แต่คนตรงหน้ากลับไม่ขานรับพชิรา เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ขอโทษนะคะ คุณคงจะจำผิดคนแล้วล่ะค่ะ”
หลังจากพูดจบ คนคนนั้นก็วางธนบัตรห้าร้อยหยวนไว้บนโต๊ะ แล้วหันตัวเดินจากไป
ทิ้งให้พชิรานั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยความงุนงง
หรือว่าคนเมื่อกี้ไม่ใช่แม่ของเธอเหรอ? ถ้าไม่ใช่ แล้วคนคนนั้นเป็นใคร? ทำไมถึงหน้าเหมือนกันยามากขนาดนั้น?
พชิราครุ่นคิดคำถามนี้ในใจอยู่นาน แต่ไม่ว่าจะคิดนานแค่ไหนก็คิดอะไรไม่ออกอยู่ดี
ทำได้แค่ต้องกลับบ้านไปถามกันยาดูว่าเธอมีพี่สาวหรือน้องสาวฝาแฝดหรือเปล่า
ดูท่าคนคนนั้นจะค่อนข้างรวยมากด้วย ถ้าใช่จริง ๆ อาจจะสามารถช่วยอะไรเธอได้ก็ได้ไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดได้ดังนั้น พชิราจึงกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี
ทางด้านสาริศา เพราะเธออยู่แต่บ้านจนเบื่อเลยไปบอกกับธนพัต
และธนพัตก็รู้ดีว่าสาริศาอยู่แต่บ้านไม่ได้ทำอะไร แน่นอนว่าต้องเบื่ออยู่แล้ว เขาจึงสัญญากับเธอว่าวันมะรืนช่วงหยุดยาวเขาจะพาเธอกับน้องธีร์ไปเที่ยว
เมื่อได้ยินว่าจะออกไปเที่ยว สาริศาก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
สาริศาไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนมานานมากแล้ว ในที่สุดเธอก็สามารถออกไปเดินเล่นได้แล้ว จะไม่ให้เธอมีความสุขได้ยังไง
“ลองว่ามาสิว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน?” ในเมื่อจะออกไปเที่ยวทั้งที ธนพัตจึงตามใจสาริศา
ดูว่าสาริศาอยากจะไปที่ไหน พวกเขาก็จะไปที่นั่น
“ฉันอยากไปแชงกรีล่า” สาริศาไม่รู้ว่าทำไม แต่เธออยากไปชมวิวทิวทัศน์ที่แชงกรีล่า
ตอนนี้เป็นฤดูร้อน แต่ไม่ได้ร้อนมาก ไปที่นั่นน่าจะเหมาะ
หลังจากธนพัตครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็คิดว่าน่าจะไปที่นั่นได้ เขาจึงตอบตกลงโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร
“คุณว่าเราควรจะจองตั๋วกันเมื่อไหร่” ทันทีที่ตัดสินใจ สาริศาก็เริ่มพิจารณาถึงปัญหาพวกนี้ทันที
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวฉันให้ชรัณจัดการ” เมื่อธนพัตเห็นสาริศาเริ่มมีเรื่องให้ยุ่งขึ้นมาบ้างแล้ว เขาก็อดรู้สึกตลกขึ้นมาไม่ได้
สาริศาคงจะเบื่อมานานมากจริง ๆ พอตอนนี้ได้ยินว่าจะออกไปเที่ยวก็เลยดีใจมากเป็นพิเศษ
“อย่าให้ชรัณทำไปเสียทุกอย่างสิ คุณก็ต้องแบ่งให้ฉันบ้าง” สาริศาอยู่บ้านว่าง ๆ ทุกวันจนจะขึ้นราอยู่แล้ว
ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ออกไปเที่ยวทั้งที ธนพัตยังจะฝากเรื่องพวกนี้ให้ชรัณจัดการอีก
แบบนั้นเธอไม่ต้องทำตัวว่างไปอีกตั้งสองสามวันเลยเหรอ?
เมื่อคิดได้ดังนั้น สาริศาก็เริ่มจ้องธนพัตพลางพร่ำบ่นเขา ธนพัตจนปัญญาจนสุดท้ายก็ต้องยอมประนีประนอม
มอบหมายเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ให้สาริศาจัดการทั้งหมด ดูสิว่าสาริศาจะทำออกมาเป็นยังไงบ้าง
และแน่นอนว่าข้อสันนิษฐานแรกก็คือคงให้ชรัณคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ธนพัตตื่นนอนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็เห็นว่าสาริศาลงไปทานอาหารเช้าอยู่ข้างล่างแล้ว
เขาจึงรีบนั่งลงแล้วทานด้วยกันกับสาริศา
หลังจากทานเสร็จอย่างรวดเร็ว ธนพัตก็ต้องรีบไปทำงานที่บริษัท
ปกติเวลาธนพัตไปบริษัทเขาจะต้องพาชรัณไปด้วย แต่เพราะตอนนี้สาริศามีเรื่องที่จะต้องทำ เขาเลยจะให้ชรัณอยู่ที่บ้าน
“ไม่ได้ คุณพาชรัณไปด้วย”
ครั้งนี้สาริศาอยากทำเรื่องนี้ให้สำเร็จจด้วยตัวเอง ใครก็ห้ามยื่นมือเข้ามายุ่งด้วยเด็ดขาด ดังนั้นที่บ้านนี้จึงไม่มีที่ว่างสำหรับชรัณแล้ว
ชรัณอยากจะร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา นี่ไม่มีใครต้องการเขาเลย แล้วแบบนี้เขาควรจะทำยังไงดี?
ในขณะที่ชรัณกำลังสับสนวุ่นวายใจ ก็ได้ยินธนพัตพูดอย่างจนปัญญาว่า “โอเค ฉันจะพาชรัณไปด้วย”
หลังจากพูดจบ ชรัณก็รู้สึกว่าตัวเองยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง
ธนพัตพาชรัณไป ส่วนสาริศาก็อยู่ที่บ้านเพื่อเตรียมของที่จะต้องใช้สำหรับไปท่องเที่ยว
เนื่องจากธีร์ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า ชรัณจึงพาธีร์ไปส่งตั้งแต่เช้าแล้ว ด้วยเหตุนี้บ้านจึงสะอาดสะอ้านและไม่มีเสียงดังรบกวนของธีร์ สาริศาจึงมีสมาธิค่อย ๆ เลือกทุกอย่างด้วยความอดทน
อย่างแรกคือเสื้อผ้าที่ต้องเตรียมไป สาริศาเลือกเสื้อผ้าออกมาสามสี่ชุด แล้วก็หยิบของธนพัต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...