ตอน บทที่ 540 ยิ่งทรมาน จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 540 ยิ่งทรมาน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พอได้ยินคำพูดของมะเหมี่ยว สาริศาที่รู้สึกผิดอยู่แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
ชรัณได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ และตอนนี้ก็ยังถูกคนอื่นพูดแบบนี้อีก
ทำให้สาริศารู้สึกว่าตัวเองมีความผิดที่หนักหนามาก แต่สาริศาไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องนี้ได้
เพราะเธอได้ปรึกษากับธนพัตแล้ว ว่ารอชรัณหายดี เธอจะมอบอิสรภาพให้เขา และจะไม่ให้ชรัณทำงานบอดี้การ์ดปกป้องพวกเธออีกแล้ว
และจะไม่ให้ชรัณทำหน้าที่บอดี้การ์ดของพวกเขาอีก
“ตอนนี้อิสรภาพของชรัณไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้วค่ะ” ในตอนแรกธนพัตอยากจะอธิบายให้มะเหมี่ยวฟัง แต่สาริศาเป็นห่วงว่าท่าทีของธนพัตจะทำให้มะเหมี่ยวโมโหขึ้นมาอีก
ดังนั้นสาริศาจึงขอเป็นคนอธิบายให้มะเหมี่ยวได้เข้าใจเอง
เพราะยังไงระหว่างผู้หญิงด้วยกันจะพูดกันเข้าใจง่ายกว่า และเรื่องบางเรื่องทุกคนต่างก็เข้าใจดี
“ตกลง นี่คือสิ่งที่คุณพูดเองนะคะ รบกวนจำในสิ่งที่คุณพูดด้วย” มะเหมี่ยวฟังสาริศาพูดจนจบ และคิดว่าจากนี้ไปชรัณไม่ต้องไปลำบากกับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว และสามารถมาอยู่เคียงข้างเธอได้
พอมะเหมี่ยวคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
การได้อยู่กับคนที่เรารักเป็นเรื่องที่มีความสุขเอามากๆ เลย
และแน่นอน ถ้าชรัณเองก็ชอบเธอด้วยยิ่งดี
แต่ว่ามะเหมี่ยวมีความสามารถพอที่จะทำให้ชรัณชอบเธอ ที่เหลือก็แค่เรื่องของเวลาเท่านั้นเอง
“ในเมื่อชรัณไม่เป็นอะไรแล้ว เราจะไปช่วยชรัณทำเรื่องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยกลับนะคะ”
สาริศามองไปทางมะเหมี่ยวที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ชรัณ แล้วคิดว่าตอนนี้ชรัณไม่ต้องการพวกเธอเฝ้าอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นที่บริษัทยังมีอีกหลายเรื่องรอให้พวกเขาไปจัดการ
ธนพัตพยักหน้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของสาริศา ก่อนจะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปพร้อมกับสาริศา
สาริศาทำเรื่องเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาดูที่ห้องพักผู้ป่วย แล้วเห็นมะเหมี่ยวคอยเฝ้าดูแลชรัณอย่างใกล้ชิดเธอก็รู้สึกสบายใจ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” หลังจากเคาะประตูสามครั้งแล้วเปิดประตูเข้ามา มะเหมี่ยวหันมาเห็นสาริศาจึงเดินออกมา
ความประทับใจประทับใจที่มะเหมี่ยวมีต่อสาริศาค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากชรัณที่ดีกับสาริศามาก ตามคำบอกที่ว่าถ้าจะรักใครต้องรักคนที่เขารักด้วย
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” มะเหมี่ยวเห็นว่าสาริศาเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่กล้าพูด เธอจึงเอ่ยปากถามก่อน
“คุณช่วยอยู่ดูแลชรัณที่นี่ด้วยนะคะ ที่บริษัทยังมีเรื่องด่วนที่พวกเราต้องไปจัดการ พวกเราคงต้องกลับไปก่อน ถ้ามีอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
สาริศาสบตากับมะเหมี่ยว แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
มะเหมี่ยวฟังสาริศาพูด และมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการจะทำอยู่แล้ว จึงรีบพยักหน้ารับปาก
“นี่เป็นนามบัตรของฉันนะคะ ในนี้มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของฉันอยู่ ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรมาหาฉันได้ตลอด” สาริศายื่นนามบัตรตอนที่เธอทำงานในสำนักพิมพ์ให้ แล้วมองไปที่ มะเหมี่ยวเหมือนรอคำตอบจากอีกฝ่าย
หลังจากที่เห็น มะเหมี่ยวพยักหน้าให้ สาริศาก็จับมือธนพัตเดินจากไป
ภายในรถ สาริศาเอ่ยถามธนพัต
“สถานการณ์ของบริษัทร้ายแรงมากเลยเหรอคะ” สาริศามองใบหน้าที่เคร่งขรึมของธนพัต แล้วพอจะเดาได้ว่าในตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทบ้าง
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สาริศาเอาแต่คิดหาวิธีช่วยธนพัตออกมา แต่กลับเพิกเฉยต่อเรื่องของบริษัทไปโดยสิ้นเชิง
แต่เรื่องนี้จะโทษสาริศาไม่ได้ สาริศาเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จึงไม่สามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้เพียงคนเดียว
โดยเฉพาะสถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้ เรื่องที่ทำให้ธนพัตต้องปวดหัวมากที่สุด แน่นอนว่าสาริศาไม่เข้าใจ
ดังนั้นเรื่องที่สาริศาพอจะทำได้ในตอนนี้ คือสนับสนุนธนพัตอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ
“คุณพ่อคุณแม่” พอธีร์เห็นว่าคนที่มารับคือพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลามารับเขาที่โรงเรียน จึงดีใจมาก
เพราะปัญหาที่บริษัทในช่วงนี้ ทำให้พวกเขาแทบไม่มีเวลามาดูแลธีร์เลย
ถึงแม้ธีร์จะน้อยใจบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยโกรธทั้งสองคนเลย เพราะธีร์รู้ว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อบริษัทอยู่เช่นกัน
“สวัสดีครับ” ธนพัตตอบกลับธีร์อย่างมีความสุข
ธนพัตที่ทำหน้าเคร่งขรึมก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับมียิ้มออกมาทันทีที่เขาเห็นธีร์
บางทีนี่คงเป็นสิ่งที่เขาเรียกว่าความรักของผู้เป็นพ่อสินะ
สาริศาได้เห็นสองพ่อลูกที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกมีความสุขมาก
ตั้งแต่ที่บริษัทเกิดปัญหาขึ้นมา ครอบครัวของพวกเธอก็ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเท่าไหร่
“รอเดี๋ยวก่อน” ในขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนาน สีหน้าของธนพัตก็เย็นชาขึ้นมา
ธนพัตเพิ่งจะสังเกตได้ว่ามีเงาคนโผล่ออกมาทางหลังคา
ธนพัตสงสัยว่าคนพวกนั้นจะมาทำอันตรายต่อธีร์ ลูกชายของพวกเขา แต่พอเห็นว่าเขาอยู่ที่นี่จึงไม่กล้าลงมือ
ธนพัตหวาดกลัวมาก และคิดว่าธีร์คงไม่สามารถมาโรงเรียนได้อีกต่อไปแล้ว เขาต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน จนกว่าเขาจะจัดการปัญหาที่บริษัทให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะกลับไปเรียนต่อได้
ธนพัตบอกเรื่องนี้กับสาริศา ส่วนสาริศาเองก็เห็นด้วย ทั้งสองคนจึงไปขอลาหยุดกับทางโรงเรียน ก่อนจะพากันกลับบ้านไป
ระหว่างทางกลับบ้าน ถึงแม้ธีร์จะยังยิ้มและหัวเราะอยู่ แต่สาริศารู้ว่าธีร์อยากไปโรงเรียนมากมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับต้องให้ธีร์ลาหยุดอยู่ที่บ้าน ในใจเขาคงไม่มีความสุขอยู่บ้าง
“น้องธีร์ ฟังแม่นะลูก ตอนนี้เพราะปัญหาที่บริษัท ทำให้มีคนไม่ดีคิดจะทำร้ายพวกเรา ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยลูกต้องอยู่ที่บ้านไปก่อนนะจ๊ะ”
สาริศาพูดกับธีร์ด้วยสีหน้าจริงจัง และหวังว่าธีร์จะเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาทำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...