาย ตอนนั้นนายก็แค่ทำตามคำสั่ง ถ้าจะโทษ ก็คงต้องโทษแค่ธนพัต กล่าวโทษนายไม่ได้หรอก ต่อไปคำขอโทษพวกนี้นายไม่ต้องพูดแล้วนะ”

หลังจากพูดจบ สาริศาก็หันหลังเดินจากไป ดวงตาของเธอเปียกชื้นเล็กน้อย เธออยากจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้ธีร์ แต่ว่าเธอไม่รู้จะปล่อยวางอดีตพวกนี้ไปได้ยังไง

ชรัณมองตามแผ่นหลังของสาริศา เขาสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเธอ แล้วเขาก็ได้แต่สาปแช่งตัวเองในใจ

คุณนายน้อยใจกว้างขนาดนี้ เธอไม่เคยกล่าวโทษในสิ่งที่เขาทำลงไปในตอนนั้นเลย แต่ว่าเขากลับเอาแต่อ้ำอึ้งไม่กล้าพอที่จะบอกความจริง ทำให้คุณพัทกับคุณนายน้อยไม่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทั้งที่ทั้งสองคนรักกัน เขายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า?

เขาได้แต่มองสาริศาเดินจากไปด้วยความละอายใจ ชรัณกำหมัดแน่น เขาตัดสินใจเด็ดขาดว่าครั้งนี้ เขาจะต้องบอกความจริงเรื่องนี้ให้ได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ