หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 60

สรุปบท บทที่ 60 หาเบาะแสเจอแล้ว: หวานเย็น กรุ่นใจ

ตอน บทที่ 60 หาเบาะแสเจอแล้ว จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 60 หาเบาะแสเจอแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ธีภพก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  เมื่อนึกถึงสาริศาเป็นสามีภรรยากับธนพัตอย่างแท้จริง ทรวงอกของเขาก็เหมือนกับมีเปลวไฟลุกโชน ที่ดับอย่างไรก็ไม่ยอมดับสักที

“ทำไม คุณรู้สึกเสียใจไหม ที่ผมก็เป็นคนของตระกูลกีรติเมธานนท์เช่นกัน อีกทั้งเมื่อเทียบกับคนพิการอย่างธนพัตคนนั้น ผมยังแข็งแแรงกว่า” ภายใต้การชักนำของไฟแห่งโทสะ เขาไม่มีเหตุผล เพียงแค่ต้องการดูถูกธนพัต “พ่อผมบอกว่า ธนพัตหลังจากอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน ไม่เพียงแต่สูญเสียขาสองข้าง เรื่องอย่างว่าก็เสื่อมไปด้วย สาริศาคุณนี่มันใจกว้างจริง ๆ เลยนะ ผู้ชายแบบนี้คุณก็ไม่ถือสา นี่คุณต้องการเพียงเงินอย่างเดียวใช่ไหม ถึงได้ยอมทำขนาดนี้——”

“ธีภพ คุณนี่แม่ง หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” สาริศาตะโกนขึ้น

เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อธีภพเหยียดหยามตัวเองนั้น เธอยังสามารถรับมืออย่างใจเย็นได้ แต่เมื่อธีภพเหยียดหยามธนพัตนั้น เธอกลับรู้สึกโมโหโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก!

เมื่อคิดถึงธนพัต คิดถึงความสมบูรณ์แบบของชายหนุ่มคนนั้น ทุกครั้งที่นั่งอยู่บนรถเข็น เผยให้เห็นถึงสีหน้าอ้างว้างอย่างไม่ตั้งใจ  ฉับพลันสาริศาก็รู้สึกว่าธีภพที่อยู่ตรงหน้านี้ค่อนข้างที่จะน่ารังเกียจ!

เพราะว่ามีคนแบบนี้ในครอบครัว ทำให้ธนพัตต้องปกปิดแสงที่เปล่งประกายในตัว แสร้งเป็นคนพิการมากว่าทศวรรษ

ธีภพคิดไม่ถึงว่าสาริศาจะโมโหขึ้นได้ขนาดนั้น จึงชะงักขึ้น

ขณะที่เขาหยุดชะงักขึ้นนั้น สาริศาไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว

“ธีภพ” เธอกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันรู้ว่าคุณไม่สบายใจ เดิมทีฉันคิดว่าฉันกับธนพัตนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการ แต่ว่าพวกเราดันเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องระหว่างฉันกับธนพัต คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ส่วนใดของเขาใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ฉันรู้ดีกว่าคุณ! ”

เมื่อพูดคำเหล่านี้จบ เธอก็ไม่อยากจะเห็นหน้าของธีภพอีก จึงเดินออกไปจากห้องทำงาน แล้วก็กระแทกประตูแรง ๆ

หลังจากที่สาริศาจากไป ธีภพก็อยู่ในห้องทำงานคนเดียว ยืนอย่างเงียบ ๆ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาถึงรู้สึกตัว

หยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วเห็นชื่อ “ไรยา” ที่อยู่บนหน้าจอ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

“ฮัลโหล” เขารับโทรศัพท์ขึ้น น้ำเสียงรำคาญ “มีอะไร”

“ภพขา~” เสียงหวานของไรยาดังขึ้นในโทรศัพท์ “คุณยุ่งมากเลยเหรอคะ”

“ก็ไม่เท่าไหร่ คุณมีธุระอะไร”

“ความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรค่ะ” ในน้ำเสียงของไรยาซ่อนด้วยความน้อยใจ “เพียงแต่ว่างานแต่งของเราได้กำหนดไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ แต่ทำไมฉันไม่เคยได้เจอคุณปู่ของคุณเลย……อย่างไรท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของตระกูลกีรติเมธานนท์ ฉันควรที่จะไปพบท่านหน่อยหรือเปล่า”

ธีภพเดิมทีอยากจะตอบด้วยความรำคาญว่า “ไว้ค่อยคุย” แต่ฉับพลันเหมือนเขาคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาเป็นประกาย

“คุณพูดถูก” เขาสงบสติอารมณ์ลง “ไม่เพียงแต่เป็นคุณปู่ของผม ยังมีอาและอาสะใภ้ของผม รวมไปถึงคนในบ้านตระกูลกีรติเมธานนท์คนอื่น คุณก็ควรจะไปพบ”

“จริงเหรอคะ” ไรยากล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจ “ถ้าอย่างนั้นจะไปเจอกันเมื่อไหร่คะ”

“เร็ว ๆ นี้แหละ” มุมปากของธีภพยกเป็นเส้นโค้งเย็นชา “ผมจะจัดงานเลี้ยงครอบครัวขึ้น จะเชิญชวนทุกคน และทำการแนะนำคุณอย่างเป็นทางการ”

……

เมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น สาริศาก็ออกจากห้องทำงานอย่างรีบร้อน

ตอนที่เธอลุกขึ้นนั้น ยังมีคนไม่น้อยที่ซุบซิบอะไรบางอย่างกันอย่างระมัดระวัง สายตานั้นชำเลืองมามองเธอไม่หยุดหย่อน

เรื่อง ธีภพและก็คนเหล่านี้ที่ชอบซุบซิบนินทา สาริศารู้สึกหงุดหงิดในใจ

วันนี้อาการป่วยของคุณแม่ดีขึ้นแล้ว งานนี้ ควรเปลี่ยนได้หรือยัง

สาริศาครุ่นคิดตลอดทาง เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าธนพัตนั้นอยู่ที่บ้านแล้ว อีกทั้งยังไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น แต่กลับยืนอยู่ในห้องรับแขก

“คุณกลับมาแล้วเหรอ” ธนพัตกล่าวเบา ๆ 

สาริศามองเข้าไปในบ้าน พลางถอดรองเท้าพลางถาม: “ป้าแหวนกับลุงชัยยังไม่กลับมาเหรอคะ”

“ยังเลย ผมให้พวกเขาหยุดลางาน”

“อย่างนั้นฉันจะไปทำอาหารให้คุณนะ”

เมื่อธนพัตเดินจากไป สาริศาก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น จึงรีบทำการหายใจลึก ๆ

ธนพัตไม่นานก็กลับมา แล้วฉีกยาติดแผลค่อย ๆ แปะเข้าที่นิ้วมือของสาริศา ท่าทางที่ตั้งใจในแววตาดำขลับดุจหินออบซิเดียนนั้น ราวกับไม่ใช่สิ่งที่เผชิญนั้นไม่ใช่นิ้วมือที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นสิ่งของที่มีค่า

“โอเคแล้ว” หลังจากที่แปะยาติดแผลอย่างระมัดระวังเสร็จ ธนพัตก็มองไปที่ห้องครัว ขมวดคิ้ว “วันนี้คุณไม่ต้องทำอาหารแล้วนะ พวกเราสั่งจากข้างนอกแล้วกัน”

สาริศาตอนนี้หัวร้อนไปหมดแล้ว ไม่ว่าธนพัตพูดอะไร เธอก็ได้แต่พยักหน้า

ทั้งสองเดินมาที่ห้องรับแขก ธนพัตเปิดดูเว็บสั่งอาหาร จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น แล้วถาม :“คุณอยากจะทานอะไร”

“ฉันอะไรก็ได้ค่ะ”

ธนพัตพยักหน้ารับ แล้วกดเคาะลงที่แล็บท็อปสองสามที

เวลานี้ โทรศัพท์ที่ธนพัตวางไว้บนโต๊ะน้ำชาได้ดังขึ้น

ธนพัตที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น แล้วถามขึ้น :“ใครโทรมา”

สาริศาชำเลืองดู “ผู้ช่วยชรัณค่ะ”

“ช่วยผมเปิดลำโพงหน่อยสิ” 

สาริศาทำตามที่เขาบอก ไม่ช้าเสียงของชรัณก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์

“คุณชายพัทครับ” เสียงของชรัณไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมฟังแล้วรู้สึกตื่น

“ว่ามา”

“เจอเบาะแสสาวน้อยคนนั้นนิดหน่อยแล้วครับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ