อีกฝั่งหนึ่ง สาริศารู้อารมณ์ของตัวเองตอนนี้ดี ว่าไม่มีทางที่จะสามารถทำงานได้ จึงได้แลกเปลี่ยนการสัมภาษณ์กับพี่จ๊าจ๋า แล้วก็ลางานกลับบ้านไป
เมื่อเรียกรถแท็กซี่กลับไปถึงที่คฤหาสน์ตระกูลกีรติเมธานนท์ สาริศาเดินผ่านประตูเข้ามา จากนั้นถอดรองเท้า แต่รู้สึกเหนื่อยมากจนไม่อยากจะเดินเข้าไป จึงได้นั่งลงตรงที่ประตู แล้วก็เหม่อลอย
ธีภพ คุณนะคุณ……คุณช่างแน่มากจริง ๆ
ทุกครั้งฉันคิดว่าคุณท้าทายถึงขีดจำกัดของฉันแล้ว แต่ว่าคุณกลับดันยังมีวิธีที่โหดร้ายกว่ามาทรมานฉัน
คุณยกฉันให้กับชายอื่นราวกับสิ่งของก็ว่าจะไม่ถือสาแล้ว แต่ครั้งนี้ยังจะใช้เงินมาดูถูกเหยียดหยามฉันด้วยตัวเองเลยหรือ
น้ำตาของสาริศาไหลออกมาจากดวงตาอย่างกลั้นไม่ไหว ทันใดนั้นรู้สึกร่างเบาขึ้น เมื่อรู้สึกตัวอีกที ร่างก็ลอยเคว้งอยู่ในอากาศแล้ว
“อุ้ย” สาริศาตกใจ หันข้างไปมอง ก็เห็นถึงข้างใบหน้าที่หล่อเหลาของธนพัตอย่างเห็นได้ชัด “ธนพัต คุณ……คุณจะทำไมถึงอยู่บ้านล่ะ”
ตอนนี้เพิ่งจะกลางวัน ธนพัตเวลานี้ต้องอยู่บริษัทไม่ใช่เหรอ
“กลับมาเอาของนิดหน่อยน่ะ” ธนพัตกล่าวสั้น ๆ สายตาตกกระทบไปที่ดวงตาแดงก่ำของสาริศา แววตาหม่นเล็กน้อย “คุณล่ะ ทำไมกลับมาเช้าอย่างนี้”
“วันนี้ไม่มีสัมภาษณ์ ก็เลยกลับมาก่อน……” สาริศาหลีกเลี่ยงพูดถึงประเด็นสำคัญ ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าธนพัตกำลังยืนอยู่ แล้วยังอุ้มตัวเองไว้ด้วย แก้มจึงแดงก่ำขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ “เอ่อคือ…...คุณปล่อยฉันลงก่อนนะ……ถ้ามีคนเห็นเข้าจะไม่ดี……”
“ในบ้านไม่มีคน” ธนพัตกล่าวเบา ๆ อุ้มสาริศาหันหลังแล้วเข้าบ้านไป “นั่งอยู่บนพื้นมันเย็น ต่อไปไม่ต้องนั่งแล้วนะ”
ธนพัตอุ้มสาริศามาวางลงที่โซฟาในห้องรับแขก จากนั้นกล่าวเบาอีกครั้ง “ทานข้าวหรือยัง”
สาริศาตอนนี้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองถูกธีภพทำให้โมโหจนลืมทานข้าว จึงได้ส่ายหน้า “แล้วคุณล่ะ”
“ยังไม่มีเวลาทานเลย”
“อย่างนั้นฉันไปทำอาหารให้คุณทานนะ” ในเมื่อป้าแหวนไม่อยู่ เรื่องทำอาหารก็ย่อมตกมาเป็นหน้าที่ของเธอในฐานะภรรยา แต่เมื่อจะลุกขึ้น ฉับพลันก็ตระหนักถึงอะไรบางอย่าง จึงกล่าวด้วยความเก้อเขิน “คือ……ฉันทำข้าวผัดอาหารง่าย ๆ ได้ไหม”
เธอรู้ว่าธนพัตพิถีพิถันเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างมาก เวลาทานอาหาร ถึงแม้อาหารที่ป้าแหวนเตรียมไว้จะไม่ใช่อาหารเลิศหรูอันโอชะ แต่ก็เป็นอาหารที่ประณีตสีสันสวยงาม และแต่ละมื้อก็จะวางอยู่บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทำออกมาได้
ธนพัตมองท่าทางสาริศาที่ประหม่าเล็กน้อย แล้วรู้สึกว่าค่อนข้างน่ารัก จึงเม้นริมฝีปากจากนั้นกล่าว “ได้”
สาริศาถึงได้โล่งใจ แล้ววางกระเป๋าตัวเองกับโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นเดินไปยังห้องครัว
สาริศาที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว โทรศัพท์ของเธอที่อยู่ด้านนอกได้ดัง “ตื๊ด” ขึ้นหนึ่งครั้ง เป็นเสียงข้อความเข้า
สาริศาที่กำลังผัดข้าวผัด ปลีกตัวมาไม่ได้ และกังวลว่าจะเป็นคนในบริษัทถามถึงเรื่องสำคัญ เธอจึงได้ตะโกนขึ้นจากห้องครัว “ธนพัต รบกวนคุณช่วยดูให้หน่อยได้ไหมว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา”
ธนพัตที่เดิมทีกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ได้ยินดังนั้น จึงก้มไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา
โทรศัพท์ของสาริศาจะเป็นประเภทที่แสดงข้อความและผู้ส่งข้อความบนหน้าจอเมื่อไม่ได้ปลดล็อก
ด้วยเหตุนี้ธนพัตจึงสามารถมองเห็นชื่อที่ทำให้เขารู้สึกตาลุกวาวทันที——
ธีภพ
ที่สะดุดตาไปกว่านั้น คือเนื้อหาข้อความด้านล่าง——
【ริศา ถ้าหากคุณแม่ของคุณต้องการค่ารักษาพยาบาลจริง ๆ ผมให้คุณยืม】
ธนพัตกำหนังสือพิมพ์ในมือไว้แน่น
ริศา?
หึ
เรียกได้สนิทสนมกันมาก
อีกทั้ง ทำไมธีภพถึงรู้ว่าคุณแม่ของสาริศาต้องการค่ารักษาพยาบาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...