สาริศาเดินอย่างมีความสุข จับมือธนพัตส่ายไปมา เหมือนแฟนที่เพิ่งคบกันใหม่ๆ เดินอยู่สักพักก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตรงทางเลี้ยว
เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงแม้จะไม่สวยมาก แต่กลับน่ารักมากทีเดียว
เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นจ้องมองตู้กระจก ไม่ละสายตาไปไหนเลย ราวกับว่ากำลังดูแลสิ่งของที่เธอรักและหวงแหน
สาริศาสงสัยว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นดูอะไรอยู่ เพราะสายตาดูจะตั้งใจและแน่วแน่มาก
ดังนั้นมองธนพัต บอกให้เขาเดินไปดูสักหน่อย
ธนพัตพยักหน้า เดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ไม่ดูยังไม่รู้ พอดูแล้วก็ทำเอาสาริศาตกใจทีเดียว
ที่แท้เด็กผู้หญิงกำลังดูชุดแต่งงาน
เป็นชุดแต่งงานที่สวยมากชุดหนึ่ง ชุดแต่งงานนี้ไม่มีการตกแต่งที่หรูหรามากนัก เป็นสไตล์เรียบง่ายและสีสันธรรมดา
แต่ดูแล้วเรียบง่ายสง่างาม ก็เป็นธรรมดาที่เด็กผู้หญิงจะชอบชุดแต่งงานนี้
ขนาดสาริศายังเคยเพ้อฝันวันหนึ่งที่ตัวเองได้ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ เข้าสู่ประตูวิวาห์กับคนที่ตัวเองรัก
พอเห็นแบบนี้แล้ว สาริศาก็อดไม่ได้อยากถามเด็กผู้หญิงคนนี้ว่าทำไมถึงชอบชุดแต่งงานชุดนี้
ดังนั้นสาริศาจึงนั่งยองลงไป มองดูเด็กผู้หญิงแล้วเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
แต่คำตอบของเด็กผู้หญิง กลับทำเอาสาริศาตะลึงมาก
เด็กผู้หญิงบอกว่า “ครอบครัวของหนูจน ไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น แม่บอกว่าต่อไปไม่มีคนอยากแต่งงานกับหนูหรอก ดังนั้นตอนนี้หนูเห็นชุดแต่งงานนี้ รู้สึกว่ามันสวยมาก”
“แต่พอนึกขึ้นได้ว่าต่อไปคงไม่มีทางได้ใส่มันแล้ว ก็เลยเสียใจ ดังนั้นเลยอยากอยู่ดูที่นี่ก่อน ถึงแม้ต่อไปจะไม่ได้ใส่ ก็คงจะไม่รู้สึกเสียดายขนาดนั้น”
พูดจบ เด็กผู้หญิงก็น้ำตารื้นขึ้นมาเต็มขอบตา แต่ยังคงพยายามไม่ให้มันไหลออกมา
ท่าทางที่อยากร้องไห้ แต่ก็ไม่ร้องออกมา ทำเอาสาริศาเห็นแล้วรู้สึกปวดใจ
“เด็กดี ไม่ร้องไห้นะ เด็กผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งงานทั้งนั้น และอยากใส่ชุดแต่งงานที่ตัวเองชอบ”
สาริศาอยากปลอบใจเด็กผู้หญิงตรงหน้า แต่กลับรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ
นึกคิดสักพัก ที่แท้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง เธอไม่มีงานแต่ง ไม่เคยใส่ชุดแต่งงานสวยๆ
พอนึกถึงตรงนี้ สาริศาก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจต่อไปยังไงดี ถ้าพูดต่อไป งั้นก็โกหกเด็กน่ะสิ
สาริศาไม่อยากโกหกเด็กน้อยที่น่ารักตรงหน้า ดังนั้นจึงห้ามใจที่อยากจะปลอบเด็กสาวคนนี้เอาไว้
“ค่ะ งั้นหนูจะตั้งใจเรียน ต่อไปจะได้ใส่ชุดแต่งงานสวยๆ” เด็กผู้หญิงฟังคำพูดของสาริศา ก็ยิ้มหน้าบาน กระตือรือร้นอยากตั้งใจเรียน
พูกคำนี้จบก็กลับหลังหันเดินออกไป เหลือเพียงสาริศาที่นั่งเหม่ออยู่กับที่
ตัวเองพูดแค่คำเดียว เธอก็ดีใจขนาดนี้แล้วเหรอ?
เด็กๆสมัยนี้ปลอบง่ายจัง
ธนพัตเห็นฉากนี้แล้วก็ครุ่นคิด
“ไปกันเถอะ” สาริศาจับมือธนพัตเดินไปข้างหน้าต่อ
เดินได้สักพักก็กลับถึงบ้าน วันนี้สาริศาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดินไปถึงห้องนอนก็เห็นธีร์กำลังเล่นอยู่ตรงนั้น จึงหั่นผลไม้ไปให้ธีร์
สาริศาอยากให้ธนพัตกับธีร์ได้อยู่ด้วยกันสองคน แบบนี้ ธีร์ถึงจะหลอมรวมเข้ากับครอบครัวนี้ได้ง่ายขึ้น
ธนพัตจะไม่เข้าใจความคิดของสาริศาได้ยังไง?
ธนพัตจึงตั้งใจทำหน้าที่ของพ่อให้ดีที่สุด ถึงแม้เมื่อก่อนจะไม่เคยเป็น แต่หลายเรื่องต่างก็เริ่มจากไม่มีจนมีไม่ใช่หรอ?
ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอแค่มีความพยายาม ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ
ธนพัตคิดแบบนี้ในใจ ขณะเดียวกันก็เริ่มปฏิบัติขึ้นมา
“น้องธีร์ ดูสิ พ่อซื้ออะไรมาให้?” ธนพัตวางจิ๊กซอว์โดเรมอนไว้ตรงหน้าธีร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...