หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 496

ในขณะที่พชิรากำลังเพ้อฝันถึงเรื่องนี้อยู่คนเดียวลำพัง เธอก็ได้ยินเสียงประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมพร้อมขึ้นเครื่องดังมาจากห้องโถงนั่งรอ

“ผู้โดยสารที่ต้องการจะเดินทางไปฝรั่งเศสโปรดทราบ: เที่ยวบินที่คุณกำลังจะออกเดินทาง โปรดนำสัมภาระของคุณ พร้อมแสดงตั๋วขึ้นเครื่อง แล้วขึ้นเครื่องจากประตูขาออกที่สาม ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณค่ะ!”

พอได้ยินประกาศนี้ พชิราก็รู้ว่าเธอจะต้องไปแล้ว

และต้องบังคับใจตัวเอง และทำให้พชิราไม่มีความกล้าที่จะแค้นเคืองสาริศาเหมือนก่อนหน้านี้อีก ได้เดินตรงไปที่จุดตรวจตามคนอื่นไป

หลังจากรถเข็นผ่านจุดตรวจความปลอดภัยแล้ว พชิราก็มองไปที่ทางเดินที่รถเข็นของเธอเพิ่งข้ามไป ในใจรู้สึกทำใจไม่ได้

เธอจ้องมองทางเดินอยู่นาน แล้วน้ำตาก็ไหลลงมา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ไม่ว่าจะทำใจไม่ได้แค่ไหน เธอก็ไม่สามารถร้องไห้ในสถานที่ที่ต่อสู้กับสาริศาได้ ตนเองต่างหากที่เป็นผู้ชนะ

พอคิดได้แบบนี้ พชิราก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องต้องทำใจไม่ได้อะไร ก็แค่เดินทางออกจากประเทศบ้านเกิดก็เท่านั้นเอง

คำพูดหนึ่งพูดไว้ว่า การจากไป ก็เพื่อจะกลับมาพบกันในวันที่ดีกว่า

ครั้งนี้ เธอพชิราคนนี้ต้องทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ก็เพื่อจะทำให้ตัวเองดีขึ้น โดดเด่นขึ้น แบบนี้ถึงจะมีสิทธิ์ที่จะต่อสู้กับสาริศาได้!

แต่เธอเพิ่งจะขึ้นเครื่องบินไป ก็ถูกแอร์โฮสเตสบนเครื่องบินหยุดไว้ทันที

“คุณคะ ขอโทษด้วยนะคะ แต่ตั๋วเครื่องบินของคุณมีปัญหาค่ะ”

 “อะไรนะ!?” พชิราตื่นตกใจ

เธอซื้อตั๋วลดราคา จะให้ทำยังไงได้ เธอในตอนนี้ไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสราคาแพงได้แล้ว หรือว่าตั๋วที่ซื้อทางออนไลน์จะมีปัญหาจริงๆ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว เธอเห็นพวกแอร์โฮสเตสคุยกันอยู่นาน สุดท้ายก็บอกเธออย่างมีมารยาทว่า “คุณผู้หญิงคะ ตั๋วของคุณมีปัญหาจริงๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะที่เราไม่สามารถให้คุณขึ้นเครื่องได้”

พชิรานั่งอยู่บนรถเข็น สีหน้าซีดเผือด

เธอต้องหนีไปจากที่นี่ ถ้าเธอไม่หนีไป ไม่รู้ว่าสาริศากับธนพัตจะทรมานเธอยังไงบ้าง ตอนนี้เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ดังนั้นเธอต้องหนีไปจากที่นี่ให้ได้!

ในขณะที่ตื่นตระหนก เธอจึงรีบดูเงินที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว

ด้วยเงินในตอนนี้ เธอไม่สามารถไปยุโรปได้แล้ว และเธอก็ไม่มีวีซ่าของประเทศอื่นด้วย ดังนั้นเธอจึงสามารถไปได้แค่ประเทศใกล้เคียงที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเท่านั้น

สุดท้าย เธอจึงเลือกเดินทางไปที่ฮานอยในเวียดนามด้วยสายการบินราคาประหยัดแทน

พอนั่งบนสายการบินราคาประหยัด แล้วเห็นคนนั่งแออัดไปหมด เธอก็หน้าซีดไปทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งเครื่องบินลักษณะนี้

ขาของเธอไม่สะดวก แต่พนักงานในเครื่องบินกลับไม่สนใจเธอ หลังจากที่เธอพยายามนั่งลงอย่างลำบาก พยายามอดทนต่อกลิ่นเหม็นของคนข้างๆ และบังคับตัวเองให้หลับตาพักผ่อน

เธอเหนื่อยมากจริงๆ จึงนอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

เธอฝันว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ที่เวียดนามอย่างสบาย มีผู้ชายมาหลงรักมากมาย และเพื่อให้เธอตอบรับความรู้สึกของพวกเขา ทุกคนต่างก็เต็มใจที่จะเป็นทาสเธอ

บางคนถึงกับเรียกตนเองว่านางฟ้า เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยเท่าตนเองมาก่อน

เธอยังฝันว่าขาของเธอหายดีแล้ว และกำลังเดินไปบนพรมแดงอย่างดีใจอีกครั้ง พร้อมกับสวมชุดราตรีที่แสนสวยและสง่างาม เดินผ่านห้องโถงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับ

ราวกับว่าเธอได้กลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนจับตามอง กำลังรับความเคารพรักจากทุกคน

พชิราที่อยู่ในความฝัน ริมฝีปากของเธอยกยิ้มเล็กน้อยและมือของนางก็วางอยู่ข้างๆ ตัว ทุกการกระทำของเธอ แสดงว่าเธอชอบความฝันนี้มาก

ไม่ช้าเครื่องบินก็ลงจอด และพชิราก็ตื่นขึ้นจากความฝันของเธอ แต่ตอนที่เครื่องบินลงจอด พชิราลงจากเครื่องบิน ก็ตกตะลึงไปเลย

เมื่อก่อนเธอเคยมาเที่ยวที่เวียดนามเหมือนกัน แต่เธอพักอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว แล้วมีบริการรถรับส่ง เธอไม่เคยเห็นเวียดนามในสภาพสกปรกและแออัดขนาดนี้มาก่อน

ในตอนนี้พชิราทำได้เพียงหาที่พักที่ดีพักอาศัย เธอเดินไปตามถนน และมองดูตัวอักษรตรงหน้า ที่มีแต่ภาษาเวียดนาม

เธอทำได้เพียงเลื่อนรถเข็นดูไปตามถนน โดยหวังว่าจะหาที่พักที่ดีได้

แต่ยังดี สภาพแวดล้อมที่นี่ค่อนข้างดี แต่หาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างยาก

เวลาไปต่างประเทศ สิ่งที่กลัวที่สุดคืออุปสรรคด้านการสื่อสาร เพราะเขาพูดอะไรบ้าง คุณแทบจะไม่รู้เรื่องเลย

และคุณถามอะไรไป เขาก็ไม่เข้าใจ ไม่ต่างอะไรกับการสีซอให้ความฟัง

พชิราถูกปัญหานี้สร้างความลำบากให้เป็นอย่างมาก นอกจากภาษาแม่ เธอพูดเป็นแค่ภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส​ ภาษาจีน เธออ่านภาษาเวียดนามไม่ออก

แต่ถือว่าพชิราโชคดีมาก เธอได้พบกับคนจีนคนหนึ่ง

พชิรามองหน้าผู้ชายตรงหน้าเธอ ถึงแม้เขาจะไม่หล่อเท่าธนพัต แต่ก็พอจะใช้ได้ ดังนั้นเธอจึงเชื่อใจเขา

“มีอะไรให้ผมช่วยไหม” ผู้ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างสุภาพแล้วถามพชิรา

“คุณเป็นใคร?” พชิราชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้น เพราะไม่รู้จักเขา และไม่รู้ว่าเขาช่วยเธอเพื่อจุดประสงค์อะไร

“เรียกผมว่าLeoก็ได้ครับ ผมเป็นคนจีนที่อยู่ที่นี่ และในถนนสายนี้ผมเป็นคนเดียวที่พูดภาษาเวียดนามและจีนกับคุณได้” Leoพูดออกไปตรงประเด็น

หรือจะให้พูดก็คือ ถ้าพชิราปฏิเสธเขา เธอก็ยากที่จะหาห้องเช่าที่นี่ได้

และแน่นอนว่าพชิราเข้าใจจุดนี้ดี พอเห็นว่าLeoดูไม่ใช่คนไม่ดี เธอจึงพยักหน้าและบอกเล่าถึงความยากลำบากของเธอ

และยังบอกว่าตนเองถูกผู้หญิงชั่วร้ายอย่างสาริศาทำร้ายอีกด้วย

“ตกลง ตอนนี้ผมจะช่วยคุณหาที่พัก ตามผมมาครับ” หลังจากฟังเรื่องราวของพชิราแล้ว Leoก็รู้สึกเห็นใจมาก

ดังนั้น เขาจึงพาพชิราไปที่บ้านของเขาเองโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ที่บ้านเขามีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้งานอยู่พอดี

 ยังไงมันก็ว่างอยู่แล้ว ให้พชิราพักอยู่ก็ไม่มีปัญหา ยังไงพวกเขาก็เป็นคนประเทศเดียวกัน

ในประเทศ สาริศากำลังเดินทางไปซื้อของพร้อมกับธนพัต และตั้งใจที่จะซื้อของมาตกแต่งบ้าน

ธนพัตไม่ได้ตกแต่งบ้านมาหลายปีแล้ว ดังนั้นในบ้านจึงขาดความรู้สึกอบอุ่นไป

พอสาริศากลับมา สิ่งแรกที่เธอทำคือตกแต่งบ้านใหม่

 บ้านคือสถานที่ที่อบอุ่น ถ้าหากแม้แต่บ้านยังไม่อบอุ่น ก็จะทำให้อารมณ์ของคนที่อยู่ไม่มีความสุขไปด้วย

แต่ตอนนี้ธนพัตมีความสุขมาก มีคนคอยช่วยดูแลบ้าน แบบนี้ไม่ดีหรือไง?

และถ้าเป็นภรรยาของเขาก็ยิ่งดีเข้าไปอีก ดังนั้นทั้งสองคนจึงดูมีความสุขมาก

คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองดูพวกเขาด้วยความชื่นชม

ส่วนสาริศากับธนพัตกลับอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่สนใจสายตาของคนอื่นเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ