หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 596

ธนพัตหยิบแก้วน้ำในมือของสาริศาออก แล้วมองหน้าสาริศานิ่ง ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี

ตอนนี้เธอเพิ่งฟื้น ถ้าถูกความจริงจู่โจมจนเสียสติขึ้นมาจะทำยังไง?

แต่สุดท้าย เขาก็มองหน้าสาริศา แล้วเอ่ยตอบ “แปดวันแล้วครับ”

แปดวันแล้ว ตลอดแปดวันที่ผ่านมาธนพัตคอยนั่งเฝ้าสาริศา ไม่เคยห่างแม้แต่วันเดียว ในตอนที่สาริศากินอะไรไม่ได้ ธนพัตก็ใช้ปากป้อนน้ำซุปให้สาริศาดื่ม . . .

อีกทั้ง เขากลัวว่าสาริศาตื่นขึ้นมาจะไม่ชอบที่ตัวเองไม่ได้อาบน้ำ เขาจึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตัวให้เธอทุกวัน แบบนี้ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาจะได้อารมณ์ดี

ในช่วงที่ผ่านมานี้เขาคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ใบหน้าของเขาซูบผอมลงมาก ผิดกับสาริศาที่ดูจะมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย

“แล้ว... น้องธีร์ล่ะคะ?” สาริศานึกถึงสถานการณ์ก่อนที่เธอจะหมดสติไป แล้วนึกถึงธีร์ขึ้นมา

ธีร์ถูกพชิราจับตัวไป ตอนนี้ธีร์อยู่ที่ไหน? ถ้ายังอยู่ในมือของพชิรา ธีร์จะต้องโชคร้ายมากกว่าโชคดีแน่ๆ

พอคิดได้แบบนี้ สาริศาก็มองไปที่ธนพัตด้วยสายตาหวาดหวั่น หวังว่าธนพัตจะตอบเธอเร็วๆ เธอร้อนใจมากอยู่แล้ว ธนพัตมองหน้าสาริศาด้วยความลำบากใจ ไม่รู้จะพูดยังไงดี

“รีบบอกมาสิคะ น้องธีร์อยู่ที่ไหน ยังอยู่ในมือของพชิราใช่ไหม?” สาริศามองไปที่ธนพัตแล้วรู้ว่าแย่แล้ว

ธีร์ยังตกอยู่ในมือของคนชั่ว น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอทันที

ในตอนนั้น เธอเห็นพชิราตบธีร์ ตอนนี้พชิราจะไม่ทรมานธีร์จนตายเลยเหรอ? สาริศาคิดในใจ และมองที่ธนพัตทันที ความโกรธในดวงตาของเธอปรากฏชัดเจนขึ้นมาทันที

“มันเป็นความผิดของคุณทั้งหมด ฉันบอกให้คุณตามพชิราทำไมคุณไม่ตามไป คุณปล่อยให้คนร้ายจับธีร์ไปต่อหน้าต่อหน้าแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณไม่รักลูกชายของเราเลยใช่ไหม?”

ตอนนี้สติของสาริศากำลังจะแตก ถ้าไม่ใช่เพราะยังไม่เห็นธีร์ สาริศาคงทรุดตัวลงบนเตียงในโรงพยาบาลไปนานแล้ว

ธนพัตเห็นว่าสาริศาที่เพิ่งตื่นขึ้นมา แล้วอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ ในใจคิดว่าแย่แล้ว เขาได้แต่มองสาริศา แล้วพยายามพูดปลอบโยนเบา ๆ “ริศา อย่าเพิ่งโกรธครับ เรารู้แล้วว่าน้องธีร์อยู่ที่ไหน ผมสัญญา สามวัน ภายในสามวัน เราจะไปรับน้องธีร์กลับมา และชำระบัญชีความแค้นกับพชิราให้จบ”

ธนพัตพูดปลอบ พยายามทำให้สาริศาสงบสติอารมณ์ลง จากนั้นก็หยิบหมอนมาวางไว้ด้านหลังสาริศา เพื่อให้สาริศาเอนตัวไปพัก

“จริงเหรอคะ คุณจะหาน้องธีร์เจอจริงๆ ใช่ไหม” สาริศาเบิกตากว้างเหมือนเด็กที่รอคอยขนม มองไปทางธนพัต

ตอนนี้คนที่สาริศาเชื่อได้มีแค่ธนพัตคนเดียวเท่านั้นแล้ว

สาริศาไม่อยากถูกหลอก และไม่อยากให้ทุกสิ่งที่เธอรอคอยกลายเป็นความว่างเปล่า ความรู้สึกเจ็บปวดจากความหวังแล้วต้องผิดหวัง สาริศาเคยมีประสบการณ์มาแล้ว

เดิมทีอยากจะไปช่วยธีร์ออกมา แต่ธีร์ยืนอยู่ตรงหน้า สาริศากลับช่วยอะไรไม่ได้ ได้เพียงแต่มองธีร์ถูกลากออกไป โดยที่สาริศาไม่สามารถขัดขวางได้เลย

พอนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น สาริศาก็ฝังหน้าเข้าไปในอ้อมกอดของธนพัต แล้วร้องไห้อย่างทรมานใจ สาริศารู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกควักออกมา มันเจ็บปวดทรมานมากจนเธอหายใจไม่ได้

ธนพัตรู้สึกปวดใจมาก แต่เขาไม่สามารถร้องไห้ได้เหมือนสาริศา เขาทำได้เพียงกอดสาริศาให้แน่นขึ้น

ความรู้สึกที่ได้กอดของรักไว้ในอ้อมกอด มันช่างอุ่นใจจริงๆ

เพราะเพิ่งตื้่น แล้วตกอยู่ในอารมณ์รุนแรง สาริศาร้องไห้อยู่สักพัก ก่อนจะผล็อยหลับไปธนพัตวางสาริศาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ให้สาริศานอนราบบนเตียง แล้วคลุมผ้าห่มให้เธอ

ธนพัตมองดูเวลาปัจจุบัน สาริศานอนอีกสักพักกว่าจะตื่นขึ้นมา ธนพัตจึงออกไปซื้อของกิน สาริศาเพิ่งกินอาหารเหลวได้ ซึ่งไม่ได้ทำให้หายหิว ทำได้เพียงรับรองได้ว่าเขาจะไม่อดตาย

ในเมื่อสาริศาฟื้นแล้ว รอตื่นขึ้นมาตอนเย็น เธอจะต้องหิวมากแน่นอน ดังนั้นธนพัตจึงไปซื้อไว้ล่วงหน้า และรอให้สาริศาตื่นแล้วค่อยทานข้าว

ตอนที่เขาซื้อของเสร็จและกลับไปที่โรงพยาบาล ธนพัตก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบพยาบาลกำลังเก็บของข้างเตียงของสาริศา กลัวจะจะมีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงก้าวเข้าไปเพื่อดูเธอเก็บของ

ในช่วงก่อนหน้านี้ธนพัตดูแลสาริศาเองทุกอย่าง และไม่เคยให้ใครเข้ามายุ่ง เพราะเขาบอกว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา เขาไม่เชื่อใจใคร

พอธนพัตเดินไปที่ใกล้ ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายคือมะเหมี่ยวแฟนสาวของชรัณ พอมะเหมี่ยวเห็นธนพัต ทั้งสองก็พยักหน้าทักทายกันเล็กน้อย จากนั้นมะเหมี่ยวก็เอ่ยพูด

“ชรัณบอกว่าคุณนายน้อยฟื้นแล้ว คุณออกไปซื้ออาหาร ฉันเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไร ฉันก็เลยมาเฝ้าดูให้พร้อมกับทำความสะอาดไว้ให้” คำพูดของมะเหมี่ยวเห็นได้ชัดว่าเธอคิดรอบคอบมาก ธนพัตพยักหน้าให้ แล้วมองไปทางสาริศา . . .

หลังจากที่มะเหมี่ยวเก็บข้าวของเสร็จ เธอก็เอ่ยลาธนพัต แล้วเดินออกไป เธอไม่อยากรบกวนเวลาพวกเขาทั้งสองคน

“ริศาครับ หิวหรือยัง?” ธนพัตยกอาหารในมือขึ้นวาง แล้วมองไปที่สาริศา ใบหน้าของสาริศาซีดมาก อาจเป็นเพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้กินอะไร

แต่น้ำซุปพวกนั้นเป็นยาสมุนไพรบำรุงร่างกายที่ดี และธนพัตเป็นคนทำเองทั้งหมด

สาริศาพยักหน้า เธอเริ่มรู้สึกหิวนิดหน่อย ตอนนี้ธนพัตซื้ออาหารมาแล้วพอดี เธอจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง ธนพัตรีบเดินมาประคอง หลังจากรอสาริศานั่งเรียบร้อย เขาก็เคลื่อนโต๊ะเล็กๆ ไว้ตรงหน้าเธอ จากนั้นก็วางอาหาร แล้วหยิบตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้งออกมาวางไว้ในมือของสาริศา

“คุณกินข้าวหรือยังคะ” สาริศารู้ว่าเพราะต้องดูแลเธอ ธนพัตเองก็ไม่ค่อยได้ทานอะไรเลย จึงเอ่ยถามธนพัต

และแน่นอนว่าธนพัตก็ยังไม่ได้ทานข้าว เขาคิดแต่จะไปซื้ออาหารมาให้ภรรยาของเขาได้ทาน

สาริศาเห็นท่าทางกระอึกกระอักของธนพัตก็รู้ว่าเขายังไม่ได้ทานข้าว จึงบอกให้ธนพัตนั่งตรงข้ามกับเธอ แล้วตักข้าวป้อนใส่ปากของธนพัต และเร่งให้ธนพัตอ้าปาก ทั้งสองคนทำแบบนี้ สาริศาทำการป้อนข้าวให้ธนพัตด้วย ตนเองหนึ่งคำอีกฝ่ายหนึ่งคำ

ธนพัตยกยิ้มอย่างมีความสุข แต่ในรอยยิ้มนี้ มีความขมขื่นแฝงอยู่ด้วย

จำได้ว่าเมื่อก่อนพวกเขาเคยทานข้าวกันเป็นครอบครัว แต่ตอนนี้ กลับเหลือเพียงสองคนเท่านั้น ความรู้สึกที่ขาดสมาชิกไปหนึ่งคนมันไม่สบายใจเอาซะเลย แต่ธนพัตก็ทำอะไรไม่ได้

ได้แต่หวังว่าคนของเขาจะหาธีร์เจอโดยเร็วที่สุด มีแค่แบบนี้เท่านั้น ร่อาการป่วยของสาริอศาถึงจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และครอบครัวของพวกเขาถึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

สามวันที่สัญญาไว้มาถึง ธนพัตโทรมาถามความคืบหน้าว่าไปถึงไหนกันแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวดี ธนพัตปวดหัวมาก ตอนนั้นเขาสัญญากับสาริศาไว้สามวัน ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย เขาจะทำยังไงดี?

สาริศาไม่ได้เร่งเร้าธนพัต เพราะเธอไม่อยากกดดันธนพัต เธอรู้ว่าธนพัตเหนื่อยมากแล้ว ดังนั้นจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ได้แต่หวังว่าธีร์ลูกรักของเธอจะปลอดภัย

จู่ๆ สาริศาก็รู้สึกว่าสิ่งที่หมอดูเคยทำนายไว้ในอดีตกลายเป็นจริง หมอดูคนนั้นเคยบอกว่าชีวิตของเธอต้องสูญเสียลูกชาย แต่รายละเอียดเป็นยังไง สาริศาก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่เนื้อหามันน่าจะเป็นประมาณนี้

สาริศาทรมานใจ และยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เธอต้องสูญเสียลูกชาย ในเมื่อพระเจ้าส่งลูกชายมาให้เธอ เธอก็จะดูแลเขาเป็นอย่างดี หลังจากเรื่องในครั้งนี้ เธอจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับธีร์อีก

“ริศา ริศาครับ”

ธนพัตเรียกสาริศา น้ำเสียงของเขาดูดีใจมาก สาริศามองไปที่ธนพัตด้วยสีหน้าสงสัย หรือว่าพวกเขาจะเจอพชิราแล้ว?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ