ธนพัตรู้ว่าสาริศากำลังรีบมาก จากปกติความเร็วรถหกสิบไมล์ต่อชั่วโมง ตอนนี้พุ่งขึ้นไปกว่าร้อยไมล์ต่อชั่วโมงแล้ว
ความเร็วของรถที่กำลังขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนยังเทียบไม่ได้กับความตื่นตระหนกในใจของสาริศาในตอนนี้เลย
เพียงไม่นานก็มาถึงที่ธนาคาร สาริศาลงจากรถตรงไปที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว และถอนเงินสดในบัญชีธนาคารของตัวเองออกมาจนหมด โชคดีที่ตระกูลนิธิธราสกุลเป็นสมาชิกVIP เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย
“เร็วเข้า ไปที่หมู่บ้านฟ้าใส” สาริศามองธนพัตด้วยสีหน้าตื่นตระหนก หวังอยากจะให้เขาสตาร์ทรถและรีบขับไปยังจุดหมายโดยเร็วที่สุด
ธนพัตรู้ดีว่าต่อให้ถามอะไรตอนนี้ สาริศาก็คงไม่สามารถตอบคำถามเขาดี ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้จึงยอมทำตามคำของเธออย่างเชื่อฟังโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ!
ถึงแม้ว่าตอนนี้รถจะกำลังขับเคลื่อนไปยังจุดหมาย แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าระหว่างช่วงเวลานี้โจรลักพาตัวมันจะทำเรื่องโหดร้ายทารุณอะไรกับธีร์บ้างหรือเปล่า
เมื่อคิดไปแบบนั้น สาริศาได้แต่กำหมัดแน่นอย่างตึงเครียด เหงื่อจากฝ่ามือหยดลงบนกางเกงแต่เธอกลับไม่มีท่าทีจะสนใจเลยสักนิด
ตอนนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องของธีร์ เธอมีลูกแค่คนเดียว ถ้าลูกของเธอจากเธอไปอีกคน ชีวิตนี้ก็คงจะน่าเบื่อมาก
“ขับเร็ว ๆ หน่อยสิ” สาริศามองธนพัต พลางตวาดใส่เขาอย่างโมโห
ทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าคนนี้ทั้งนั้น เมื่อห้าปีก่อน ผู้ชายคนนี้ก็จะฆ่าลูกของเธอ
ห้าปีต่อมา ธีร์ยังถูกลักพาไปเพราะเขาอีก ถึงแม้ว่าเธอจะจากเขาไปแล้ว แต่ในชีวิตของเธอกลับยังมีเงาของเขาติดตามไปทุกหนทุกแห่ง
สาริศาคิดว่า ถ้าตอนนั้นตัวเองไม่ได้แต่งงานกับธนพัต ถึงแม้ว่าชีวิตของเธออาจจะไม่ได้มั่งคั่งร่ำรวยเหมือนอย่างตอนนี้ แต่อย่างน้อยก็คงจะเรียบง่ายและสงบสุข
คงไม่ได้ใช้ชีวิตวุ่นวาย ต้องมาพบเจอเรื่องราวมากมายเหมือนอย่างตอนนี้
“เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย” ธนพัตรู้ดีว่าสาริศากำลังร้อนใจมาก แต่ไม่ว่าจะร้อนใจยังไง ก็ต้องรับประกันความปลอดภัยของชีวิตเธอด้วยสิ
อีกอย่างตอนนี้เป็นช่วงเวลาเลิกงาน และเป็นช่วงที่รถติดมาก ต่อให้ไม่ใช่ช่วงเวลานี้แต่การขับรถความเร็วเป็นร้อยไมล์แบบนี้สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ง่าย
ถ้าบนรถไม่มีสาริศานั่งอยู่ด้วยว่าไปอย่าง แต่พอมีเธอนั่งอยู่ด้วยแบบนี้ ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องคำนึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
สาริศาทนรอไม่ไหว บีบแตรรถเสียงดังเพื่อให้คนที่อยู่ด้านหน้าหลีกทางให้!
เดิมทีธนพัตคิดว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลแต่กลับเห็นว่ารถคันข้างหน้าต่างทยอยเคลื่อนตัวหลบไปด้านข้าง แถมยังต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้พวกเขาขับผ่านไป
เมื่อเห็นดังนั้น พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก รีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าตรงไปทันที
คราวหน้าไม่มีรถติด และไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ แล้ว พวกเขาจึงมุ่งหน้าขับต่อไปเรื่อย ๆ
ธนพัตเปิดเครื่องนำทาง ค้นหาหมู่บ้านฟ้าใส
ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลมาก แถมยังไม่ค่อยมีคนไปที่ด้วย
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังอยู่ห่างจากตำแหน่งของพวกเขาตอนนี้อีกไกลมาก
ไกลแค่ไหนก็ต้องไปช่วยธีร์! สาริศาเหลือบมองธนพัต ธนพัตพยักหน้าให้เธอ ก่อนจะขับขึ้นทางด่วน ความเร็วรถเร่งความเร็วขึ้นมาก
ยิ่งเดินทาง สาริศาก็ยิ่งเป็นกังวลใจ ธนพัตเห็นเธอขมวดคิ้วแน่น อยากจะเอ่ยปากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายเขาก็พอเดาได้ สาริศาก็ยังไม่ยอมบอกเขาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
คำตอบที่เขาได้รับกลับมามีเพียงเสียงลมพัดจากนอกหน้าต่างกับความเงียบของสาริศา
ธนพัตคิดว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้สาริศาทนเงียบต่อไปแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะอึดอัดจนป่วยกันพอดี
“ริศา มีเรื่องอะไรเธอบอกกับฉันสิ ฉันจะได้ช่วยเธอคิดหาวิธีโอเคไหม?”
ธนพัตเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน ครั้งนี้ สาริศามีปฏิกิริยาตอบกลับเล็กน้อย แต่ก็แค่หันมามองเขาเท่านั้น
สาริศาคิดว่าต่อให้บอกเขาไปก็คงไม่มีจุดเปลี่ยนอะไรอีกแล้ว แล้วจะเสียเวลาพูดกับเขาให้มากความไปทำไม!?
“ริศา เรื่องเมื่อห้าปีก่อนฉันผิดไปแล้ว เธออย่าปิดบังฉันแบบนี้จะได้ไหม?” ธนพัตรู้ดีว่าเมื่อห้าปีก่อนตัวเองทำผิดไปจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...