ตอน บทที่ 480 แม่? จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 480 แม่? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
คนสองคนภายในห้องต่างกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน โดยไม่ได้สนใจเงามืดที่อยู่ด้านนอกเลยสักนิด
เงาเล็ก ๆ เอาหน้าแนบกับรอยแยกตรงประตูแอบมองคนสองคนที่กำลังนั่งมองหน้ากันอย่างอยากรู้อยากเห็น พลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขอย่างอดไม่ได้
เงานี้ไม่ใช่ของใครที่ไหน ซึ่งคือธีร์คนที่ถูกลักพาตัวมาในครั้งนี้นั่นเอง
ธีร์มองดูการกระทำของทั้งสองคน และรู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่างไป เขาก้มมองพื้นหญ้าเห็นมีแมลงอยู่ตัวหนึ่ง แล้วความคิดอันชาญฉลาดก็แล่นเข้ามาในหัวทันที
เขาโยนแมลงตัวนั้นเข้าไปในบ้าน แล้วมันก็บินตรงไปทางริศาพอดี
ทั้งสองคนที่เดิมทีเอาแต่นั่งเงียบเมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของแมลง จึงรีบลุกขึ้นทันที ธนพัตนึกว่าเป็นของไม่ดีอะไร
แต่ทางด้านสาริศาเธอกลับเห็นแมลงตัวนั้นวิ่งเข้ามาอย่างชัดเจน
แต่เดิมสาริศาก็กลัวแมลงมากอยู่แล้ว ยิ่งในตอนนี้ต้องมาเจอแมลงในที่ที่ทั้งเงียบและไม่คุ้นเคยแบบนี้อีก
เธอตกใจกลัวจนปากซีด
ทีแรกเธอคิดว่าหลังจากแมลงบินเข้ามาแล้วมันจะไม่เคลื่อนไหวอะไรอีก แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด แมลงตัวนั้นบินตรงมาทางสาริศา
เธอสะดุ้งตกใจ ขณะที่พยายามจะเบี่ยงตัวหลบ เธอก็บังเอิญพุ่งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของธนพัตพอดี
การปะทะกันระหว่างหน้าอกกับหน้าอก ทำให้ทั้งสองคนเงียบลง สาริศามองไปที่ธนพัตด้วยใบหน้าที่ทั้งเขินอายและหวาดกลัว
ธนพัตเอื้อมมือไปกอดสาริศาไว้ กระตุกยิ้มมุมปาก ดูมีเสน่ห์สุด ๆ
เหมือนกันแมวขโมยตัวหนึ่ง
ธีร์ที่อยู่ด้านนอกรู้จักสาริศาดี เขารู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่าแม่ของเขากลัวแมลงมาก
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศภายในห้องบรรลุผลตามที่ตัวเองต้องการแล้ว ธีร์ก็หัวเราะคิกคัก และตัดสินใจจะดำเนินการตามแผนในขั้นตอนสุดท้าย
ส่วนแมลงที่อยู่ห้องตัวนั้นก็ถูกธนพัตเหยียบตายไปแล้ว สาริศาผละตัวออกจากอ้อมกอดของธนพัตด้วยใบหน้าแดงก่ำ และไม่พูดไม่จาเลยสักคำ
“ริศา...เธอไม่เป็นไรนะ?” ธนพัตเอ่ยถามสาริศาอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร” สาริศาตอบ ทีแรกเขานึกว่าเธอจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว แต่จู่ ๆ เธอกลับพูดขึ้นว่า “ขอบคุณ”
ที่สาริศากลัวแมลงเพราะตั้งแต่เธอยังเด็กแม่สุขภาพไม่ค่อยดี จำเป็นต้องดื่มยาสมุนไพรจีน แต่ครอบครัวยากจนมาก เลยไม่สามารถซื้อพวกแมลงแพง ๆ มาต้มใส่ยาได้
เพื่อแม่ สาริศาจึงทำได้แค่ต้องเอามือไปจับเอง ทุกครั้งเธอต้องอดทนกับความกลัวและความรังเกียจออกไปหาแมลงพวกนั้น
ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สาริศากลับไม่มีภูมิต้านทานต่อแมลงพวกนั้นเลย ทันทีที่เห็นแมลงตัวเธอก็จะสั่นสะท้านทันที
ครั้งนี้โชคดีที่มีธนพัตอยู่ที่นี่เป็นเพื่อน ไม่อย่างนั้นสาริศาไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองจะสามารถรอดออกไปช่วยธีร์ได้หรือเปล่า
“ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไรแล้ว” ธนพัตเห็นสาริศากะจิตกะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาก็เดาว่าเธออาจจะคิดถึงเรื่องในอดีต
ดังนั้นเขาจึงก้าวเข้าไปกอดสาริศาเอาไว้ พลางลูบศีรษะเธอเบา ๆ หวังว่าเธอจะสงบลงได้บ้าง
ผ่านไปพักใหญ่ สาริศาก็ผละตัวออกจากอ้อมกอดของธนพัต เมื่อยืนยันว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ธนพัตถึงได้ยอมปล่อยเธอ
“นั่นอะไร!?”
หลังจากสาริศาออกจากอ้อมแขนของธนพัต เธอก็เห็นก้อนกระดาษวางอยู่ที่หน้าประตู เพราะเมื่อกี้เธอมัวแต่ประหม่าเกินไปเลยไม่สังเกตเห็นมัน
“เธอรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปดูเอง” ธนพัตกังวลว่าจะมีอะไรผิดปกติ จึงให้สาริศายืนอยู่ที่เดิมจะดีกว่า
“อืม ระวังตัวด้วย” เธอมองธนพัตแล้วบอกอย่างเป็นห่วง
เมื่อได้ยินคำนั้น ธนพัตก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
ประโยคเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้เขาไม่ได้ยินมานานมากแค่ไหนแล้ว? นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มพูดกับเขาก่อน? เธอพูดกับเขาอย่างอ่อนโยนแบบนี้ไปเมื่อไหร่?
เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านั้น ธนพัตก็หันไปฉีกยิ้มให้สาริศาอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปหยิบกระดาษตรงหน้าประตู
เมื่อคลี่กระดาษโน้ตออก ลายมือสวยแต่ก็ดูมีความเป็นเด็กประทับอยู่ต่อหน้าเขา
“ขึ้นเตียง นอนหลับ”
“แม่ แม่เป็นอะไรครับ” ในขณะที่ธนพัตกำลังครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ก็เห็นร่างเล็ก ๆ เปิดประตูแล้ววิ่งเข้ามาตรงหน้าเขา
“หนู...” ธนพัตมองธีร์และอึ้งไปครู่หนึ่ง
เขาเรียกสาริศาว่าอะไรนะ? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?
คำถามยาวเป็นชุดนี้ธนพัตไม่มีเวลาทันได้ถาม ตอนนี้เขาทำได้แค่ดูว่าสาริศาเป็นอะไรกันแน่
“ไม่เป็นไรแล้ว” แล้วสาริศาก็กลับไปเป็นปกติ เหมือนคนไม่ได้เป็นอะไรเลยยังไงอย่างนั้น
ซึ่งมันทำให้ธนพัตที่คอยเฝ้าดูอยู่ตลอดคิดไม่ทัน
ปวดท้องไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ไม่ปวดแล้วล่ะ?
“ธีร์” สาริศามองธีร์ด้วยแววตาเยือกเย็น เธอหวังว่าธีร์จะอธิบายให้เธอฟัง
“อือ...” ธีร์ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาสาริศา
สาริศาบอกให้ธีร์เงยหน้ามองเธอแล้วถามเขาว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมต้องลักพาตัวตัวเองแบบนี้ด้วย?”
เมื่อได้ฟังคำถามของสาริศา ธีร์ก็มองหน้าเธออย่างงง ๆ พลางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “แม่รู้ได้ยังไง?”
“ถึงลูกจะจงใจเปลี่ยนลายมือ แต่ทุกครั้งที่ลูกเขียนคำว่าเตียงจะมีขีดเกินออกมาหนึ่งขีดเสมอ อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ”
สาริศาก็เพิ่งจะมองออกจากกระดาษโน้ตเมื่อครู่นี้ว่าคนเขียนคือธีร์ พอคิดได้แบบนั้น เธอก็เลยลองแกล้งทำเป็นปวดท้อง
แล้วผลก็ออกมาอย่างที่เห็น
เมื่อธีร์ได้ยินสาริศาบอกว่ารู้ว่าเป็นเขาเพราะคำว่า “เตียง” ก็อดหงุดหงิดตัวเองไม่ได้ที่ลืมเปลี่ยนนิสัยที่เคยชินเวลาตัวเองตอนเขียนหนังสือ
ธีร์ขยำศีรษะตัวเองอย่างหมดหนทาง และรอฟังคำตำหนิต่อไปจากสาริศา
แถมยังแอบคิดในใจว่า ต่อไปเขาจะตั้งใจเขียนหนังสือ จะไม่ให้คนอื่นจับจุดสังเกตแบบนี้ได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...