อ่านสรุป บทที่ 523 ไฟลุกโชนอีกครั้ง จาก หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต
บทที่ บทที่ 523 ไฟลุกโชนอีกครั้ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ช็อคโกแลต อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
แต่คำพูดนี้มีประโยชน์มากสำหรับธนพัต เขายื่นมือไปลูบศีรษะของธีร์
“ขอบคุณนะริศา ขอบคุณนะน้องธีร์” ธนพัตจับมือของทั้งสองแสดงความขอบคุณ ขอบคุณที่ตัวเองยังมีพวกเขาอยู่ด้วย
จริงๆ แล้ว บริษัทถูกสร้างขึ้นด้วยตัวเขาเองเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
จะไม่ให้ธนพัตตื่นตระหนกได้อย่างไร
แต่โชคดีที่ตอนนี้มีสาริศากับธีร์อยู่เคียงข้างเขา จึงสามารถปลอบโยนให้ตัวเองสบายใจขึ้นได้บ้าง
แบบนี้เขาถึงสามารถรู้สึกได้ว่ายังมีคนรอบข้างคอยสนับสนุนตัวเอง ให้แรงกำลังแก่เขา
“ริศา ขอโทษนะ ครั้งนี้อุตส่าห์พาคุณมา...”
ธนพัตพูดอย่างรู้สึกผิด ครั้งนี้เพราะสาริศาเบื่อการอยู่บ้าน ดังนั้นตัวเองจึงตกลงที่จะพาเธอออกมาเที่ยว
แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกลายเป็นแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ธนพัตไม่ได้คาดคิดไว้เลย
ธนพัตกลัวว่าสาริศาจะไม่มีความสุข ดังนั้นเขาจึงขอโทษเธอ
แต่ธนพัตไม่รู้ว่าที่จริงแล้วตอนนี้ความคิดของสาริศาอยู่ที่ตัวเขา ไม่มีความคิดเรื่องเดินทางท่องเที่ยวอยู่เลย
เมื่อฟังคำพูดของธนพัต สาริศาก็พูดกับธนพัตอย่างโกรธๆ “ตอนนี้เวลาไหนแล้ว จะยังคิดเรื่องเดินทางท่องเที่ยวได้ยังไง ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ ไม่ใช่คนนอก ตอนนี้บริษัทเกิดเรื่อง ฉันควรเป็นผู้นำบริษัท จะเป็นอย่างที่คุณพูดได้ยังไง ที่ไปโทษคุณว่าไม่พาฉันไปเที่ยวดีๆ น่ะ”
สาริศาพูดประโยคนี้จบ ครั้งนี้ธนพัตจึงได้สติชัดเจน
เมื่อครู่ที่ได้ยินข่าวจากบริษัทเขาทำอะไรไม่ถูกจริงๆ แต่ตอนนี้สาริศาดุเขาจนได้สติแล้ว
ให้เขารู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ว่าตัวเองมีภรรยาและลูกชายที่ดี
และเขายังต้องต่อสู้เพื่อพวกเขาสองคน จะทนนิ่งเฉยมองดูบริษัทล้มได้อย่างไร
ทันทีที่คิดถึงจุดนี้ ธนพัตก็นิ่งเงียบ คิดในใจว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร
ไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พวกเขาพัก ไม่มีเวลาให้พวกเขาได้อ้อยอิ่ง รีบเร่งเก็บของแล้วเช็คเอ้าท์ห้องออกไป
ธีร์เดินข้างสาริศาและช่วยถือกระเป๋าใบเล็ก
ธนพัตรีบไปสอบถามว่ายังมีเที่ยวบินกลับหรือไม่ โชคดีที่ยังมีตั๋วอยู่ จึงซื้อตั๋วทันทีและขึ้นเครื่องในอีก3ชั่วโมงต่อมา
นั่งบนเครื่องบิน ธนพัตเข้าสู่โลกของตัวเอง สมองเริ่มคิดถึงสถานการณ์ของบริษัททีละน้อย
คิดว่าบริษัทของตัวเองมีปัญหาที่ตรงไหน จนนำไปสู่สถานการณ์ปัจจุบัน
ประสบการณ์ที่ผ่านมาของบริษัทรวมทั้งข้อมูลและบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลทั้งหมดเป็นรูปแบบไอคอน ถูกสร้างขึ้นในสมองของธนพัต
สาริศารู้ว่าที่ธนพัตไม่พูดในเวลานี้นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ จึงไม่เข้าไปยุ่ง
เพียงอุ้มธีร์เอาไว้พลางหลับตาพักผ่อนอยู่ข้างๆ
ตอนนี้สาริศาไม่เข้าใจสถานการณ์ของบริษัท แต่ถึงจะเข้าใจก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้คืออยู่เคียงข้างธนพัตอย่างว่าง่าย ช่วยเหลือธนพัตในเวลาที่เขาเหนื่อยและรู้สึกไม่สบายใจ
เธอคิดว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ และเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ดีมากด้วย
เครื่องบินที่พวกเขานั่งเหมือนจะรับรู้ความกังวลที่อยู่ในใจของธนพัตได้ จึงบินรวดเร็วมากผิดปกติ
นี่ทำให้สาริศากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย รู้สึกประทับใจกับเครื่องบินลำนี้
เวลาผ่านไปหนึ่งวัน และแล้วพวกเขาก็มาถึงเมืองที่อาศัยอยู่ สาริศานำธนพัตกับธีร์ลงจากเครื่องบิน
ทันทีที่เดินไปถึงห้องรอของสนามบิน ก็เห็นชรัณรีบร้อนเดินเข้ามา
ทางแยกข้างหน้านำไปสู่สถานที่สองแห่งคือบริษัทหรือบ้าน
ธนพัตมองสาริศากับธีร์ที่อยู่ข้างๆ สาริศาแสดงสีหน้าว่าตัวเองไหว
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าไม่ไปเห็นบริษัทด้วยตัวเอง การจัดการอย่างสุ่มสี่สุ่มห้ามันไม่ง่ายเลย
“ปะป๊าครับผมก็ไปบริษัทได้” ธีร์ก็อยากรู้เรื่องบริษัท ดังนั้นการไปที่บริษัทจึงเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องตกลง
“งั้นโอเค พากเราไปบริษัทกัน” ธนพัตเห็นว่าทั้งสองคนไม่มีปัญหาอะไร เลยสั่งให้ไปที่บริษัท
เขาต้องเริ่มจัดการเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ ยิ่งยืดเยื้อไปนานเท่าไร ความเสียหายจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อคนขับขับรถถึงบริษัท เห็นผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้าประตูบริษัท เรียกร้องให้TNP Groupชดใช้เงิน
บางคนถึงขั้นถือป้ายแดงที่มีข้อความเขียนอยู่
“TPNหลอกลวงคน โกงนักลงทุน รีบชดใช้เงินมาเลย”
“TPNไร้ความสามารถ เป็นขยะเน่าเสีย”
“………”
เห็นป้ายพวกนี้แล้วสาริศาก็พลันขมวดคิ้วอย่างหมดหนทางมองดูสถานการณ์
ตามสถานการณ์ที่ดำเนินไปในปัจจุบัน น่าจะไม่นานนักก่อนที่จะนักข่าวเข้ามา จากนั้นTPNจะเข้าสู่ “วิกฤติที่สอง”
ไฟลุกโชนอีกครั้งแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...