หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 57

สรุปบท บทที่ 57 ทำอาหารให้ผมทาน: หวานเย็น กรุ่นใจ

สรุปตอน บทที่ 57 ทำอาหารให้ผมทาน – จากเรื่อง หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต

ตอน บทที่ 57 ทำอาหารให้ผมทาน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง หวานเย็น กรุ่นใจ โดยนักเขียน ช็อคโกแลต เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“อาหาร” ธนพัตกล่าวสั้น ๆ “ถ้าหากว่าคุณอยากตอบแทนผม ก็ทำอาหารให้ผมทาน”

สาริศาตาเบิกกว้าง แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองจริง ๆ 

“แค่นี้เหรอ” เธอกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แต่ว่าอาหารที่ฉันทำ รสชาติไม่ได้อร่อยเลยนะ”

เธอยอมรับว่าอาหารที่ตัวเองทำนั้น อย่างมากก็แค่ “ก็แค่ทานได้”เท่านั้น ถ้าเทียบกับฝีมือของป้าแหวน ก็ไม่ต่างกับอาหารในโรงแรมกับอาหารข้างทางดี ๆ นี่เอง

แต่คนคอสูงธนพัตกลับบอกว่า อยากทานอาหารที่เธอทำ

“ทำไม” ธนพัตเลิกคิ้ว “คุณไม่เต็มใจเหรอ”

“แน่นอนว่าไม่ใช่” สาริศารีบกล่าว “เพียงแต่……สามแสนเลยนะ ฉันต้องทำให้คุณทานกี่มื้อเนี่ย?”

“คุณคิดว่ากี่มื้อถึงจะเหมาะสมล่ะ” ธนพัตถามกลับ

สาริศาถูกถามเข้าอย่างจัง

ร้านอาหารทั่วไป อย่างมากแพงสุดก็แค่หลักพัน นี่สามแสน เธอไม่ต้องทำร้อยมื้อขึ้นเหรอ

“ร้อยมื้อ?” เธอถามอย่างระมัดระวัง

เห็นท่าทางสาริศาที่คิดคำนวณอย่างตั้งใจ ธนพัตรู้สึกน่ารักมาก มุมปากจึงยกเป็นเส้นโค้งขึ้นเล็กน้อย “ได้ หนึ่งร้อยมื้อ”

“อย่างนั้นคุณอยากทานอะไร”

“ไม่รู้สิ” ธนพัตกล่าวอย่างใจเย็น “เอาที่คุณถนัดก็พอ”

“แบบนั้นได้ไง” สาริศาคิดในใจ สามพันต่อหนึ่งมื้อเลยนะ จะต้องทำให้ลูกค้าอย่างดีที่สุดสิ “อาหารที่ฉันทำเป็นก็มีไม่เยอะ แบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะดูรายการอาหาร แล้วลองทำให้คุณดู”

“ได้” มุมปาก ธนพัตก็ยิ่งยกเป็นเส้นโค้งขึ้น

วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ธนพัตกลับมีประชุม จึงออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า

เมื่อสาริศาตื่นขึ้นมานั้น ก็ได้เข้าไปในเว็บไซต์ดูรายการอาหาร เริ่มทำการศึกษา

เท่าที่สังเกตในหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เธอสังเกตเห็นว่าธนพัตเหมือนจะชอบทานเผ็ด เธอจึงเลือกทำไก่ผัดพริก ปลาผัดผักดองและต้มเลือดเป็ดใส่ผ้าขี้ริ้ว ลองทำสามอย่างนี้ก่อนแล้วกัน

หลังจากที่ยุ่งมาตลอดครึ่งเช้า เธอก็ทำออกมาได้หนึ่งรายการ จึงรีบทำการถ่ายรูป แล้วส่งไปให้ธนพัตทางไลน์ อยากจะถามถึงความชอบของเขา

ณ ห้องประชุมของTNP Group

หัวหน้าแผนกต่าง ๆ ของบริษัท ในเวลานี้กำลังทำการรายงานอย่างตัวสั่นงันงก

“ประทานธนพัตครับ นี่คือประกอบการของไตรมาสนี้ของพวกเราครับ” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่เป็นหหนึ่งในนั้น พลางกล่าวพลางปาดเหงื่ออย่างระมัดระวัง “ท่านพึงพอใจไหมครับ”

มือที่เรียวยาวของธนพัต เปิดอ่านเอกสารที่อยู่ในมือ สีหน้าเย็นชา “ ผลงานแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะพอใจไหม”

คนที่อยู่ในห้องต่างตกใจจนเหงื่อซึมออกมา

“อย่างนั้น…...ขออนุญาตถามว่าปัญหาอยู่ตรงที่ใดครับ”

“ทั้งหมด” ธนพัตกล่าวสองคำอย่างตรงไปตรงมา แล้วก็โยนเอกสารในมือทิ้ง จากนั้นกล่าวด้วยสีหน้านิ่ง “ทำใหม่”

ทุกคนต่างเงียบ

นี่ก็คือธนพัต ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเข็น แต่ความเป็นผู้นำที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยว ถึงได้ทำให้TNP Group สามารถเติบโตเป็นบริษัทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ในเวลาสั้น ๆ เพียงสองปี

“ครับ ได้ครับ ประทานธนพัต” ชายวัยกลางคนคนนั้นหยิบเอกสารคืนด้วยอาการที่สั่นเทา ผู้จัดการคนต่อไปตัวสั่นเทากำลังเตรียมตัวจะรายงาน แต่เวลานี้——

ตื๊ด

เสียงที่ชัดเจนของโทรศัพท์ได้ดังขึ้น ดังขึ้นท่ามกลางห้องประชุมที่เงียบสงบ

ทันใดนั้น ทุกคนในห้องต่างสีหน้าซีดเผือดลง ต่างสบตากันอย่างลนลาน

ตะกละขนาดนี้เลยเหรอ สาริศาเม้มปาก จึงต้องทำปลาผัดผักกาดดองที่ตัวเองทานไปแล้วนั้นอีกครั้งในตอนบ่าย

ตอนค่ำ ธนพัตกลับมาถึงบ้านนั้น ก็เห็นอาหารบนโต๊ะวางเรียงรายอย่างมากมาย ยังเห็นหญิงสาวที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว

ภาพที่ดูธรรมดาเช่นนี้ กลับทำให้ธนพัตอดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากขึ้น

“คุณกลับมาแล้วเหรอ” สาริศาที่เพิ่งจะสังเกตเห็นธนพัต จึงรีบเดินออกมา “รีบล้างมือแล้วมาทานข้าวสิ อาหารค่อนข้างเยอะ คุณทานได้แค่ไหนก็แค่นั้นนะ ทานไม่หมด ฉันสามารถทำเป็นอาหารกล่องนำไปทานที่บริษัทได้”

“ไม่ต้อง” ธนพัตนั่งลง “ทานหมดได้”

สาริศาไม่คิดแบบนั้น ปริมาณขนาดนี้ ต่อให้เป็นสี่คนก็ยังทานไม่หมด นับประสาอะไรกับพวกเขาแค่สองคน

แต่ว่าความจริงก็ประจักษ์ตรงหน้า เธอประเมินการทานอาหารของธนพัตต่ำไปจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถทานอาหารที่เธอทำจนหมดเกลี้ยงได้

สาริศาดูด้วยความตะลึง เพราะว่าเธอเคยทานอาหารกับธนพัตหลายครั้ง เมื่อก่อนไม่เคยเห็นธนพัตที่แท้จริงแล้วกระเพาะจะใหญ่ขนาดนี้

วันรุ่งขึ้น เป็นวันอาทิตย์ สาริศาก็ยังยุ่งอยู่กับการทำอาหารให้ธนพัตทั้งวัน วันหยุดสุดสัปดาห์จึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันจันทร์ สาริศาไปทำงาน

เมื่อก่อนสาริศานั้นชอบไปทำงานมาก แต่ตั้งแต่ที่ธีภพกลายเป็นบรรณาธิการ เธอก็รู้สึกว่าการไปทำงานนั้นน่ากลัวพอ ๆ กับภัยพิบัติ

แต่ว่าเมื่อกลัวสิ่งใดก็มักจะเจอสิ่งนั้น เธอนั่งอยู่ในบริษัทได้ไม่นาน บรรณาธิการลิลลี่ก็เข้ามาอย่างรีบร้อน “สาริศา ตอนบ่ายฉันต้องไปสัมภาษณ์ เธอช่วยฉันจัดการเอกสารนี้หน่อยนะ แล้วส่งไปที่ห้องทำงานของบรรณาธิการ

สาริศารับมาแล้วขมวดคิ้ว “บรรณาธิการคะ ตอนบ่ายดิฉันต้องเตรียมงานสัมภาษณ์พรุ่งนี้ สามารถวานคนอื่นช่วยนำไปให้บรรณาธิการได้ไหมคะ”

ลิลลี่ยังไม่ทันได้ตอบ ทันใดนั้นชญาภาที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้เอ่ยปากขึ้นอย่างแดกดัน “อุ้ย คุณสาริศา ขอร้องล่ะเธออย่ามาทำเป็นหลอกให้ตายใจแล้วค่อยเขมือบทีหลังไปหน่อยเลย  ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเธอกับคุณธีภพ ใครบ้างไม่รู้ ทำไมเธอต้องมาลำบากแสดงละครด้วย”

สาริศาคิดไม่ถึงว่าชญาภาจะพูดจาแบบนี้ออกมาได้ จึงชะงักขึ้น แล้วมองชญาภาตรงหน้าที่รุ่นเดียวกันกับตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวดขึ้น “ชญาภา เธออย่าพูดจามั่ว ๆ นะ”

“อุ้ย ฉันพูดจามั่ว ๆ หรือว่าเธอระแวงไปเอง” ชญาภาเหลือบตามองสาริศาแวบหนึ่งแล้วยิ้มเยาะ “สาริศา เธออย่าคิดว่าคนอื่นตาบอดสิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ