ตอน บทที่ 65 ผู้หญิงแบบนี้ ไม่สมควร จาก หวานเย็น กรุ่นใจ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 65 ผู้หญิงแบบนี้ ไม่สมควร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่เขียนโดย ช็อคโกแลต เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
นี่เป็นคฤหาสน์ที่หลังใหญ่มาก ด้านหน้าคฤหาสน์มีรถยี่ห้อดังจอดอยู่มากมาย ในรถนั้นมีสาวสวยงดงามควงแขนของชายหนุ่มรูปหล่อลงมาจากรถอย่างไม่หยุดหย่อน
สาริศา จึงเกิดมึนงงเล็กน้อย
งานเลี้ยงเป็นแบบนี้เหรอ
ช่างหมือนกับในละครทีวีจริง ๆ
สมองของเธอว่างเปล่า ปล่อยให้ธนพัตจูงมือตัวเองเดินเข้าไปในคฤหาสน์
ตลอดทางเดินพบเจอผู้คนมากมาย ที่ดูเหมือนกับเป็นคนบ้านตระกูลกีรติเมธานนท์หรือไม่ก็คนรู้จัก ด้วยเหตุนี้จึงรู้จักสถานะของธนพัต และก็แสดงรอยยิ้มที่สุภาพและให้เกียรติออกมา “คุณชายธนพัต”
คนเหล่านั้นล้วนแสดงท่าทีที่อ่อนโยน แต่สาริศายังคงรู้สึกว่าแววตาของพวกเขานั้นจ้องมองเธอ และมองสำรวจด้วยความสงสัย
สาริศาพยายามที่จะไม่ใส่ใจสายตาเหล่านั้น แล้วเดินตามธนพัตเข้าไปไหนคฤหาสน์
ห้องจัดเลี้ยงในคฤหาสน์อลังการมาก ตกแต่งอย่างหรูหรา ธนพัตพาสาริศาเดินตรงมาที่โต๊ะหลัก ที่ไกล ๆ สาริศาสามารถมองเห็นไรยากับธีภพ
ธีภพส่วนชุดสูทสีเทา เข้ากับรูปร่าง ดูแล้วช่างสง่างาม ส่วนไรยามาในชุดกระโปรงเหลืองอร่ามสดใส ทั้งตัวของเธอราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานสะพรั่งงดงามสะดุดตาคน
“อ้าว ธนพัต แกมาแล้วเหรอ!”
คนแรกที่เห็นธนพัตกับสาริศา ก็คือชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ธีภพ ดูอายุแล้วไม่น่าจะถึงห้าสิบ ใบหน้าดูสดใสตรงไปตรงมา แต่ดันเหมือนเป็นคู่ดวงตาที่ซับซ้อน เห็นแล้วทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
สาริศารีบเดาออกทันที ว่านี่น่าจะเป็นบุรินทร์ พี่ชายของธนพัต พ่อของธีภพ
บุรินทร์เบนสายตาไปมองร่างของสาริศาอย่างรวดเร็ว ในรอยยิ้มแฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง “นี่คือน้องสะใภ้เหรอ ได้ยินชื่อมานาน มา ๆ นั่งก่อน”
สาริศากับธนพัตจึงนั่งลงข้าง ๆ โต๊ะ ธนพัตเริ่มทำการแนะนำให้กับทุกคนที่อยู่บนโต๊ะ สาริศาจึงกล่าวทักทายทุกคนอย่างมีมารยาท
คนแรกที่แนะนำย่อมต้องเป็นท่านประเสริฐ ถึงแม้ว่าสาริศาจะเคยเจอแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ แต่ว่าไม่ได้ทิ้งความประทับใจที่ดีให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนี้ ดังนั้นในเวลานี้จึงต้องแสดงท่าทีออกมาให้ดี ๆ หน่อย
ท่านประเสริฐพ่นลมหายใจทางจมูกทีหนึ่ง แล้วไม่พูดอะไร
ต่อมาก็แนะนำกับบุรินทร์ อีกฝ่ายยังคงมองสำรวจตัวเอง ทำให้สาริศารู้สึกอึดอัด
จากนั้นก็แนะนำให้กับธีภพและไรยา วินาทีที่ธีภพเห็นสาริศานั้น ในแววตาก็ประกายความตะลึงอย่างควบคุมไม่ได้ แต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาสู่ท่าทางเย็นชาเช่นเดิม
ส่วนไรยาจ้องมองสาริศา ที่แววตามีความอิจฉาริษยาที่ยากจะปกปิดได้!
เธอคิดไม่ถึงว่าสาริศาจะงดงามได้ขนาดนี้! ที่แทบจะแย่งซีนเจ้าภาพหลักอย่างเธอเสียแล้ว
ไม่เพียงแต่เท่านี้ สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอตกตะลึงก็คือ ธนพัตคนที่ยืนอยู่ข้างสาริศา
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะรู้อยู่แล้วว่าอาของธีภพมีหน้าตารูปงาม ความสามารถมาก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแค่เพียงคนพิการ ก่อนหน้านั้นไรยายังเคยแอบดูถูกในใจ
แต่ในเวลานี้ เมื่อเห็นตัวจริงของธนพัต ไรยาถึงได้รู้ว่าอะไรคือมังกรในฝูงมนุษย์
เธอเข้าใจมาโดยตลอดว่า ธีภพนั้นเป็นผู้ชายที่เลอเลิศที่สุดเท่าที่เคยเจอมา แต่เมื่อเทียบกับธนพัต ธีภพยังคงเป็นเพียงอ่อนและธรรมดามาก
วันนี้ธนพัตสวมใส่ชุดสูทสีดำเรียบง่ายธรรมดา แต่เมื่อยู่บนตัวของเขากลับดูโดดเด่น ความสุขุมที่ซ่อนด้วยความเรียบง่าย อ่อนน้อมที่ซ่อนด้วยความสง่างาม ยังมีกลิ่นอายความเซ็กซี่เล็กน้อย
ไรยามองจนตาค้างไปแล้ว
ถ้าหากว่าธนพัตไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น เกรงว่าเธอก็คงจะอดรู้สึกไม่ได้ว่า ธีภพที่ตัวเองพยายามทำทุกวิถีทางพันร้อยเล่ห์วิธีเพื่อให้ได้มานั้น ไม่มีอะไรสู้ได้เลย
เมื่อแนะนำให้กับทุกคนที่อยู่บนในงานจนเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเหล่าสาวใช้ก็เริ่มทำการเสิร์ฟอาหาร
มองอาหารอันโอชะที่อยู่บนโต๊ะ สาริศากลับไม่กล้าที่จะทานอย่างตามใจ จึงได้แต่คีบอาหารที่อยู่ใกล้ตัวเองที่สุดอย่างระมัดระวัง
เขาวางตะเกียบในมือลงอย่างแรง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “มีอะไรก็ให้รีบพูดมา ไม่ต้องอ้อมค้อมให้มันมากนัก ฉันเห็นแล้วรู้สึกรำคาญ”
สาริศาได้ยินมานานแล้วว่าท่านประเสริฐเกิดมาในรั้วทหาร และประสบความสำเร็จทางการทหารอย่างมาก
หลังจากที่ออกจากกองทัพ เขาก็ผันตัวไปทำธุรกิจ ด้วยสมองและสองมือของตัวเอง ไม่นานก็ยืนอยู่ในเมืองSด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างมั่นคง
แต่ถึงอย่างไรก็เกิดมาจากรั้วทหาร ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และที่น่ารำคาญที่สุดก็คือสิ่งที่ไม่ตรงไปตรงมา
ธีภพถูกคุณปู่ของตัวเองต่อว่าจนหน้าขาวซีด แต่ก็ยังรีบกล่าวขึ้น:“คุณปู่ครับ ตามที่ผมรู้มา สาริศาตอนที่เรียนหนังสืออยู่นั้น เคยทำเรื่องที่ทรยศกับตัวเอง ผู้หญิงแบบนี้ ผมรู้สึกว่าไม่สมควรที่จะเข้ามาในตระกูลกีรติเมธานนท์ของพวกเราครับ”
เลือดบนใบหน้าของสาริศาได้ลดถดถอยลงไป
เธอไม่ได้รีบร้อนทำการอธิบาย และก็ไม่มีอารมณ์โกรธ มีเพียงเงยหน้าขึ้น แล้วจ้องเขม็งธีภพที่นั่งอยู่ตรงข้าม
เมื่อธีภพพูดประโยคนี้จบ ก็รู้สึกว่าไฟโทสะในใจได้ถูกปลดปล่อยออกมา เดิมทีอยากจะมองสาริศาอย่างมีชัย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เผชิญหน้ากับใบหน้าที่ขาวซีดและดวงตากลมโตของสาริศา
แววตานั้น…
บอกว่าเป็นการตำหนิ สู้บอกว่าไม่อยากจะเชื่อจะดีกว่า
วินาทีนั้น เหมือนกับเข็มเล่มหนึ่ง ทิ่มแทงลงมากลางใจของธีภพ
ธีภพตกใจชะงัก
เพียงพริบตา เขารู้สึกเสียใจกับการกระทำที่หุนหันเมื่อสักครู่ เขาอ้าปากอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น ก็ได้ยินเพียงเสียงร้องขึ้นของแขกเหรื่อที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ ดังขึ้น ——
“โอ้พระเจ้า นั่นคืออะไร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...