หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 472

อีกด้านหนึ่ง เนื่องจากชัชวาลกับสาริศาไม่อยู่บ้าน ฉะนั้นธีร์จึงได้แต่นั่งวาดรูปอยู่ในห้องของเล่นคนเดียว

พี่เลี้ยงที่ดูแลเขาคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นเขาสามารถวาดภาพทิวทัศน์ออกมาได้เป็นรูปเป็นร่างตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้ ก็อดเอ่ยปากชมเขาไม่ได้ “คุณหนูเก่งจังเลยค่ะ ภาพนี้วาดได้สวยมากเลย”

สิ่งที่พี่เลี้ยงพูดไม่ได้จะประจบประแจงหรืออยากจะปลอบใจเด็กน้อยแต่อย่างใด สาริศาเพิ่งจะสมัครคลาสเรียนวาดภาพให้ธีร์เมื่อสามเดือนที่แล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อจะละลายพฤติกรรมแก้นิสัยซุกซนของเขาลงไปบ้าง

ธีร์เป็นนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดในชั้นเรียน แต่ตอนนี้คะแนนของเขากลับจัดอยู่อันดับต้น ๆ ตอนสาริศาไปรับธีร์ อาจารย์ประจำชั้นบอกกับเธอหลายต่อหลายครั้งว่าในอนาคตสามารถฝึกฝนทักษะทางด้านนี้ของธีร์ต่อไปได้ เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพมากจริง ๆ

แต่สาริศาก็ไม่ได้เก็บคำพูดพวกนี้มาใส่ใจมากนัก เธอรู้ว่าธีร์เป็นเด็กฉลาด เรียนอะไรก็สามารถเรียนรู้ได้เร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดมาจากธนพัตล้วน ๆ แต่ส่วนเรื่องที่ว่าอนาคตจะทำงานอะไร ไว้รอให้ธีร์โตขึ้นอีกสักนิดค่อยให้เขาตัดสินใจเองดีกว่า นี่เป็นเส้นทางชีวิตของเขาเอง เธอไม่สามารถเข้าไปยุ่งวุ่นวายให้มาก แต่ในตอนที่เขายังไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอย่างตอนนี้เธอก็แค่ช่วยวางแผนทุกอย่างไว้ให้เขาก่อน

เมื่อได้ยินคำชมจากพี่เลี้ยง ธีร์กลับดูไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้จิตใจของเขาไม่ได้อยู่กับการวาดภาพเลย ในหัวของเขาเอาแต่คิดถึงแด๊ดดี้กับหม่ามี๊เท่านั้น

บางครั้งเวลาสาริศาไม่อยู่บ้าน เขาก็จะไปแอบถามเรื่องเกี่ยวกับแด๊ดดี้จากชัชวาล แต่ชัชวาลไม่ได้บอกอะไรเขามากนัก บางครั้งพอถูกเขาตื้อตามติดจนทนไม่ไหว ชัชวาลก็ถึงกับทำหน้าเคร่งขรึมพลางพูดสั่งสอนเขา ว่าเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรถามอะไรให้มากจนเกินไป

พอเห็นคุณลุงผู้ที่รักและเอ็นดูเขามากมาตลอดทำหน้าเคร่งขรึมใส่แบบนั้น ธีร์ก็ไม่กล้าถามอะไรมากอีก แต่ดูจากปฏิกิริยาของหม่ามี๊กับคุณลุงแล้ว เขาสามารถเดาได้ว่าพวกเขาไม่ค่อยชอบแด๊ดดี้สักเท่าไหร่

มีครั้งหนึ่งเขาเคยแอบฟังหม่ามี๊กับคุณลุงคุยกัน และเหมือนจะได้ยินคุณลุงพูดแว่ว ๆ ว่า ตอนนั้นแด๊ดดี้ไม่ต้องการเขากับหม่ามี๊แล้ว เพราะแบบนั้นเขากับหม่ามี๊ถึงต้องไปใช้ชีวิตที่อเมริกา

ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเจอธนพัตแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ในหัวใจของธีร์กลับเชื่อมั่นเสมอว่าแด๊ดดี้ไม่ใช่คนประเภทอย่างที่คุณลุงบอกอย่างแน่นอน

เขาไม่ได้คิดแบบนี้เอาเองสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ คราวที่แล้วตอนที่เขาได้เจอกับแด๊ดดี๊ ตอนนั้นแด๊ดดี๊ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกชายของเขา แต่เห็นเป็นแค่เด็กหลงทางคนหนึ่งเท่านั้น แต่เขาก็ยังใจดีกับเขามาก ไม่เพียงแต่ช่วยส่งคนไปตามหาแม่ให้ แต่ยังสละเวลาเล่นอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกด้วย

ธีร์เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่นับว่าร่ำรวยมีเกียรติ แถมเขายังเป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบ รู้ความเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ ฉะนั้นเขาจึงรู้ถึงความเย่อหยิ่งของพวกคนชั้นสูงตำแหน่งโตในบริษัทเป็นอย่างดี คนพวกนั้นชอบเชิดหน้ามองคนอื่นด้วยรูจมูก

แด๊ดดี๊ยอมวางมาดสูงศักดิ์พวกนั้นแล้วมาเล่นเป็นเพื่อนเด็กคนหนึ่งแบบนั้น ดังนั้นเขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นอย่างแน่นอน ระหว่างเขากับหม่ามี๊ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ ๆ เพราะแบบนี้ตอนนั้นพวกเขาถึงต้องแยกจากกัน

แม้ว่าหม่ามี๊จะเคยสัญญากับเขาว่าจะฟังคำอธิบายของแด๊ดดี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ความเข้าใจผิดระหว่างทั้งคู่จะยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย ไม่อย่างนั้นจนป่านนี้ทำไมแด๊ดดี๊ถึงยังไม่มาหาเขาอีก เฮ้อ ไม่รู้ว่าตอนนี้แด๊ดดี๊จะรู้แล้วหรือยังว่ามีลูกชายอย่างเขาแล้วทั้งคน

เมื่อยิ่งคิดแบบนั้น ธีร์ก็ยิ่งรู้สึกเสียใจและน้อยใจมาก เขาคิดถึงแด๊ดดี้มาก เขาคิดอยู่ทุกวันว่าอยากจะไปเจอพ่อสักครั้ง แต่ว่าเขาเป็นใครพ่อยังไม่รู้เลย มันน่าเสียใจจริง ๆ เลย

ไม่ได้ เขาจะต้องคิดหาทางจับคู่ให้พ่อกับแม่ของเขาให้ได้ ให้พวกเขาได้ปรับความเข้าใจกันเร็ว ๆ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะสามารถไปพบพ่อของตัวเองได้สักที แต่จะใช้วิธีการไหนดีล่ะ ถึงจะได้ผลลัพธ์ดีมากที่สุด?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ