ธีร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเลี่ยงออก
ธีร์ไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมาโดนตัว แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผอ.ก็ตาม
ตอนนี้ผอ.รู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่ได้สังเกตการณ์กระทำเล็กๆ น้อยๆ ของธีร์
เธอมองธีร์ด้วยความตื่นเต้นแล้วพุดว่า "เด็กน้อย หนูจะเป็นดาวดวงใหม่ในอนาคตเลยนะ"
ธีร์มองดูผอ.ที่ตื่นเต้นอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเธอไม่ได้พูดถึงตัวเองซะอย่างนั้น ธนพัตพยักหน้า
ดีมาก ไม่หยิ่งไม่ใจร้อน สมเป็นลูกของธนพัต
สาริศาตกใจในตอนแรก แล้วค่อยๆ ยอมรับได้
ตอนที่ธีร์เป็นเด็กก็ทำให้คนประหลาดใจแบบนี้อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าความประหลาดใจในตอนนี้จะมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ แต่ว่าหัวใจของสาริศาก็ถูกธีร์ฝึกมาอย่างดี
“ผอ.คะ ถ้าอย่างนั้นธีร์ก็สามารถจบการศึกษาได้แล้วใช่ไหมคะ” สาริศารู้สึกว่ายังไงซะธีร์ก็มีความรู้ถึงระดับนี้แล้ว ก็ควรจบการศึกษาเร็ว
ไม่งั้นถ้าเรียนต่อไป ก็เหมือนว่าไม่เห็นค่าของเขา แถมยังเสียเวลา
“โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปทำเอกสารการจบการศึกษาให้” หลังจากที่ผอ.รีบไปทำเอกสารจบการศึกษาให้ธีร์ พวกเขาก็รับมาแล้วจะจากไป
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“อะไรหรือคะ”
พวกเขาถูกผอ.เรียกให้หยุด แต่ไม่รู้ว่าผอ.มีอะไรจะพูดอีก
“นั่นน่ะ...ขอให้ธีร์มาโฆษณาให้เราได้ไหม”
แม้ว่าผอ.จะรู้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ยังอยากจะถาม
ยังไงซะในโรงเรียนก็มีเด็กเก่ง ถือเป็นชื่อเสียงของโรงเรียน แถมการโฆษณาแบบนี้ยังทำให้คนตื่นตัวกันอีกด้วย
“ขอโทษทีนะคะ พวกเราไม่ได้อยากให้ธีร์มีหน้าในสังคมตอนนี้”
สาริศาปฏิเสธไปตรงๆ หลังจากได้ยินคำพูดของผอ. ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอก็จูงมือธนพัตกับธีร์แล้วจากไป
“พ่อครับแม่ครับ แล้วผมจะไปเรียนที่ไหนล่ะ”
ธีร์ไม่มีโรงเรียนให้ไปแล้วตอนนี้ เขาเลยถามพวกเขา
สาริศากับธนพัตชะงักไปครู่หนึ่งแล้วคิดอย่างรอบคอบ
ในสายตาของพวกเขา ธีร์ไม่เคยอยู่โรงเรียนไหนเกินสามปีเลย เรื่องนี้ทำให้พวกเขาทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
เป็นเพราะพวกเขา หรือเป็นเพราะว่าธีร์เก่งเกินไปกันแน่
แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุหลัก เรื่องหลักตอนนี้คือเรื่องการเรียนของธีร์
“ไม่อย่างนั้น...ให้ธีร์อยู่บ้านแล้วจ้างครูมาสอนดีไหม”
สาริศาคิดว่าด้วยตอนอายุของธีร์ตอนนี้ เข้าไปเรียนมัธยมไม่ได้ เด็กอายุเจ็ดขวบคนหนึ่งจะเข้ามัธยมหรอ
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย แม้ว่าธีร์จะไม่กลัวคำพูดของคนอื่น แต่ก็คิดว่าการเรียนอยู่ที่บ้านก็ไม่เลว ก็เลยพยักหน้าเห็นด้วย
ธีร์เห็นด้วยแล้ว งั้นทุกอย่างก็โอเค
สาริศาขอให้ธนพัตหาครูสอนพิเศษ เธอต้องไปทำงานที่บริษัท
“พี่ริศา มาแล้วหรือคะ”
ทันทีที่เขาเข้ามาในบริษัท ก็ได้ยินเสียงหวานของมิลิน เพราะว่าการไปสัมภาษณ์ธนพัตด้วยกันวันก่อน มิลินเริ่มชอบสาริศาที่จริงจังแต่อ่อนโยนคนนี้แล้ว
พอเห็นสาริศาเข้ามาที่บริษัทก็รีบทัก
“สวัสดีค่ะ"
ตอนนี้ยังเป็นเวลาประมาณบ่ายโมง คนในบริษัทยังน้อยอยู่ มองดูโล่ง
สาริศาวางกระเป๋าแล้วเริ่มทำงานกับกองเอกสารที่เรียบร้อยบนโต๊ะ
แม้จะได้รับอนุญาตจากหัวหน้าบรรณาธิการให้ลาไปเมื่อเช้านี้แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ในใจ
ยังไงซะมันก็เป็นเพราะการขอเชิงบังคับของธนพัตเธอถึงอนุญาต เพราะงั้นควรทำงานให้เสร็จตอนนี้เลยดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...