หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 537

สรุปบท บทที่ 537 ไม่เคยมีความรักมาก่อน: หวานเย็น กรุ่นใจ

สรุปตอน บทที่ 537 ไม่เคยมีความรักมาก่อน – จากเรื่อง หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต

ตอน บทที่ 537 ไม่เคยมีความรักมาก่อน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หวานเย็น กรุ่นใจ โดยนักเขียน ช็อคโกแลต เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ใช่ ฉันชอบคุณ ตั้งแต่ที่คุณขอให้ฉันช่วยคุณสาริศานวดขมับ ฉันก็ชอบคุณแล้ว”

เมื่อตะกี้ตอนที่ชรัณถามว่าเธอชอบเขาใช่ไหม คำพูดสารภาพรักของมะเหมี่ยว ทำให้หัวใจของ ชรัณเต้นแรงไม่หยุด

ชรัณไม่เคยมีความรักมาก่อน อีกทั้งท่าทางเย็นชาของเขา ไม่ทำให้ผู้หญิงตกใจกลัวจนถอยหนีก็ดีมากเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้กลับมีคนชอบตนเอง

ชรัณนิ่งคิด ก่อนที่จะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขา

“คุณลุงชรัณ ยิ้มเรื่องอะไรเหรอครับ!” พอธีร์เห็นชรัณดูมีความสุขมากเป็นครั้งแรก ธีร์ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย

ในความทรงจำของธีร์ ชรัณมีท่าทางเย็นชามาตลอด ไม่ค่อยเห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขเหมือนวันนี้สักครั้ง

 “คุณหนู ไม่มีอะไรครับ หนูรีบทานข้าวเถอะครับ ทานเสร็จผมจะพาไปส่งที่โรงเรียน”

จะบ้าเหรอ ชรัณจะเล่าเรื่องของเขาให้ธีร์ฟังได้ยังไง ถ้าเขาพูดออกไป ก็จะกลายเป็นว่าเขาสอนเด็กในทางไม่ดี

ธีร์เบ้ปาก แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ

ในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล ธนพัตกับสาริศายังคงนอนอยู่เหมือนเดิม

“ริศา ครั้งนี้ลำบากคุณแล้ว” ธนพัตรู้ว่าที่เขาสามารถออกมาได้ในครั้งนี้ เป็นเพราะสาริศา

ถ้าไม่มีสาริศา เขาจะออกมาได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเป็นสามีของฉัน ฉันจะช่วยคุณออกมาได้ยังไง” สาริศายกยิ้ม แล้วมองเพดาน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“คุณบอกว่าผมเป็นอะไรกับคุณนะ?” ธนพัตจับจุดสำคัญในคำพูดของสาริศา แล้วมองไปที่ สาริศา อยากให้เธอพูดคำนั้นออกมาอีกครั้ง

“อะไรคะ!?” สาริศาแกล้งทำหน้าไม่เข้าใจ และมองธนพัตเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“ก็สองคำนั้นไง” ธนพัตมองไปที่สาริศา ในสายตาเหมือนจะเตือนสาริศา ว่าถ้าเธอยังไม่พูดอีก เธอต้องแย่แน่ๆ

สาริศาจนใจ ได้เพียงเอ่ยพูดออกไป “สามี”

ทันทีที่พูดออกมา ธนพัตก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เขากอดสาริศาไว้แน่น

ตั้งแต่สาริศากับธนพัตคืนดีกัน แต่น้อยครั้งที่สาริศาจะเรียกตัวเองแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอเรียกมันออกมา ทำให้ธนพัตรู้สึกหาได้ยากมากที่จะได้ยินแบบนี้

 “ฮ่าฮ่า เอาล่ะ ไม่ล้อเล่นแล้ว มาคุยเรื่องสำคัญกันเถอะ” สาริศานึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ

ถึงแม้ธนพัตจะออกมาได้แล้ว แต่กิจการของบริษัทยังไม่ได้รับการแก้ไข ทุกอย่างยังไม่ได้รับบทสรุป

ธนพัตเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน จึงเริ่มตั้งใจฟังในสิ่งที่สาริศากำลังจะพูด

“ตอนนี้พวกเรามั่นใจแล้วว่าทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่เป็นฝีมือของพชิรา พวกเรามีหลักฐาน ฉันให้ชรัณไปค้นหาพชิราที่บ้านพักคนชรา แต่หาเธอไม่เจอ ฉันเชื่อว่าพชิรา จะต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน”

สาริศาพูดอย่างมั่นใจ นี่เป็นครั้งแรกที่สาริศามีสีหน้าจริงจังกับเรื่องที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์

“อืม” ธนพัตคิดตาม และรู้สึกว่าที่สาริศาพูดมาก็มีเหตุผล จึงส่งสัญญาณให้สาริศาพูดต่อไป

“แต่เรื่องตามหาพชิรา ตอนนี้มีตำรวจรับหน้าที่แล้ว แต่เรื่องบริษัทเราคงต้องจัดการด้วยตัวเอง” สาริศาวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันให้ธนพัตฟัง ส่วนธนพัตก็ฟังอย่างตั้งใจ

ที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้ธนพัตเองก็รู้ แต่ว่าวันนี้เขาเพิ่งออกมา ไม่อยากให้ปัญหาพวกนี้มากวนใจสาริศา ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร

 “อืม” ธนพัตยังคงตอบรับคำพูดของสาริศาต่อไป

 “ดังนั้น พรุ่งนี้ฉันจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล แล้วไปช่วยคุณแก้ปัญหาของบริษัท”

 หลังจากฟังคำพูดของสาริศา ธนพัตก็รีบปฏิเสธ “ไม่ต้องครับ”

 “ทำไมคะ?”

 “ตอนนี้คุณยังไม่หายดี”

ทั้งสองบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่มีความรู้สึกไม่ลงรอยกันเลยสักนิด

“คุณคิดว่ายังไงล่ะ ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันว่าวันนี้คุณจะออกจากโรงพยาบาลกันแล้ว ถ้าคุณไปแล้วฉันจะทำยังไงล่ะ”

มะเหมี่ยวเพิ่งจะรู้ตอนที่เธอไปหาชรัณที่ห้องพักผู้ป่วย ว่าเมื่อเช้าวันนี้สาริศาทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว

หลังจากรู้เรื่องนี้ มะเหมี่ยวก็รีบวิ่งไล่ตามออกมา โชคดีที่ชรัณยังไม่จากไป ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาชรัณได้ที่ไหนแล้ว

“เจ้านายของผมหายดีแล้ว ก็ต้องกลับสิคุณ” ชรัณมองไปทางมะเหมี่ยวที่กำลังโกรธตรงหน้าและคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลแล้ว ทำไมพอออกจากปากของมะเหมี่ยวถึงฟังดูเหมือนเขาเป็นคนไม่ดี

“แล้ว…แล้วจากนี้ไปฉันจะติดต่อคุณได้ยังไงกัน”

พอมะเหมี่ยวได้ยินคำพูดของชรัณ มะเหมี่ยวก็ดูไม่สดใสเหมือนเดิม แล้วมองไปที่ชรัณด้วยท่าทางน้อยอกน้อยใจ ทำให้ชรัณรู้สึกสงสารเล็กน้อย แล้วเอื้อมมือออกไปคิดจะลูบหลังมะเหมี่ยว เพื่อเป็นการปลอบโยน

แต่รู้สึกว่าชายหญิงไม่ควรจะถูกเนื้อต้องตัวกัน ชรัณจึงทำได้แค่ยืนมอง โดยหวังว่าเธออย่าร้องไห้เลย

มะเหมี่ยวที่แสร้งทำเป็นจะร้องไห้ พอเห็นว่าชรัณยังคงไม่ปลอบโยนตัวเอง จึงอดที่จะรู้สึกว่าชรัณนี่ช่างซื่อบื้อจริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“คุณไม่รู้วิธีปลอบโยนคนเลยหรือไงกัน” มะเหมี่ยวมองชรัณและรู้สึกเหนื่อยใจมาก

หรือว่าการคบกับผู้ชายที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักจะน่าเบื่อขนาดนี้ทุกคน?

มะเหมี่ยวนิ่งคิดอยู่สักพัก แต่ก็ยังรู้สึกว่าหาคนที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านความรักคบหา ก็ยังดีกว่าที่จะหาหนุ่มเพลย์บอยที่มีประสบการณ์ในความรัก

“เอ่อ ผมยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ เจ้านายผมยังรอผมอยู่ที่รถ” ชรัณมองไปทางมะเหมี่ยวที่กำลังทำหน้าออดอ้อนอยู่ตรงหน้า และคิดว่าสาริศายังคงรอเขาอยู่ในรถ เขาจึงทำได้เพียงทิ้งมะเหมี่ยว แล้วไปหาสาริศา

“นี่คุณ” มะเหมี่ยวมองชรัณเดินไปที่รถ และเข้าไปนั่งในรถโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองตัวเอง

เธอเสียใจแต่พูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไงตอนนี้ชรัณก็ยังไม่ใช่แฟนของเขา เธอไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับชีวิตของเขามากนัก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ