หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 512

ผู้หญิงใบหน้าซีดขาวคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงสีขาว โดยมีหญิงสาวอีกคนยืนอยู่ด้านหน้าเตียงของเธอ

ดูเหมือนทั้งสองคนกำลังพูดคุยเรื่องอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยดีนัก หญิงสาวน้ำตาไหลพรากลงอาบแก้ม

พอเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่าเป็นพชิรา

ตั้งแต่พชิรากลับมา เธอไปหาออสตินก่อน และขอให้ออสตินร่วมมือกันกับเธอ และตอนนี้เธอก็มาหากันยาอีก

จุดประสงค์ก็เพื่อจะทำให้กันยาเย็นชากับสาริศา จากนั้นก็ให้กันยามาช่วยเธอจัดการกันสาริศาด้วยกัน

“แม่คะ” ทีแรกพชิราไม่ได้คิดอยากจะเรียกกันยาว่าแม่ แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์หลักในการมาของตัวเองครั้งนี้ เธอจึงฝืนใจเรียกออกมา

“ลูกเอ๊ย” กันยาที่ไม่ได้เจอพชิรามานานมาก ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เจอแล้ว แถมยังได้ยินลูกสาวเรียกว่าตัวเองว่าแม่ด้วยหูของตัวเองแบบนี้

มันช่างมีความสุขอะไรขนาดนี้

ปกติแล้วพชิราไม่ยอมเรียกเธอว่าแม่ และไม่มีทางจะมาดูเธอแบบนี้ด้วย

วันนี้เป็นอะไรไป? ทำไมวันนี้ถึงนึกอยากจะมาหาเธอได้?

แม้ว่ากันยาจะคิดแบบนั้น แต่เธอก็แอบคิดว่าไม่ถามคงจะดีกว่า

แม้ว่าตอนนี้เธอจะได้พบลูกสาวแท้ ๆ ของเธอแล้ว แต่ลูกสาวคนนี้กลับยังเอาแต่โทษเธอที่เข้าไปเปลี่ยนชีวิตของเธอโดยที่เธอไม่ได้ยินยอม

แม้ว่ากันยาจะนอนป่วยอยู่บนเตียงมาตลอด แต่สมองของเธอไม่ได้มีปัญหา

เรื่องบางอย่าง เธอเองก็พอรู้บ้างอยู่เหมือนกัน

แต่ในเมื่อหล่อนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง ต่อให้หล่อนจะโกรธเธอมากขนาดไหน หล่อนก็ยังเป็นลูกสาวของเธออยู่วันยังค่ำ

“หนูเพชร มานี่เร็ว นั่งลงก่อนสิ” กันยามองไปที่พชิราที่ยังเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ จึงกวักมือเรียกให้เธอนั่งลง

“ขอบคุณค่ะ” พชิรากล่าวขอบคุณแล้วนั่งลง

พชิรารู้ดีว่าเรื่องที่จะพูดในวันนี้มันพูดยาก ต้องนั่งลงแล้วค่อย ๆ คุยกัน

แถมตอนนี้เธอก็ใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ ถ้ายืนนาน ๆ มันก็ไม่เป็นผลดีกับตัวเธอด้วยเหมือนกัน

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” เมื่อกันยาได้ฟังน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจของพชิรา น้ำเสียงเหมือนคนที่ห่างเหินกันไปหลายพันไมล์ มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมาก

แต่สีหน้าภายนอกเธอก็ไม่ได้แสดงอาการรำคาญใจอะไร

“แม่ หนูแค่อยากจะบอกแม่ว่าให้ระวังสาริศาไว้สักหน่อย” พชิราคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับกันยา จึงพุ่งไปที่หัวข้อหลักทันที

“ทำไม!?” ถึงแม้ว่าสาริศาจะบีบบังคับให้พชิราไป แต่น้ำเสียงของพชิราในตอนนี้ฟังดูหนักแน่นมาก

ประหนึ่งว่าสาริศาทำสิ่งที่เลวร้ายมากกับพชิรายังไงอย่างนั้น

“เพราะ...” พชิราแสร้งทำเป็นอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนตัวเองไม่สะดวกใจอยากจะบอกเรื่องนี้กับกันยายังไงอย่างนั้น

แต่ตอนนี้กันยาไม่สนใจความห่างเหินอะไรทั้งนั้น เธอจับมือของพชิรา พลางบังคับถาม

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้สาริศาทำให้พชิราต้องหนีไป และส่งเธอมาอยู่ที่บ้านพักคนชรา

แต่บ้านพักคนชราแห่งนี้ก็เป็นบ้านพักคนชราที่ดีที่สุดในเมือง แถมยังมีคนคอยดูแลเป็นพิเศษ ได้อยู่ห้องเดี่ยวที่สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย

บวกกับอคติที่ตัวเองมีต่อสาริศาก่อนหน้านี้ ในใจของเธอก็รู้สึกผิดต่อสาริศาอยู่มากไม่น้อย

แต่พอตอนนี้ได้ฟังคำพูดของพชิรา เธอก็อดเอ่ยปากถามไม่ได้ เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาริศากันแน่

ในเมื่อตอนนี้พชิราก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอโดยไม่เป็นอะไรเลย เธอจึงคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับสาริศาอย่างแน่นอน

แต่ดูเหมือนว่ากันยาจะคิดมากจนเกินไป

เพราะคำจากปากของพชิราคือสาริศาไม่ได้เป็นอะไร แต่กลับนิสัยแย่ลง

“สาริศาไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของหนู หนูทำเองก็ต้องรับเอง ต้องโทษหนูที่ไปรักคนผิด”

ทันทีที่พชิราพูดถึงเรื่องนี้ น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา จากทักษะการแสดงของพิชิราในตอนนี้เธอควรจะได้รับรางวัลออสการ์แล้ว

“เธอเป็นอะไรไป” เมื่อกันยาได้ยินแบบนั้น ดูเหมือนว่าสาริศาจะยังสบายดี แต่กลับทำอะไรบางอย่างกับพชิรา เธอจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสาริศาตัวเธอก็คงจะเป็นห่วง แต่ถ้าหากสาริศาแตะต้องพชิราแค่เพียงปลายนิ้ว เธอก็จะให้สาริศาชดใช้อย่างสาสม

อย่างน้อยในใจของกันยาก็คิดแบบนี้ ไม่ต้องสนใจว่ากันยาจะมีความสามารถพอที่จะทำให้สาริศาชดใช้อย่างสาสมหรือไม่ แค่กันยามีความคิดแบบนี้มันก็บอกด้แล้วว่าเธอลำเอียงมากขนาดไหน

“เธอ...เธอบังคับให้หนูไปอยู่เวียดนาม” แล้วพชิราก็เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอที่นั่น

ซึ่งมันเป็นความจริงทั้งหมด ไม่มีใส่สีเติมแต่งอะไรลงไปทั้งนั้น

แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องทั้งหมดเธอเป็นคนก่อเองก็ต้องรับเอง แต่เธอกลับโยนความผิดทุกอย่างไปที่สาริศาทั้งหมด

“เพราะแบบนี้Leoเลยให้เงินหนูแล้วให้หนูกลับมา” หลังจากพชิราพูดจบน้ำตาของเธอก็ไหลพรากออกมา

อันที่จริงตอนนั้นพชิรารู้สึกหมดหวังไร้หนทางจริง ๆ ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะทำงานอยู่ที่Qing Fengอย่างมีความสุข แต่ต่อมามีเศรษฐีคนหนึ่งมาชอบเธอ

เศรษฐีคนนั้นอยากให้เธอไปเป็นภรรยาน้อยคนที่แปดของเขา และแน่นอนว่าพชิราปฏิเสธไป

โชคดีที่Leoยื่นมือเข้ามาช่วย พชิราถึงสามารถรอดพ้นจากอันตรายมาได้

ตอนนั้นพชิราถามLeoว่าทำไมถึงช่วยเหลือเธอ คำตอบของLeoทำให้เธอลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต

“ฉันไม่สามารถทนเห็นคนประเทศเดียวกันถูกชาวต่างชาติรังแกโดยไม่ทำอะไรเลย”

หลังจากLeoพูดจบเขาก็จากไปทันที

แล้วพชิราก็ใช้เงินที่Leoกลับมาที่นี่

หลังจากกันยาได้ฟังเรื่องราวที่พชิราต้องประสบพบเจอในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอก็ปวดใจจนน้ำตาไหลออกมา

“หนูเพชร ทุกอย่างเป็นความผิดของแม่เอง แม่ไม่มีความสามารถมากพอ ไม่อย่างนั้นแม่ไม่มีทางยอมให้ลูกต้องทนทุกข์แบบนั้นแน่” กันยาน้ำตาไหลพราก

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” พชิราปาดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองที่บังคับบีบออกมาอย่างยากลำบาก

“แต่ว่าแม่ต้องระวังสาริศาไว้ด้วยนะ หนูกลัวว่าเธอจะทำไม่ดีกับแม่” จนสุดท้ายแล้วพชิราก็อดพูดย้ำกับกันยาอีกรอบไม่ได้

“อืม แม่จะจำไว้” แม้ว่าพชิราจะเป็นคนกำชับเรื่องนี้กับเธอ

แต่จากสิ่งที่สาริศาทำมาทั้งหมด เธอก็ไม่สามารถปฏิบัติตัวดีกับสาริศาได้อีกแล้ว

กันยาเอาแต่ครุ่นคิดว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงมาหลายปี ไม่ได้มองหน้าลูกสาวของตัวเองดี ๆ แบบนี้มานาน

ตอนนี้พชิราอยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว กันยาก็เอาแต่จ้องหน้าพชิรา จ้องอยู่อย่างนั้นไม่หยุด

สายตาคู่นี้ทำให้พชิราตกใจเล็กน้อย พชิราคิดว่ากันยามองอุบายของตัวเองออก ถึงเอาแต่มองแบบนี้

“แม่ มองอะไรคะ” พชิราเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของตัวเอง แสร้งทำเป็นคิดว่าบนใบหน้ามีบางอย่างติดอยู่

แต่ในความเป็นจริงเธอแค่ต้องการซ่อนความรู้สึกอึดอัดของตัวเองเอาไว้

“เพชรผอมลงนะ”

พชิราผอมลงกว่าตอนที่กันยาเจอเธอครั้งสุดท้ายมากจริง ๆ

เพราะหลายเดือนที่เธออยู่ในเวียดนาม เธอไม่ได้ไปเสพสุข

ทีแรกเธออยากจะหาเงินเก็บทรัพย์บางส่วนแล้วกลับมาที่นี่อย่างเฉิดฉาย แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ กลับมาก็ดีเหมือนกัน

เดี๋ยวเธอค่อยวางแผนดี ๆ ว่าควรจะทำยังไงต่อไป

ตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็ถือว่าผ่านไปได้บ้างแล้ว และสาริศาก็ไม่ได้ตามหาเธออีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ