“ตอนนี้คุณยังลงจากเตียงไม่ได้นะคะ สภาพร่างกายของคุณตอนนี้ไม่ดีเอามาก ๆ ตอนนี้ทางที่ดีนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงเถอะค่ะ”
“คุณพยาบาล ฉันไม่เป็นอะไร ฉันอยากไปหาลูกสาวของฉัน ฉะนั้น ปล่อยฉันไปเถอะ ไม่อย่างนั้นฉันจะกังวลมาก”
ทันทีที่สาริศาเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เธอเห็นกันยากำลังเถียงอะไรบางอย่างกับพยาบาลที่ดูแลเธออย่างกระวนกระวายใจ แน่นอนว่าในใจของเธอรู้ดีว่าลูกสาวที่หล่อนพูดถึงไม่ใช่เธอ เดาว่าหล่อนคงอยากจะไปพบพชิราสินะ
เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา คุณพยาบาลก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ญาติใช่ไหมคะ? รีบมาช่วยเกลี้ยกล่อมหน่อยเถอะค่ะ ยังเข้ายาไม่เสร็จเลย คนไข้ก็จะดึงเข็มออกจะลงจากเตียงให้ได้ ห้ามยังไงก็ไม่ยอมฟังเลย”
ส่วนกันยาที่ยังคงโกรธสาริศาอยู่ พอเห็นหน้าเธอก็รีบเบือนหน้าหนีทันที โดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด เมื่อเห็นแบบนั้น สาริศารู้สึกเจ็บแปลบในใจ แต่เพียงไม่นานเธอก็สามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้
“ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล ขอโทษด้วยนะคะ คุณวางใจได้ ฉันจะดูจนกว่าน้ำเกลือขวดนี้จะหมดค่ะ” สาริศาเดินไปที่เตียงคนไข้ พลางกล่าวขอโทษพยาบาล
“อืม โอเคค่ะ อีกเดี๋ยวพอใกล้ต้องถอดเข็มแล้ว กดกริ่งเรียกได้เลย พอได้ยินแล้วฉันจะเข้ามา” หลังจากพูดจบ พยาบาลก็เดินออกไป
สาริศานั่งลงข้างเตียงพลางถอนหายใจ “คุณวางใจเถอะค่ะ พชิราไม่เป็นอะไร ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ ไว้คุณเข้ายาเสร็จ ฉันจะพาคุณไปดูเธอ”
“เพชรไม่เป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหม? ตอนนี้เธอฟื้นหรือยัง? อาการบาดเจ็บที่ศีรษะรุนแรงไหม?” หลังทราบข่าวเรื่องพชิรา กันยาก็ลืมที่จะสนใจโกรธสาริศาต่อ หล่อนรีบหันมายิงคำถามเป็นชุดด้วยความกังวล เกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพชิราจริง ๆ
“ไม่เป็นอะไร ตอนนี้ฟื้นแล้ว ไม่มีอาการข้างเคียงอะไรทันนั้น คุณไม่ต้องกังวลหรอก” สาริศาพยายามตอบกลับหล่อนอย่างใจเย็น ในขณะเดียวกันก็แอบคิดในใจว่าคนที่เพิ่งจะทะเลาะกับเธอไปเมื่อครู่นี้ ไม่เหมือนคนที่สุขภาพไม่แข็งแรงเลย
เมื่อได้ยินดังนั้น กันยาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สองมือประสานกับไว้ตรงหน้าอก หลับตา พลางพูดพึมพำด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพศรัทธา “พระเจ้าอวยพร พระเจ้าอวยพร...”
เมื่อลืมตาขึ้นเห็นสาริศา และนึกถึงท่าทีของตัวเองที่ปฏิบัติกับเธอไปก่อนหน้านี้ กันยารู้สึกผิดเล็กน้อย เธอเข้าใจดีว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้เพชรก็เป็นคนผิด เพียงแต่พอเห็นเพชรบาดเจ็บ เธอก็ร้อนใจ เพราะแบบนั้นถึงได้พูดอะไรออกไปไม่ทันคิด
กันยาจับมือของสาริศาไว้ พลางลูบอย่างเบามือ “ริศา สิ่งที่แม่พูดไปก่อนหน้านี้แม่ผิดเอง แกอย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลนนะ แม่แค่เป็นกังวลมากเกินไป”
สาริศาก้มหน้าหลบสายตากันยา พลางกระซิบพูดเบา ๆ ว่า “ไม่เป็นไร” ในเมื่อหล่อนเป็นคนที่เลี้ยงดูเธอมาตลอดหลายปี เธอจะยังพูดอะไรได้อีก?
“ริศา แม่เชื่อว่าที่เพชรทำเรื่องพวกนั้นลงไปเธอไม่ได้ตั้งใจ เธอเป็นเด็กนิสัยดีมากมาตลอด ต่อไปแม่จะค่อย ๆ เกลี้ยกล่อมเธอ แกก็ให้อภัย และไม่เอาผิดอะไรเธอแล้วจะได้ไหม?” กันยากำมือของสาริศาไว้แน่น พลางมองเธอด้วยแววตาจริงจัง
เมื่อได้ยินกันยายังคงอ้อนวอนเพื่อพชิราอยู่เหมือนเดิม สาริศาจึงดึงมือของตัวเองออก บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว พชิราไม่เคยสำนึกผิดเลยด้วยซ้ำ ถ้าครั้งนี้หนูปล่อยเธอไปอีก ไม่รู้ว่าต่อไปเธอจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก”
“ไม่มีแล้ว!” กันยาสวนกลับอย่างเร่งรีบ “ต่อไปแม่จะดูแลเธอให้ดี แม่รับปากว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ริศาปล่อยเพชรไปสักครั้งเถอะนะ ถือว่าแม่ขอเถอะนะ”
เมื่อมองสีหน้าอ้อนวอนบนหน้าของกันยา สาริศาลำบากใจมาก เธอไม่สามารถยกโทษให้พชิราได้จริง ๆ จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อเรื่องใหม่ “ตอนนี้คุณพักผ่อนให้ดีก่อนเถอะ เรื่องนี้พวกเราค่อยคุยกัน หนูจะออกไปเอาน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าให้”
หลังจากพูดสาริศาก็ลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกจากประตูไป แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเดินออกมาได้แค่สองก้าวก็ถูกกันยาดึงตัวเอาไว้ก่อนแล้ว เมื่อหันไปมอง เธอก็พบว่ากันยาดึงเข็มออก ลุกลงจากเตียงแล้วมานั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอ
“ริศา แม่ขอร้อง แกปล่อยเพชรไปเถอะนะ แม่ขอโทษแทนเธอจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...