หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 525

สรุปบท บทที่ 525 ทำให้คุณคับข้องใจแล้ว: หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอน บทที่ 525 ทำให้คุณคับข้องใจแล้ว จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 525 ทำให้คุณคับข้องใจแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

สำหรับพนักงานประเภทที่ลาออกไปทันทีที่บริษัทเกิดปัญหา แม้จะมีความสามารถ แต่ไม่มีใจให้บริษัทของตัวเอง คนแบบนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์

ตัดพวกเขาออกจากเส้นทางของบริษัทไปแต่เนิ่นๆ เป็นการดีที่สุด ขณะที่หลีกเลี่ยงหายนะยังสามารถเชือดไก่ให้ลิงดูได้ด้วย

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจธนพัตก็ผ่อนคลายขึ้นมาก มองไปยังทุกคนที่อยู่ตรงหน้าแล้วบอกเรื่องสำคัญบางอย่าง ให้ทุกคนรีบดำเนินการต่อไป ก่อนจะเลิกประชุม

หลังจากฟังเสียงเห็นว่าทุกคนออกไปกันหมดแล้ว สาริศาจึงออกมาจากห้องนอนเล็กพร้อมกับธีร์

“ขอโทษที่ทำให้คุณลำบากไปด้วย” ธนพัตมองสาริศาอย่างขอโทษ สถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทตัวเองไม่เหมาะสม เขานั้นเพื่อจัดการกับปัญหาในบริษัท จึงไม่สามารถให้สาริศาปรากฏตัวต่อหน้าหัวหน้าแผนกต่างๆ ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามน้ำลาย

“ไม่เป็นไร เราเป็นสามีภรรยากัน ควรร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน”

ก้าวเข้าไปคลายคิ้วที่ขมวดของธนพัตให้เรียบ จากนั้นจึงเปลี่ยนมาช่วยนวดขมับให้เขา

หัวหน้าแผนกบุคคลมาส่งเอกสารของผู้ลาออก บังเอิญกลับมาเคาะประตูห้องของธนพัตในเวลานี้

หลังจากหัวหน้าฝ่ายบุคลลได้รับอนุญาต จึงได้เห็นสถานการณ์ดังกล่าว

หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนวดขมับธนพัต เด็กน้อยคนหนึ่งกำลังจับมือของธนพัต

หัวหน้าแผนกบุคคลก็เป็นผู้ซึ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน เรื่องแบบนี้จะมองอย่างสนอกสนใจหรือพูดมากได้อย่างไร

หลังจากที่หัวหน้าแผนกบุคคลส่งแฟ้มบุคลากรเสร็จแล้วก็ออกจากห้องไปเงียบๆ และยังปิดประตูห้องให้ด้วย

“พบปมของปัญหาแล้วเหรอ” สาริศาอยู่ข้างๆ ช่วยนวดขมับให้ธนพัต และมองเขาพร้อมกับพูดด้วย

“ยังไม่พบ ปัญหาในตอนนี้แม้แต่มันเป็นปัญหาอะไรยังไม่รู้เลย มันจึงยิ่งยุ่งยาก”

ธนพัตก็รู้สึกหมดหนทางกับIQของตัวเอง คนที่มักจะฉลาดมากแต่ตอนนี้ยังไม่พบปัญหาครั้งนี้ของบริษัทเลย แม้แต่ทิศทางหลักก็ยังตรวจจับไม่ได้

“ปะป๊าไม่ต้องกังวลนะครับ ที่จริงแล้วบางครั้งสถานการณ์ของบริษัทบางแห่ง แม้แต่เจ้าของก็ไม่รู้ชัดเจนเลยครับ” จู่ๆ ธีร์ก็พูดขึ้นมาราวกับคิดอะไรได้

“ทำไมน้องธีร์พูดอย่างนั้นล่ะ” ธนพัตรู้สึกว่าในคำพูดของธีร์ทำให้เหมือนมีบางสิ่งแวบเข้ามาในสมอง แต่เขายังไม่เข้าใจ

“จุดนี้เหมือนตอนพวกผมอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลครับ มีคนทำดีแต่ถ้านักเรียนไม่พูด พวกครูและครูใหญ่ก็จะไม่รู้ครับ”

ไม่เพียงบริษัทและโรงเรียนเท่านั้น มันเป็นหลักเหตุผลของหลายๆ สถานที่

แต่ทำไมธนพัตถึงคิดไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ธนพัตจึงสั่งชรัณที่อยู่ใกล้ๆ

“สั่งไปทุกแผนก ให้เหล่าพนักงานในแผนกต่างๆ รายงานสาเหตุของข้อผิดพลาดและข้อบกพร่องล่าสุดของบริษัท และทำเอกสารรายงานโดยละเอียด ฉันต้องการเอกสารที่เป็นกระดาษ ไม่รับวิธีการประมวลผลที่เป็นไฟล์งานอิเล็กทรอนิกส์หรืออื่นๆ” ตอนนี้ธนพัตมองธีร์เหมือนมองสมบัติล้ำค่า เต็มไปด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

ลูกชายคิดในสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาเองยังคิดไม่ได้ เป็นเรื่องน่าตกใจจริงๆ

แม้ว่าธีร์จะค้นพบจากเหตุการณ์เล็กๆ ในโรงเรียนอนุบาล แต่คำพูดนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าทุกอย่างล้วนเป็นหลักเหตุผลนี้ไม่ใช่เหรอ

ทฤษฎีนี้สามารถใช้ได้ทั้งบ้านและประเทศชาติ

“ลุงชรัณครับ ในส่วนนี้ ใครที่จริงจังต่อการประเมินของบริษัท หลังจากปัญหาของบริษัทผ่านไป จะได้เลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนครับ”

ขณะที่ชรัณตั้งใจจะออกไปสั่งงาน ธีร์ก็เรียกชรัณและพูดอย่างนั้น

ตอนนี้พนักงานของบริษัทส่วนใหญ่มีเวลาจัดการ หากเพิ่มการเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนพวกเขาจะเขียนได้ดีอย่างแน่นอน

ธีร์คิดถึงจุดนี้ แล้วมุมปากก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์

แต่มันก็ถูกต้อง ตอนนี้บริษัทเป็นแบบนี้แล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะด่าธนพัตอย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้รับก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการถูกไล่ออก

พวกเขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ธีร์วิ่งไปดูเอกสารที่พวกเขาเขียนพร้อมกับธนพัตและสาริศา แม้ว่าธีร์จะไม่รู้จักคำศัพท์มากมาย แต่ธนพัตก็อ่านออกเสียงในเนื้อหาของเอกสาร

มีจุดประสงค์เพื่อให้คนที่ไม่รู้คำศัพท์อย่างธีร์ฟัง

พวกธนพัตดูความคิดเห็นเชิงลบของบริษัทด้วยสีหน้าเซ็งอธิบายไม่ถูก

“ห้ามโทรหาแฟนในที่ทำงาน แย่มาก ห้ามรับพัสดุในที่ทำงาน แย่มาก ห้ามช้อปปิ้งเว็บช้อปปี้ในที่ทำงาน แย่มาก”

“ห้ามเข้าห้องน้ำนานเกินไปในเวลางาน แย่มาก ประธานบริษัทหล่อเกินไปทำให้พนักงานบริษัทหญิงซุบซิบนินทากันทุกวัน แย่มาก”

“ประธานบริษัทมีภรรยาแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ไม่อยากทำงาน”

“……….”

ธนพัตอ่านใบประเมินกองใหญ่ แล้วไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

สิ่งเหล่านี้ตนไม่ใช่คนกำหนด แต่เป็นหัวหน้าแผนกต่างๆ

และธนพัตไม่เห็นสิ่งที่มันมากพอจะทำให้พวกเขาบ่น

ธนพัตก้มหน้าอ่านข้อความของพวกเขาต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหตุผลที่พูดไม่ออก

เมื่อธนพัตตัดสินใจที่จะไม่อ่าน สายตาก็หันไปเห็นเอกสารที่เขียนข้อมูลมากกว่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ