“ขอบคุณค่ะพี่” สาริศาก้มศีรษะ แล้วเดินตามชัชวาลเข้าไปในบ้าน
ชัชวาลเตรียมข้าวปลาอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว อาหารที่ชัชวาลทำดีกว่าที่ธนพัตทำมาก เวลาที่เขาอยู่บ้านไม่มีอะไรทำก็มักจะชอบทดลองทำอาหาร
ตอนนี้สาริศามองเห็นอาหารเต็มโต๊ะและยังเป็นอาหารที่ชัชวาลทำด้วยตนเองด้วย เพื่อให้สาริศามีความสุขในวันนี้ เขายังไม่ได้ไปทำงานหนึ่งวันเพื่อจัดเก็บบ้านโดยเฉพาะอีกด้วย
“มาเร็ว ริศานั่งตามสบายเลย” ชัชวาลเห็นว่าสาริศายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนจะคิดมากอยู่จึงเรียกให้สาริศานั่งลง ชัชวาลรู้ว่าสาริศาเปลี่ยนไปมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนไปจนห่างเหินกับพี่ชายคนนี้แล้ว
“อืม” สาริศาพยักหน้า แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ มองดูชัชวาลและมิลินที่กำลังง่วนอยู่ตรงนั้นกันสองคน ดูแล้วยุ่งมาก สาริศาจึงคิดจะเข้าไปช่วย แต่ไม่ไปรบกวนพวกเขาสองคนดีกว่า
“มิลิน ช่วยหยิบซีอิ๊วมาให้ผมหน่อย”
“มิลิน ผูกผ้ากันเปื้อนให้ผมหน่อย จะหลุดแล้ว”
สาริศาได้ยินเสียงชัชวาลเรียกมิลินเป็นระยะๆ แม้จะให้มิลินช่วยเหลือเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ก็สัมผัสได้ว่าระหว่างพวกเขาสองคนนั้นอบอวลไปด้วยความอบอุ่น ในที่สุดอาหารจานสุดท้ายของชัชวาลก็เสร็จแล้ว ตอนนี้ทั้งสามคนก็นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว เริ่มรับประทานได้
“ริศา อันนี้อร่อยมาก กินเยอะๆหน่อย” ชัชวาลคีบอาหารใส่ชามให้สาริศา จากนั้นก็เหลือบมองในชามของมิลิน ท่าทางนี้ เรียกรอยยิ้มได้อย่างมากแต่สาริศาที่สังเกตเห็น กลับกินอาหารในชามตนเองอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร
ชัชวาลและมิลินเองก็รู้ดีว่าเวลาสาริศากินข้าวจะไม่พูดอะไร พวกเขาเองก็กินอย่างเงียบๆเช่นกัน คิดว่าหลังจากกินเสร็จค่อยคุย พูดกับสาริศาด้วยความจริงใจ ช่วยให้สาริศารู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง
ในที่สุดอาหารมื้อนี้ก็ผ่านพ้นไป สาริศาสัมผัสได้ถึงความยับยั้งชั่งใจระหว่างพวกเขาสองคน เธอรู้ว่าทั้งสองคนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงความรักระหว่างกัน แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ สาริศากลับรับรู้ได้ผ่านทางสายตา
สาริศาฟังชัชวาลกับมิลินสาธยายถึงหลักการทฤษฎีต่างๆเนิ่นนานอยู่บนโซฟา แม้ว่าจะไม่ได้พูดเรื่องที่ทำให้เธอเสียใจจนยากจะทนรับไหวออกมาตรงๆ แต่ความหมายก็ไม่ต่างอะไรกันมากนัก
หลังจากได้ฟังแล้วสาริศาก็พยักหน้า เตรียมที่จะไปแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ทุกคนใกล้จะเลิกงานแล้ว เธอก็ควรที่จะกลับบ้านแล้ว มองเห็นท่าทางของชัชวาลและมิลินสองคนอยู่ด้วยกันอย่างรักใคร่ เธอก็สบายใจแล้ว
ระหว่างทางที่สาริศาขับรถไม่รู้ว่าทำไม ในหัวมักจะนึกถึงภาพที่เธออยู่กับธนพัตอย่างรักใคร่ ตอนนั้นเธอมีความสุขมากจริงๆ แต่ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพนี้
สาริศาปาดน้ำตา เริ่มตั้งสติขับรถ ชีวิตในตอนนี้ตกต่ำย่ำแย่มากพอแล้ว เธอจะมีปัญหาอะไร จะเพิ่มความกดดันให้ทุกคนอีกไม่ได้แล้ว
ตอนแรกสาริศาคิดจะกลับบ้าน แต่ขณะที่ขับรถอยู่นั้น ในใจก็ครุ่นคิดไปด้วย จนมาถึงชั้นล่างบริษัทของธนพัตโดยไม่รู้ตัว สาริศามองดูเวลาที่ข้อมือ ยังมีเวลาอีกสิบนาทีถึงเลิกงาน
ธนพัตต้องรับผิดชอบทั้งสำนักพิมพ์นิตยสารและTNP Group ดังนั้นเวลาเลิกงานจึงเหมือนกัน สาริศาจอดรถ จากนั้นก็เดินลงไป ประชาสัมพันธ์ของบริษัทรู้ว่าเธอคือภรรยาของท่านประธาน
“สวัสดีค่ะคุณนาย ฉันช่วยเหลืออะไรคุณได้บ้างคะ” สาวที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทองท่าทางเย็นเยือกของสาริศา พูดอย่างนอบน้อมนี่คืองานของเธอ แต่ดูจากท่าทางของสาริศาในตอนนี้คงจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก
คนในบริษัทต่างก็รู้ดีว่าช่วงนี้คุณธนพัตอารมณ์ไม่ดี แต่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...