หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 479

สรุปบท บทที่ 479 เงามืด: หวานเย็น กรุ่นใจ

บทที่ 479 เงามืด – ตอนที่ต้องอ่านของ หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอนนี้ของ หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 479 เงามืด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนธนพัตห่มผ้าให้สาริศา มือของเบาบังเอิญไปสัมผัสกับมือของเธอ ความเย็นยะเยือกนั้นทำให้ธนพัตถึงกับสั่นสะท้าน

มือเย็นขนาดนี้ได้ยังไง? มันเย็นจนธนพัตไม่กล้าจินตนาการเลย

คนหนาวหรือว่าหัวใจกำลังหนาวเหน็บกันแน่?

คำถามนี้ธนพัตไม่ได้ถามออกไป แต่เขาก้าวเข้าไปกุมมือสาริศาไว้ แล้วกำมือไว้แน่น

สาริศาอยากจะดึงออก เธอมองสายตาข่มขู่ของธนพัตอย่างจนปัญญา และทำได้แค่ยอมแพ้

ถ้าเทียบนิสัยไม่ยอมใครกับธนพัตยังไงเธอก็เทียบไม่สู้เขาอยู่ดี

หลังจากช่วยอุ่นมือให้เธอกว่าสิบห้านาที ในที่สุดมือของสาริศาก็ค่อย ๆ อุ่นขึ้น ธนพัตดึงมือออก พลางวางมือของสาริศาซุกเข้าไปไว้ในผ้าห่ม

“เมื่อกี้ฉันเห็นว่าที่นี่มีห้องครัวด้วย แต่ไม่มีอาหารให้กิน เดี๋ยวฉันไปทำอะไรมาให้กินนะ” ธนพัตบอกกับสาริศา

พวกเขาไม่ได้กินข้าวมาหนึ่งวันแล้ว บวกกับวันนี้เจอมาหลายอย่างและเหนื่อยมาก ตอนนี้คงจะหิวมากแล้วแน่ ๆ

สาริศาได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย

เขาทำอาหาร? แบบนี้ที่นี่จะยังอยู่ต่อไปได้อีกเหรอ?

แต่ตอนนี้สาริศาไม่มีอารมณ์จะเล่นตลก เธอแค่พยักหน้าและไม่พูดอะไร

ธนพัตเดินไปที่เตา เนื่องจากสภาพที่นี่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีที่ให้ใช้ไฟฟ้า ทุกอย่างล้วนต้องทำด้วยมือทั้งหมด

ดังนั้นตอนนี้การก่อไฟจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ของธนพัต และมันก็ยากสำหรับธนพัตด้วย

ก่อไฟพอไหว แต่นี่แม้แต่ไฟแช็กก็ไม่มีสักอัน ซึ่งมันสร้างความลำบากให้ธนพัตมาก

และเพื่อไม่ให้สาริศาต้องทนหิว ธนพัตทำได้เพียงแค่เรียนรู้ทักษะการปั่นไม้เพื่อก่อไฟของคนโบราณเท่านั้น แต่เมื่อเขาหยิบไม้ขึ้นมา เขากลับไม่รู้อีกว่ามันต้องปั่นไม้เพื่อจุดไฟยังไง

ธนพัตถือไม้สองท่อนถูกันไปมาอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่ประกายไฟเลยสักนิด

เขาหมดหนทาง หันมองไปทางสาริศาที่อยู่อีกทาง และคิดว่าควรจะพยายามต่อไปอีกหน่อย

บอกว่าจะทำอาหารให้เธอกิน แต่ถ้าแม้แต่ไฟยังก่อไม่ติดแบบนี้ ผู้ชายอย่างเขาจะยังเหลือประโยชน์อะไร?

ธนพัตมุ่งมั่น ค่อย ๆ ทำต่อไปเรื่อย ๆ

ในที่สุด เขาก็ได้ยินเสียง “ซือ” ก่อนที่ไฟจะลุกโชนขึ้นมา

ไฟลุกแล้ว แต่ธนพัตกลับรู้สึกว่าบนศีรษะของเขามีบางอย่างผิดปกติ เขาเอื้อมมือไปลูบผมของตัวเอง...

เพราะเมื่อครู่เอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับท่อนไม้ ทำให้ตอนที่ไฟลุกโชนขึ้นมาไหม้เส้นผมของเขาไปด้วย

ธนพัตมองกองไฟตรงหน้าอย่างหมดความอดทน ไม่ง่ายเลยกว่าจะก่อไฟติดขึ้นมาได้ จะปล่อยให้มันดับอีกไม่ได้เด็ดขาด

เขาทำได้เพียงแค่ลืมความขมขื่นเรื่องที่เส้นผมถูกเผาจนร่วงทิ้งไป และหันมาตั้งใจกับการทำอาหาร

เขาเติมน้ำลงในหม้อ พลางหั่นส่วนประกอบต่าง ๆ ที่จะใส่ลงไป

ในครัวมีแค่มะเขือเทศ ไข่ไก่และผักกาดหอม

เขาตั้งใจจะทำซุปไข่ จากนั้นก็ผัดมะเขือเทศกับผักกาดหอมอย่างละจาน หลังจากวางแผนแล้ว ธนพัตก็เริ่มลงมือทันที

ประธานใหญ่อย่างธนพัต อยู่บ้านก็ไม่เคยได้ทำอาหารเอง ดังนั้นตอนนี้แม้แต่หั่นผักยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเลย

แต่ว่าการหั่นผักถือว่าค่อนข้างง่าย ผ่านไปพักหนึ่งเขาก็สามารถหั่นผักทุกอย่างจนเสร็จ รอให้น้ำร้อน แล้วก็ต้มซุปไข่ไก่

แต่ไม่ว่าจะรอยังไงน้ำมันก็ไม่ร้อนสักที พอธนพัตก้มมองถึงได้พบว่าไฟมันดับไปนานแล้ว

ธนพัตไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องจุดไฟใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ไฟไม่ติดง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว ทำเอาเสียเวลาอยู่นาน

จนท้ายที่สุด ธนพัตก็ไม่สามารถจุดไฟได้ แต่กลับทำให้ควันไฟโขมงไปทั่วห้อง สาริศาที่อยู่ข้าง ๆ ทนไม่ไหวจนต้องเดินเข้ามาหา และเห็นสภาพของธนพัตในตอนนี้

สาริศาพูดอย่างเฉยเมย ในน้ำเสียงของเธอไม่มีอารมณ์อื่นปะปนอยู่เลยแม้แต่น้อย

“อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? กลับมาได้ไหม?” ธนพัตรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่นัก

แต่ในเมื่ออารมณ์มันมา ใครจะสามารถต้านทานได้?

“คุณอย่าทำแบบนี้ได้ไหม? กลับไปกับคุณเพื่ออะไร!? กลับไปให้คุณทำร้ายอีกเหรอ? หรือกลับไปดูคุณสวีทหวานกับผู้หญิงคนอื่นอีกเหรอ?”

สาริศาไม่รู้จริง ๆ ว่าธนพัตคิดอะไรอยู่กันแน่ แถมตอนนี้ยังกล้ามาขอให้เธอกลับไปอีก

ในเมื่ออยากให้เธอกลับไป แล้วทำไมเขาถึงไม่อธิบายเรื่องที่เขาทำลงไปในตอนนั้นล่ะ?

“ริศา เธอกำลังพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ ฉันแค่หวังว่าเธอจะพูดเรื่องทุกอย่างออกมาแล้วพวกเรามาแก้ไขมันด้วยกันได้ไหม?” ธนพัตมองสาริศาที่กำลังอารมณ์ขึ้นพลางเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมเธอ

“ไม่จำเป็น ตอนนี้ช่วยชีวิตคนสำคัญที่สุด” ตอนนี้สาริศาไม่มีอารมณ์จะมาพูดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมากับธนพัต

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยธีร์ให้ได้ ถ้าไม่มีธีร์ ถึงจะพูดเรื่องพวกนี้ไปมันก็ไร้ประโยชน์

“ฉันใจร้อนเกินไป” ธนพัตเองก็รู้ดีว่าตัวเองบังคับเธอจนเกินไป ต้องค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว

ธนพัตยิ้ม พลางก้มหน้าทานอาหารต่อ สาริศาเองก็นั่งกินข้างต่อไปอย่างเงียบ ๆ

ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจขึ้นมาอีก

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน อาหารค่ำมื้อนี้กินได้เต็มอิ่มมากที่สุด มันช่วยเติมเต็มพลังงานในร่างกายที่สูญเสียไป แถมยังช่วยเติมเต็มพลังความคิดให้อีกด้วย

คืนนี้เงียบผิดปกติ พวกเขาได้ยินเพียงสายลมที่พัดโชยอยู่ด้านนอกและเสียงลมหายใจของกันและกัน

มีเงาของใครบางคนอยู่ด้านนอกหน้าต่าง และกำลังจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของคนสองคนในบ้านอยู่ตลอดเวลา

ใต้เงาจันทร์และดวงดาว คนสองคนนั่งมองหน้ากันอยู่ภายในห้อง มีเพียงเงามือของใครคนหนึ่งแอบย่องไปมาอยู่ด้านนอก...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ