ทางนี้สาริศากับธนพัตซื้อของประดับตกแต่งเพื่อตกแต่งจำนวนมาก และทำการจ้างแม่บ้านมาสองคนเพื่อคอยดูแลชีวิตประจำวันของพวกเขาด้วย
ธีร์ยังคงเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งเดิม ตอนนี้ยังเช้าเกินไปโรงเรียนยังไม่เลิก ก็เลยยังไม่กลับมา
สาริศาถือโอกาสตอนที่ธีร์ยังไม่กลับมาจากโรงเรียน จึงรีบไปที่ห้องของธีร์ แล้วจัดของในห้องของธีร์ให้เรียบร้อย
เธอทำการแต่งห้องของธีร์ให้ดูเหมาะสมกับเด็ก ไม่ปล่อยให้ว่างเหมือนเมื่อก่อน
สาริศากับธนพัตกำลังช่วยกันจัดตกแต่งบ้าน ส่วนพชิราก็กำลังจัดห้องอยู่ที่เวียดนามเช่นกัน
พชิราค่อนข้างพอใจกับบ้านหลังใหม่ของเธอ แต่เธอรู้สึกอายเล็กน้อย เพราะLeoไม่คิดเก็บเงินกับเธอเลย
จุดนี้ทำให้พชิรารู้สึกทำตัวไม่ถูก เขาช่วยเหลือเธอจะไม่พูดอะไร เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าพูดภาษาเดียวกัน
แต่เขายังให้เธอพักที่บ้านของตัวเอง อีกทั้งยังไม่เก็บเงิน ซึ่งทำให้พชิรารับไม่ได้เล็กน้อย
ไม่ได้ทำคุณประโยชน์ให้ไม่ควรได้รับผลประโยชน์
นี่คือหลักการที่ทุกคนต่างก็เข้าใจ ส่วนพชิราเองก็เข้าใจดี ดังนั้นพชิรายังคงยืนยันที่จะให้เงินค่าเช่ากับLeo
“ในเมื่อโดนคุณถูกคนอื่นทำร้ายมา ก็ใช้ชีวิตอยู่ในเวียดนามให้สบายใจ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ แล้วจะกลับไปอย่างผู้มีชัย!”
Leoยกยิ้มและพูดกับพชิรา แล้วหันหลังเดินจากไป
พชิรามองตามแผ่นหลังของLeoไป รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีกเลย
ยังไงก็ได้อาศัยอยู่ที่นี่ฟรี โดยไม่เสียเงินของเธอเอง ทำไมจะไม่อยู่ล่ะ? เขาจะต้องหลงใหลในความงามของเธอแน่นอน!
พชิราเลื่อนรถเข็นของเธอไปรอบๆ ห้องอย่างดีใจ มีเครื่องใช้พื้นฐานอยู่ในห้องแทบจะครบถ้วน ตอนนี้เธอแค่เอาเสื้อผ้าของเธอไปแขวนในตู้เสื้อผ้าก็เรียบร้อยแล้ว
ไม่นาน พชิราก็เก็บของเรียบร้อย แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้ เงินของเธอถูกคนอื่นเอาไปหมดแล้ว ตอนนี้แหล่งหาเงินของเธอจะทำยังไง?
พอคิดถึงเรื่องนี้ พชิราก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
จะให้เธอออกไปทำงานหาเงิน คงเป็นไปไม่ได้ เธอเป็นลูกคุณหนู จะยอมถูกเหยียดหยาม และออกไปทำงานได้ยังไงกัน?
พอคิดถึงตรงนี้ พชิราก็เริ่มลังเลใจ ว่าตนเองควรจะมีชีวิตอยู่ยังไง เธอมีเงินติดตัวเพียงพอที่จะใช้ได้หนึ่งอาทิตย์เท่านั้นแล้ว
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ก็ยังคิดอะไรไม่ออกเลย เธอจึงคิดจะออกไปเดินดู
ดูว่าจะหางานดีๆ ได้ไหม หรือมีวิธีหาเงินทางอื่นบ้างหรือเปล่า
ดังนั้นพชิราจึงถือกระเป๋าของเธอและเลื่อนรถเข็นออกไปข้างนอก พอเธอออกมา ทุกคนต่างก็มองมาทางเธอด้วยสายตาแปลก ๆ และหันไปซุบซิบอะไรบางอย่างกันอยู่
แต่พชิราฟังไม่เข้าใจ
พชิราเดินไปตามถนนไปรอบๆ แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลย สักพัก เธอก็รู้สึกหิวขึ้นมา และตั้งใจจะกินข้าวให้อิ่มแล้วค่อยว่ากันอีกที
แต่ว่าตนเองไม่มีความรู้ด้านภาษาเวียดนาม ดังนั้นจึงต้องกลับบ้านก่อน และรอถามLeoว่าสามารถช่วยตนเองได้ไหม
พอเธอกลับถึงบ้าน Leoกำลังกินข้าวอยู่พอดี พอเห็นสายตาของพชิรา ก็รู้ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าว
เขาหยิบชามและตะเกียบมาให้เธอ แล้วบอกให้เธอนั่งกินข้าวกับเขา
ตอนนี้พชิราหิวมาก ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์อะไรแล้ว เธอก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเดียว
หลังพชิรากินข้าวอย่างมีความสุขจนเสร็จ เธอจึงเอ่ยถามLeoว่ามีงานหาเงินบริเวณใกล้ๆ นี้บ้างไหม
“ถ้าคุณอยากทำงานหาเงิน คุณช่วยผมจัดการเอกสารบางส่วนทุกวัน แค่นี้ก็พอแล้ว เงินเดือนของคุณจะได้มากกว่าหาเงินจากข้างนอกแน่นอน”
Leoเอ่ยปากพูด ในเมื่อตนเองได้ช่วยพชิรามามากแล้ว ตอนนี้จะช่วยอีกหน่อยคงไม่ถืออะไรแล้ว
“จริงเหรอคะ?” พชิราได้ยินในสิ่งที่Leoพูด จึงยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...